คุณคิดว่าอะไรคือ “ความจำเป็น” ของการดำเนิน “ธุรกิจ” ในปัจจุบัน
เครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยเพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ สินค้า–บริการต้องโดดเด่นจากแบรนด์คู่แข่ง กลยุทธ์ใหม่ ๆ กับความคิดอย่างแตกต่างไม่ซ้ำซาก เงินทุนที่ต้องพร้อมให้ธุรกิจเดินหน้าโดยไม่สะดุด หรือการมีที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือคุณอย่างจริงใจทุกปัญหาธุรกิจ
จริง ๆ แล้ว ผู้ประกอบการตัวจริงคงเข้าใจและรู้ดี ว่าทุกเรื่องที่เราหยิบยกมาข้างต้นนี้ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญกับ SME ทั้งหน้าใหม่และรายเก่า แต่โจทย์ใหญ่ของเรื่องนี้คือ…คุณจะหา หัวใจธุรกิจ เหล่านี้จากที่ไหน?
ไม่แน่ใจว่าคุณคุ้นเคยกับ “โครงการ IEP” (Intelligent Entrepreneur Program) ภายใต้การดำเนินงานของ SCB SME หรือยัง
ก่อนหน้านี้ เรารู้ว่า IEP เป็นหนึ่งในโครงการสนับสนุน SME ไทย ซึ่ง SCB SME สานต่อมาถึงรุ่นที่ 15 แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ความโดดเด่น ที่ SCB SME ปลุกปั้นผ่านโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างความแตกต่าง ความประทับใจแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ จนกลายเป็นสายสัมพันธ์ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละรุ่น แต่ยาวนานและมากมายจากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็นชุมชน SME ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็น “สังคมคุณภาพของ SME ไทย”
เรื่องแบบนี้ ให้ใครบอกก็คงไม่น่าเชื่อเท่ากับผู้ที่มีประสบการณ์ตรง เป็นโอกาสดีที่เราจะได้รู้จักกับ IEP มากขึ้น และได้รู้ว่า SCB SME เข้ามาช่วยธุรกิจของพวกเขาอย่างไร ในยุคที่ SME มาเร็ว-ไปเร็ว! เช่นนี้
“สร้าง SME Ecosystem เติมเต็มความต้องการผู้ประกอบการ”
เริ่มต้นจาก คุณอุกฤษฎ์ ตั้งสืบกุล (มิ้น) เจ้าของบริษัท Minted Images ผู้เชี่ยวชาญ Digital Marketing ซึ่งมี Certified Training Partner ของ Facebook, LINE@, Google กับรับหน้าที่ให้คำปรึกษา SME รวมถึงธุรกิจ Luxury brand, Real Estate และ Lead generation platform เป็นวิทยากรบรรยายให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
โดยคุณมิ้นเริ่มต้นเล่าให้เราฟังว่า โครงการ IEP รุ่นที่ 15 เปรียบเหมือนพาคนจากแต่ละยอดดอยมาเจอกัน
“เดิมเราอาจอยู่กันคนละภูเขา อยู่บนธุรกิจของแต่ละคน จนวันนึงเราได้มาเจอกันเพราะอยากรู้ในเรื่องเดียวกัน จริง ๆ แล้วอาจเป็นเพราะทัศนคติแบบเดียวกันทำให้เราทุกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว IEP 15 ซึ่งทำให้พัฒนาการชีวิตเรามีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น จากการที่มาเจอกันและได้รับแรงบันดาลใจจากทุก ๆ คน ทั้งเพื่อนร่วมรุ่น ทั้งเมนทอร์ เหมือนเป็นสารตั้งต้นที่มีคุณภาพซึ่ง SCB SME เป็นผู้เลือกมาให้ นอกจากทำให้พวกเราที่เป็น SME ได้กล้าเปิดใจ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่าง ๆ ร่วมกัน ผลที่ได้รับจึงมากกว่าที่เราได้คิดไว้ในตอนแรก”
