หลายคนรู้จัก “คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา” ในฐานะเป็น “นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ” กับการเป็นผู้ก่อตั้ง “กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์” (King Power Group) และยังเป็นประธานสโมสรฟุตบอล “เลสเตอร์ ซิตี้” (Leicester City) ประเทศอังกฤษ ผู้ที่เข้ามาชุบชีวิตใหม่ให้กับทีมจิ้งจอกสีน้ำเงิน ให้สามารถเลื่อนชั้นจากลีกแชมป์เปียนชิฟ ไปอยู่ในพรีเมียร์ลีก พร้อมทั้งคว้าแชมป์มาครอง
แต่อีกมุมหนึ่งที่คนภายนอกอาจจะไม่รู้มากนัก คือ “คุณวิชัย” เป็น “แรงบันดาลใจของการเป็นผู้ให้” โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง หรือเงินทอง แต่เป็นการให้ด้วยความจริงใจ และมีความสุขที่ได้เป็น “ผู้ให้”
“ให้” เพราะอยากแบ่งปันความสุขแก่คนอื่น
การเป็น “ผู้ให้” ของเจ้าสัววิชัย ไม่ได้มาเริ่มเป็นในวัยผู้ใหญ่ หรือในวันที่ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว แต่เป็นมาตั้งแต่วัยเยาว์…
คุณวิชัย เคยให้สัมภาษณ์กับ นิตยสารแพรว ฉบับ 841 เล่าถึงชีวิตในวัยเด็กที่คุณพ่อ-คุณแม่ส่งไปอยู่ไต้หวัน ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต เพราะจากที่อยู่ในเมืองไทย มีคนทำทุกอย่างให้ แต่เมื่อมาอยู่ไต้หวัน ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และต้องเข้มแข็ง
“ถึงเราจะไปอย่างมีฐานะ แต่คุณพ่อคุณแม่ให้เงินอาทิตย์ละ 50 เหรียญสหรัฐ ด้วยความที่มีนิสัย “ชอบให้ มากกว่ารับ” จึงไม่ได้ใช้เงินที่ได้มาเพียงคนเดียว แต่ยังแจกจ่ายให้กับคนอื่น เพราะอยากแบ่งปันความสุขให้กับคนอื่นๆ และหลายครั้งพบว่า “การให้” ของเรา ทำให้ผมไม่เคยจนตรอกสักครั้ง…”
“ให้แรงบันดาลใจ” แก่ชาวโลกว่า ทุกคนสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ !!
เมื่อครั้ง “คุณวิชัย” ตัดสินใจซื้อสโมสร “เลสเตอร์ ซิตี้” แม้เวลานั้นต้องเจอกับคำสบประมาทต่างๆ มากมาย ทั้งไม่เคยทำทีมฟุตบอลมาก่อน แล้วจะบริหารอย่างไร ? อีกทั้งสโมสรที่ซื้อมา อยู่ในลีกแชมป์เปียนชิพ !!
แต่สำหรับ “คุณวิชัย” กลับไม่ได้มองว่าสถานะของ “เลสเตอร์ ซิตี้” เป็นเพียงหนึ่งในสโมสรฟุตบอลชั้นแชมป์เปียนชิพเท่านั้น หากแต่คุณวิชัย มองการณ์ไกลกว่านั้น…
โดยมองว่าถ้าจิ้งจอกสีน้ำเงินตัวนี้ ได้รับการสนับสนุนทั้งด้านเงินทุน และได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างจริงจัง บวกกับความตั้งใจ และความเป็นหนึ่งเดียวของทีม ย่อมมี “โอกาส” ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลในระดับ “พรีเมียร์ลีก” ทัดเทียมกับสโมสรฟุตบอลใหญ่ทั้งหลาย
ในที่สุดแล้วสิ่งที่ “คุณวิชัย” เชื่อมั่น และลงมือทำ ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับทั้งวงการฟุตบอลอังกฤษ และระดับโลก เมื่อ “เลสเตอร์ ซิตี้” สามารถเลื่อนขึ้นมาอยู่ใน “พรีเมียร์ลีก” และคว้าแชมป์ฤดูกาล 2015 – 2016 มาครองได้สำเร็จ !!!
