เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทาง Air Asia หรือ Asia Aviation (AAV) ส่อแววว่าจะเข้าซื้อหุ้นของนกแอร์ โดยอยู่ในขั้นของการประเมินและศึกษา กระทั่งล่าสุด Air Asia ก็ประกาศชัดเจนในการส่งหนังสือไปยังกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงการชี้แจงเรื่องการพิจารณาการลงทุนเข้าซื้อหุ้นช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา โดยท้ายหนังสือได้ระบุชัดเจนว่า
“บริษัทจะไม่ดำเนินการต่อ”
เมื่อย้อนรอยกลับไปดูในช่วงที่นกแอร์เจริญเฟื่องฟู ถือเป็นสายการบินโลว์คอสท์ชั้นแนวหน้าของไทย จนเป็นที่หมายปองของนักลงทุนในการเข้าซื้อหุ้น แต่เมื่อมาถึงช่วงปี 2559 นกแอร์ก็เข้าสู่โซนวิกฤติเมื่อพนักงานต่างนัดหยุดงาน ซึ่งรวมไปถึงนักบินด้วย ส่งผลให้ภายในองค์กรเกิดผลกระทบตามมามากมายและถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของนกแอร์
ผลพวงจากเหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้มีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารระดับสูง รวมไปถึงการเปลี่ยนสัดส่วนผู้ถือหุ้น จากเดิมที่การบินไทยถึงหุ้นใหญ่สุด เปลี่ยนมาเป็นคนในตระกูล “จุฬางกูร” โดยในปี 2560 คนในตระกูลจุฬารกูรถือหุ้นรวมกว่า 42.19%
งานนี้ต้องตามต่อไปว่า นกแอร์จะแก้ปัญหาอย่างไร เมื่อมีการระบุว่า นักลงทุนอย่างการบินไทยที่ถือหุ้นในสัดส่วนไม่น้อย แสดงความชัดเจนแล้วว่าไม่มีการเพิ่มทุนในนกแอร์อีกต่อไป
Source: SET