คุณมิ้น ยังแสดงความเห็นอีกว่า จริง ๆ แล้วหลักการทำธุรกิจในปัจจุบัน คือ การมีผู้สนับสนุนที่ดี ตั้งแต่การสนับสนุนความรู้ การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงกัน จนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ แต่ในกลุ่ม IEP 15 สิ่งที่เกิดขึ้นคือทุกคนเข้ามาเพราะอยากได้ความรู้กลับไปต่อยอดธุรกิจของตัวเอง ไม่ได้เข้ามาเพื่อสร้างคอนเนกชั่นหารายได้ นี่ถือเป็นความสำเร็จที่ SCB SME สะท้อนผ่านโครงการนี้ได้มากที่สุด เพราะความรู้นั้นหาได้ทั่วไปแต่เรื่องการเปิดใจและให้ใจกับคนอื่น ๆ นั้นเกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากการทำธุรกิจนั้น วิธีคิดสำคัญกว่าวิธีทำ ดังนั้นการเริ่มต้นด้วยมีคนรับฟัง ให้กำลังใจ จึงเป็นหลักสำคัญในการทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสิ่งที่ได้รับจากเพื่อนร่วมรุ่น 15 และเมนทอร์ที่เคยผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ บนเส้นทางธุรกิจมาก่อนเรา ซึ่งสิ่งที่เราได้ในวันนี้คือการใกล้ชิดผู้บริหารธุรกิจระดับสูงในธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในฐานะเมนทอร์ประจำกลุ่ม ให้เราได้คำปรึกษา ได้เรียนรู้วิธีคิด วิธีทำธุรกิจจากเมนทอร์ได้ฟรี ๆ และเป็นคำปรึกษาจากคนที่จริงใจ
“การที่เราได้รวมกันก็คือการสร้างคอนเนกชั่น ซึ่ง IEP ได้เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นมิตร ทุกคนที่เจอกันในโครงการล้วนเรียกได้ว่าเป็นกัลยาณมิตร ทุกคนกลายเป็นจุดที่เชื่อมโยงกันไปที่ละจุด กับเป้าหมายที่เราต้องการสร้าง SME ไทยให้แข็งแกร่ง เพื่อพัฒนาประเทศไทยต่อไป นี่คือเรื่องสำคัญเพราะการเริ่มต้นธุรกิจนั้นจำเป็นต้องใช้แรงขับจากตัวเอง แต่การจะก้าวต่อไปให้ไกลนั้นจำเป็นต้องมีผู้รู้จริงพาคุณไป ซึ่งปัญหาอะไรที่ SME ติดขัดก็สามารถเข้ามาหาตัวช่วยจาก SCB SME ได้ ตั้งแต่วันที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ IEP ก็ทำให้เราเข้าใจประสบการณ์ แนวคิดของคนที่ทำธุรกิจสำเร็จมาก่อนเรา โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้เอง”
โดย คุณมิ้น ทิ้งท้ายว่า สำหรับผมภาพของ SCB SME ในวันนี้ไม่ใช่แค่ธนาคาร ถ้าคุณเป็น SME ที่อยากมีคนรับฟัง เข้าใจ และพร้อมสนับสนุนให้คุณเติบโต ต้องลองมาที่ SCB Business Center อย่ากลัวว่าจะต้องเสียเงินซื้ออะไรเพราะทุกอย่างที่นี่มีแต่ของฟรีมอบให้ ไม่ได้อยากให้คุณเชื่อที่ผมบอกแต่อยากให้มาลองดูด้วยตัวเอง ผมคิดว่านี่คือตัวอย่างที่ดีของสังคมไทย
“เพราะทุกคนเปิดใจแบบไม่กั๊ก! ความสำเร็จจึงเติบโตได้แบบก้าวกระโดด”
ถัดมาที่ คุณวนิดา ประภารัตน์ (ยิ้ม) เจ้าของแบรนด์แฟชั่น Hamburger Studioที่ เริ่มต้นจากความรักและความชื่นชอบในการแต่งตัว จนมีโอกาสเปิดหน้าร้านเล็ก ๆ สู่การปั้นแบรนด์จนสามารถขยายสาขาในแหล่งเศรษฐกิจกลางกรุงเทพฯ อย่าง ZEN เซ็นทรัลเวิลด์และในเครือเซ็นทรัล สยามสแควร์ เอ็มควอเทียร์ รวมทั้งช่องทางออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ซึ่งคุณยิ้ม เล่าว่าเป็นคนชอบเรียนและมีโอกาสได้เข้าร่วมอบรมหลายหลักสูตร แต่บอกได้เลยว่า IEP