จากทีม “ม้านอกสายตา” ที่ใครๆ ต่างมองข้าม แต่ “คุณวิชัย” ได้ทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังเงิน และใจเกินร้อย เพื่อทำให้จิ้งจอกสีน้ำเงิน กลายมาเป็น “จิ้งจอกสยามเลสเตอร์ ซิตี้” ที่เป็น “ดาวเด่น” ในระดับชั้นพรีเมียร์ลีกดังเช่นทุกวันนี้ ที่คนทั่วโลกต่างยอมรับถึงความเป็น “นักสู้” ของทุกคนในทีม
คุณวิชัย เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไทย ถึงตลอดระยะเวลา 8 ปีที่เข้ามาบริหารสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นคำพูดที่สะท้อนให้เห็นว่า “บอส” คนนี้ รักและผูกพันกับทีมนี้มากแค่ไหน…
“หลังการทำงานหนักอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 8 ปี เราได้ก้าวข้ามอุปสรรคมากมาย พร้อมทั้งสร้างความทรงจำที่มีคุณค่า เรากำลังจะลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นฤดูกาลที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งเกือบจะเท่าสถิติสูงสุดในการอยู่ในลีกสูงสุดของสโมสรนับตั้งเเต่การก่อตั้งของพรีเมียร์ลีก นอกจากนั้นเรายังสามารถคว้าเเชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งเเรกของสโมสร
เราเริ่มต้นด้วยเป้าหมายในการทำให้สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรที่เป็นหนึ่งในทีมที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และต่อเนื่องในพรีเมียร์ลีก เราก็ได้ก้าวหน้ามาในทิศทางที่ถูกต้องนับตั้งเเต่เราเข้ามา สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้ต้องขอบคุณการทำงานหนัก เเละความทุ่มเทอย่างไม่หยุดของผู้บริหาร, นักฟุตบอล, พนักงาน เเละแฟนบอลทุกคนที่เเสดงความศรัทธาในความมุ่งมั่นกับเป้าหมายของเรา
ผมรู้สึกภูมิใจในสิ่งที่เราสร้างกับสโมสรแห่งนี้ เเละภูมิใจในทุกคนที่มีส่วนทำให้สโมสรเดินหน้ามาถึงทุกวันนี้ เเต่เราจะไม่สามารถหยุดอยู่กับความสำเร็จในอดีตเท่านั้น เรายังต้องตั้งเป้าหมาย และเดินหน้าต่อไปเพื่อความสำเร็จในอนาคต” (ที่มา : TrueID : http://sport.trueid.net/detail/153451 และ เดลินิวส์ : https://www.dailynews.co.th/sports/662893)
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับ “เลสเตอร์ ซิตี้” ไม่เพียงแต่เฉพาะในอังกฤษเท่านั้น เพราะ “คุณวิชัย” ยังได้นำชื่อเสียงกลับมาสู่ประเทศไทย ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่พิสูจน์ให้ชาวโลกเห็นว่า คนไทยสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ให้กับคนทั่วโลก ได้เห็นว่าหากเรามีความมุ่งมั่น – ลงมือทำจริง เราก็สามารถไปถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ และเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของโลกได้เช่นกัน !!