ค่อนข้างแตกต่างเพราะเป็นการเรียนที่เน้นมาปรับใช้กับธุรกิจแบบจริงจัง เป็นการ Learning by Doing รวมทั้งสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อน ๆ ในคลาสได้อย่างสนุกสนานและเป็นกันเองมากกว่าที่คิดเอาไว้ “อาจเป็นเพราะเราเป็นคนทำธุรกิจที่จำเป็นต้องรู้ในเรื่องเดียวกัน เจอปัญหาคล้าย ๆ กัน การแบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์จึงเป็นประโยชน์มาก นอกจากได้ความรู้ ยังได้เพื่อนคู่คิดทางธุรกิจด้วย ซึ่งจะทำให้เราเติบโตได้เร็วกว่าเดิม และบรรยากาศตลอดหลักสูตรก็เป็นไปแบบพอดี และลงตัวมาก ๆ สนุกสนาน แต่ก็ไม่เหนื่อยจนเกินไป”
นอกจากนี้ คุณยิ้ม ยังเล่าถึงความประทับใจที่ได้จาก IEP ว่า “มีกิจกรรมในโครงการ ที่กำหนดให้ทุกคนทำ Business Plan ตอนแรกกังวลมาก เพราะงานยุ่งไม่ค่อยมีเวลา แต่เพื่อน ๆ ในรุ่นทุกคนทำ ซึ่งเรามองว่าทุกคนทำธุรกิจก็ยุ่งเหมือนกัน ทุกคนยังทำ เราก็เลยทำและทำอย่างตั้งใจมาก ๆ ยิ่งทำให้รู้สึกดีมาก เพราะมีประโยชน์กับเรามาก ๆ นอกจากจะนำมาใช้กับโปรเจ็คใหม่ได้แล้ว ยังทำให้เราได้ย้อนกลับมาดูธุรกิจ ตัวเองและเช็คองค์กรของเราว่าที่ผ่านมาเราลืมหรือพลาดอะไรไปบ้างหรือป่าว นอกจากนี้ก็ต้องยอมรับว่าประทับใจในความเป็นกันเองที่ทุกคนเปิดใจและจริงใจต่อกัน ทั้งเพื่อนร่วมรุ่น พี่ ๆ รุ่นอื่น หรือแม้แต่ Mentor ไม่มีใครทำให้เรากังวลกับการขอคำปรึกษาเลย แม้ในช่วงแรกจะรู้สึกเป็นกังวลในการนัด การโทรปรึกษา แต่วันนี้โชคดีมากที่ทุกคนแสดงให้เห็นว่าอยู่รอบตัวเราจริง ๆ ไม่มีกำแพงกั้น ความรู้สึก พร้อมให้คำปรึกษาได้ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว”
คุณยิ้ม ยังยืนยันถึง Connection คุณภาพ ที่ได้รับจาก IEP 15 อีกว่า ตั้งแต่ได้เข้าโครงการ IEP ก็สัมผัส ได้ว่าความแข็งแกร่งและคำว่าไม่สิ้นสุดของคอนเนกชั่นเป็นอย่างไร เพราะเราคือคนสายพันธุ์เดียวกัน เป็นคนทำธุรกิจที่แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ทุกคนก็เปิดใจและเป็นเพื่อนกัน ช่วยเหลือและติดต่อกันตลอด
และการมีคอนเนกชั่นที่แข็งแกร่งจาก IEP ในวันนี้ ทำให้เราคิดย้อนไปถึง 2-3 ปีที่ผ่านมา กับการเริ่มต้นทำธุรกิจเพียงลำพัง หากมีโอกาสเจอคนเก่งตัวจริงทางธุรกิจตั้งแต่วันนั้น อาจทำให้เราไม่ต้องเจอปัญหาหลาย ๆ เรื่อง ไม่ใช่ว่าเราต้องเชื่อทุกคำที่พี่ ๆ เพื่อน ๆ แนะนำ แต่เรื่องราวเหล่านั้นทำให้เราสามารถเลี่ยงปัญหาหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้น และยังทำให้เราได้มองตัวเองว่ารู้อะไร ไม่รู้อะไร และควรต้องรู้อะไร เพราะที่เพื่อน ๆ เล่ามาบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน
หลังจบหลักสูตรก็ทำให้มีเป้าหมายธุรกิจที่ชัดขึ้น IEP ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าเราอยู่ตัวคนเดียวในโลกธุรกิจ ทุกคนมีปัญหาและทุกคนสามารถผ่านไปได้ เข้าใจว่าคนทำธุรกิจมีความเหนื่อย ความกังวล ซึ่งไม่รู้จะหันหน้าไปคุยไปบอกใคร แต่จากนี้อยากให้เข้ามาสัมผัส SCB Business Center มาเปิดใจเป็น IEP รุ่นต่อ ๆ ไป ที่นี่มีแต่คนที่พร้อมรับฟัง ให้คำปรึกษาคุณได้ มีเพื่อน มีคนดี ๆ ที่จะทำให้คุณไม่รู้สึกว่าเดินคนเดียว