“ตั้งแต่เราทำสโมสร “เลสเตอร์ ซิตี้” ขึ้นชั้นพรีเมียร์ลีก และเป็นแชมป์ ทำให้คนต่างชาติได้เห็นในความสามารถของคนไทย และเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งโลกเห็นว่าทีมเล็กๆ อย่าง “เลสเตอร์ ซิตี้” สามารถเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้
เพราะฉะนั้นคนเรา ถ้าตั้งใจลงมือทำอะไรก็ตามอย่างจริงจัง ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ และจากตรงนี้เอง เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนทั้งโลกเห็นว่า คนไทยทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน” คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ เล่าถึงความสำเร็จของเลสเตอร์ ซิตี้ ที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก
“ให้โอกาสเยาวชนไทย” ก้าวสู่นักฟุตบอลลีกยุโรป
ในประเทศไทย มีเยาวชนไทยจำนวนมากที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ และหนึ่งนความฝันสูงสุดของเส้นทางสายนี้ คือ การได้เป็นนักเตะในลีกยุโรป แต่ที่ผ่านมา เยาวชนไทยหลายคนไม่มีโอกาส และไม่ได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพเลือนรางไปทุกทีๆ
“คุณวิชัย” เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล และติดตามทั้งวงการฟุตบอลต่างประเทศ และไทยมาโดยตลอด ได้รับรู้ถึงอุปสรรคเส้นทางก้าวสู่นักฟุตบอลอาชีพของเยาวชนไทย
ดังนั้นเมื่อได้เป็นเจ้าของสโมสร “เลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ และ สโมสร OH Leuven ประเทศเบลเยียม “คุณวิชัย” จึงมองว่าการมีสโมสรฟุตบอลของตัวเอง จะเป็นช่องทางที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านกีฬาฟุตบอลให้กับเยาวชนไทยอย่างครบวงจร
ด้วยเหตุนี้เอง “บันไดก้าวแรก” ในการสานความฝันการเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้กับเยาวชนไทยจึงถือกำเนิดขึ้น ในชื่อ “FOX HUNT ตามล่าจิ้งจอกสายพันธุ์สยาม” เฟ้นหานักกีฬาฟุตบอลทั่วประเทศไปฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลที่สโมสรทั้งสองแห่ง เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อต่อยอดอนาคตของนักเตะเยาวชนไทย ได้มีช่องทางเข้าไปเล่นในลีกฟุตบอลระดับยุโรป และปัจจุบันนักกีฬาที่ผ่านโครงการ FOX HUNT ได้กลายเป็น “นักฟุตบอลมืออาชีพ” แล้ว มีทั้งเซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลในไทย และในยุโรป
“ให้คุณภาพชีวิตที่ดี” แก่คนไทย
เป็นที่ทราบกันดีว่า ระบบสาธารณสุขของเมืองไทย ยังไม่ได้รับการพัฒนาที่ดีนัก ทำให้โรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัดหลายแห่ง ขาดอุปกรณ์การรักษาพยาบาล และการดูแลคนป่วย ในขณะที่มีคนไทยจำนวนมาก ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
“คุณวิชัย” เล็งเห็นว่า “ระบบสาธารณสุข” เป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ และคุณภาพชีวิตคนไทยอย่างยั่งยืน ทำให้ตลอดระยะเวลากว่า 1 ทศวรรษ ชายคนนี้ทุ่มเทให้กับงานด้านนี้อย่างจริงจัง ด้วยการจัดตั้ง “มูลนิธิคิง เพาเวอร์” ซึ่งปัจจุบันดำเนินงานมาแล้ว 13 ปี
โดยร่วมสนับสนุน ทั้งด้านงบประมาณ และอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ เช่น สนับสนุนงบประมาณ “โครงการก้าวคนละก้าว” ที่จัดกิจกรรมวิ่งการกุศล ระยะทาง 2,191 กิโลเมตร โดย “ตูน บอดี้แสลม” เส้นทางจากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ถึงอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมอบเงินรวมทั้งสิ้น 100 ล้านบาท
แม้วันนี้ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ได้จากไปแล้ว แต่คุณค่าของผลงาน และคุณงามความดีที่ทำให้กับประเทศชาติ คนไทย แฟนทีมเลสเตอร์ ซิตี้ และชาวเมืองเลสเตอร์ ยังคงอยู่ในใจชาวไทย และชาวต่างประเทศชั่วนิจนิรันทร์