“เริ่มต้นช้าไม่ใช่อุปสรรค แค่มุ่งมั่นและมีตัวช่วยที่ดี = Success”
เป็นบุคคลที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาในวงการบันเทิง แต่วันนี้ คุณภารดี วงษ์สวัสดิ์ (เปิ้ล) ผันตัวมาทำธุรกิจหลากหลายประเภท ทั้งดูแลร้านพิซซาโซ่ อาหารอิตาเลียน เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กแบบออร์แกนิคแบรนด์ 10 mois ซึ่งมีช็อปอยู่ที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่และสยามพารากอน รวมถึงธุรกิจเสื้อผ้าที่ทำร่วมกับเพื่อนสนิท ซึ่งคุณเปิ้ลเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ IEP 15 ว่า ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการเพราะต้องการความรู้
“ไม่ใช่แค่เมนทอร์ แต่เรามองทุกคนในรุ่นที่ 15 เป็นเทพ ทุกคนคือเทพทางธุรกิจในมุมมองของเรา แต่ทุกคนยังไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ขณะที่เราเลือกมาที่นี่เพราะอยากได้ความรู้ ซึ่งนอกจากกิจกรรมและหลักสูตรของ IEP เรายังสามารถปรึกษา ขอคำตอบจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ และเมนทอร์ได้แบบไม่ต้องกั๊ก ถือเป็นความแตกต่างจากโครงการเพื่อ SME ด้วยการมีเมนทอร์ซึ่งเป็นนักธุรกิจตัวจริงเสียงจริงมาให้ความรู้กับเราอย่างจริงใจ ไม่หวงประสบการณ์ ไม่หวงความรู้”
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการอยู่ร่วมกันใน IEP 15 คือ แค่เรายอมรับว่าเรายังขาด ไม่รู้ ยังหาเป้าหมายไม่เจอ แม้จะเริ่มต้นธุรกิจช้ากว่าคนอื่นก็ทำให้ได้คิดว่าไม่ใช่ปัญหาและไม่ควรท้อถอย ถ้าคนอื่นออกเดินไปก่อนเราก็ต้องวิ่งเพื่อให้ก้าวทันเขา ต้องพยายามให้มากขึ้น ไม่รู้ก็ถามคนรอบตัว ในเมื่อ SCB SME คัดตัวจริงด้าน SME มาให้แล้ว เราก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป เรียนรู้จากประสบการณ์ของพี่ ๆ ทุกคน เพื่อทำให้เราประสบความสำเร็จได้ง่ายและเร็วขึ้น หรือแม้แต่การได้ลองผิดลองถูกจากกิจกรรมในหลักสูตรที่กระตุ้นให้เราคิดใหม่มองใหม่ ก็ดีกว่าที่เราไม่เคยวางแผนเลยแล้วต้องผิดพลาดในธุรกิจจริง
คุณเปิ้ล ยังทิ้งท้ายอีกว่า เพราะมนุษย์อยู่คนเดียวบนโลกไม่ได้ การทำธุรกิจก็เช่นกัน หากขาดคอนเนกชั่นและผู้ให้คำปรึกษาที่ดีก็ไม่สามารถสร้างการเติบโตได้ โดยเฉพาะการเป็นสมาชิก IEP ซึ่งทำให้เราเชื่อว่ายิ่งให้ยิ่งได้กลับมา การก้าวให้ทันโลกยิ่งจำเป็นต้องมีคนเดินไปด้วยกัน ช่วยคิด ช่วยแนะนำ ไม่ว่าจะเริ่มต้นธุรกิจจากตัวเองหรือสืบทอดความสำเร็จมาจากครอบครัวก็ตาม ทุกคนใน IEP ไม่ว่าจะรุ่นไหน ทำให้เรารู้ว่าทุกคนมีปัญหาคล้ายเรา ทั้งใหญ่ทั้งเล็กแต่ทุกคนก็ผ่านมาได้ เราจึงต้องแข็งแกร่งให้มากขึ้น ให้คุ้มกับที่ทุกคนในบ้าน IEP ได้ถอดตำแหน่ง ทิ้งสูท และเปิดใจกับเรา สำหรับคนที่เป็น SME ยิ่งควรมองภาพ SCB SME ใหม่ ที่นี่ไม่ใช่แค่ธนาคารฝาก-ถอนเงิน แต่เป็นสถานที่ให้คำปรึกษา ทำให้คุณต่อยอดธุรกิจได้ และเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจและการเงินได้ด้วย แค่คุณเดินเข้าไปสร้างโอกาสให้ตัวเองจาก SCB Business Center ทุกสาขา
“ลบภาพธุรกิจเข้าหากันด้วยผลประโยชน์ สู่ครอบครัว จริงใจ สนับสนุนทุกก้าว!”
คุณลลิตา เลิศรัตนชัยกิจ (แป๊ป) ผู้บริหารบริษัท โฮมเฟรชไฮโดรฟาร์ม จำกัด ร้านอาหารเพื่อสุขภาพสไตล์อิตาเลียน กับฟาร์มผักสลัดของทางร้านในชื่อ Home Fresh Hydro Farm ซึ่งเลือกต่อยอดธุรกิจสู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ภายใต้แบรนด์ De La Lita เล่าให้เราฟังว่า ทุกคนใน IEP 15 คือคนเก่งที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจที่แตกต่างกัน มารวมกันเพื่อช่วยเหลือ แบ่งปัน โดยไม่มองว่าคนอื่นคือคู่แข่งทางธุรกิจ
“เป็นเรื่องน่าแปลกที่ทุกคนมารวมกัน รู้จักกันในระยะเวลาแค่ 2 เดือนของหลักสูตร แต่สามารถเปิดใจ แนะนำ ช่วยเหลือกันแบบไม่มีใครกั๊กใคร บางคนกล้าถึงขนาดเปิดเผยข้อมูลธุรกิจด้วยซ้ำ สะท้อนได้เลยว่าทุกคนพร้อมช่วยเหลือกัน ยิ่งเป็นการนัดขอคำปรึกษาจากเมนทอร์ จากพี่ ๆ หลายคนซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงทั้งสิ้น ก็ทำได้ง่าย ๆ มั่นใจว่าโอกาสแบบนี้มีแค่โครงการ IEP ที่ทำได้ คอนเนกชั่นที่เกิดจากการรู้จักทุกคนสามารถต่อยอดธุรกิจเราได้ หลาย ๆ เรื่องที่เราเคยกังวลก็ขอคำแนะนำจากครอบครัวนี้ได้ เรียกว่าเราไม่โดดเดี่ยวอยู่กับธุรกิจคนเดียวอีกต่อไป เพราะมาเจอผู้คนที่พูดภาษาธุรกิจเหมือนกันที่นี่”
คุณแป๊ป ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เครือข่ายที่ SCB SME รวมและทำให้พวกเราได้สร้างนี้ ถือเป็นการเชื่อมโยงคนแต่ละคนที่เปรียบเสมือนจุดเล็ก ๆ เข้าด้วยกัน โดยทุกจุดล้วนทำหน้าที่ให้ซึ่งกันและกัน เกิดเป็นเครือข่ายใยแมงมุมที่เติบโตและแข็งแรงขึ้นทุกวัน ทำให้ธุรกิจสามารถก้าวหน้าได้รวดเร็วขึ้นเพราะมีเพื่อนคู่คิดคอยช่วยเหลือ ยกตัวอย่างเรื่องของตัวเองในวันที่ธุรกิจเดินมาเจอทางแยก ทั้งท้าทายและเป็นโอกาสอย่างมหาศาล ยิ่งทำให้เราไม่กล้าตัดสินใจ จึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษาเมนทอร์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจาก SCB Business Center ซึ่งแนะนำและอธิบายให้เรามองเห็นภาพธุรกิจในอนาคตได้ชัดเจนขึ้น ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่พวกเขามี ทำให้ความต้องการของเราชัดเจนขึ้นอีกครั้งว่าที่จริงแล้วเราต้องการอะไร ยิ่งย้ำว่าการเป็นส่วนหนึ่งใน IEP 15 คืออีกหนึ่งความภาคภูมิใจในชีวิตเรา
“วันนี้คนส่วนใหญ่ยังมองธนาคารเป็นคนที่ใส่สูท เข้าถึงยาก ต้องใช้ประโยชน์มาแลกเปลี่ยนกัน แต่ SCB SME พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาทำธุรกิจแบบครอบครัว เหมือนป๊าคอยช่วยเหลือลูกทำธุรกิจ ทั้งสนับสนุนงบประมาณและให้คำปรึกษาอยู่ไม่ห่าง แถมเป็นครอบครัวที่มีพี่ชาย พี่สาว เป็นเมนทอร์แนะเคล็ดลับความสำเร็จให้ ทั้งหมดนี้ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า ทำให้ป๊าผิดหวังไม่ได้ที่เขาให้เงินเรามาทำธุรกิจ เราต้องทำให้สำเร็จและเอาเงินกลับไปคืนเขาให้ได้ นี่คือความสำเร็จที่ SCB SME เปลี่ยนได้ก่อนใคร”
ไม่ได้มีแค่สมาชิกคลื่นลูกใหม่บนถนนธุรกิจจาก IEP 15 เท่านั้น เรายังมีโอกาสพูดคุยกับ เมนทอร์ประจำรุ่น 15 และเมนทอร์ประจำ SCB Business Center สาขาสยามสแควร์ ซอย 1 อย่างคุณธเนศ จิระเสวกดิลก (ตง) หนึ่งในกรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง บริษัท ดีวานา สปา จำกัด ที่บอกกับเราว่า ความสำเร็จของกิจกรรมนี้เกิดขึ้นตั้งแต่จุดเริ่มต้นว่าจะสร้างหลักสูตรแบบใดเพื่อ SME ไทย ต้องรู้ทั้งเป้าหมายของธนาคารเองและเข้าใจเป้าหมายการทำธุรกิจของ SME ในปัจจุบันด้วย จึงเกิดความแข็งแกร่งในการร่วมมือและเติมเต็มกันจนเป็นคอนเนกชั่นที่สมบูรณ์แบบ จากการคัดเลือกอย่างหนักจนเหลือสมาชิกในรุ่น 15 เพียง 60 คน จากผู้สมัครนับมากกว่าร้อยราย เพื่อสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันที่พร้อมต่อยอดสู่ความสำเร็จอื่น ๆ เป็นมิติใหม่ของสังคมผู้ประกอบการไทย สู่การเป็น Endless Contributor Society ในที่สุด
“คอนเนกชั่นที่เชื่อมโยงทุกคนสู่คำว่า Endless เกิดจากการสร้างใยแมงมุมที่เริ่มต้นด้วยจุดเล็ก ๆ เปรียบเสมือน IEP ทุกรุ่นที่เชื่อมโยงกันและขยายตัวใหญ่ขึ้น ไม่ใช่แค่มิติธุรกิจและยังรวมถึงการใช้ชีวิต ครอบครัว และแนวคิดต่าง ๆ ที่ทุกคนพร้อมช่วยเหลือกัน และตอบโจทย์คนรอบข้างต่อไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับหลักปรัชญาพอเพียง 3 ประการ คือ พึ่งพาตนเอง พึ่งพากันเอง รวมกันเป็นกลุ่มอย่างมีพลัง”
คุณตง ยังย้ำอีกว่า ภายในโครงการ IEP ทุกคนเป็นทั้งครูและนักเรียน เรื่องราวที่ได้แลกเปลี่ยนกันคือความรู้ คือพลังที่ต่างฝ่ายต่างเติมเต็มให้กัน ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ SCB SME และ IEP 15 ได้ตอบโจทย์สังคมผู้ประกอบการ SME ซึ่งเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศไทย จึงอยากเชิญชวนทุกคนว่า หากเราต้องการเป็นคนแบบไหนก็ให้พาตัวเองไปอยู่ตรงนั้น มาที่ SCB Business Center ก็จะเข้าใจสังคมที่เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ พร้อมกับได้เติมเต็มศักยภาพของตนเองไปพร้อมกัน
ขณะที่ คุณวิริยา ท้วมประถม (นดา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณราดา เอเชีย จำกัด ในฐานะเมนทอร์ประจำ IEP 15 และเมนทอร์ประจำ SCB Business Center สาขาสำเพ็ง กล่าวกับเราว่า โครงการ IEP คือการรวมคนเก่งระดับเทพทางธุรกิจเข้ามาเป็นครอบครัว ที่พร้อมแบ่งปันสู่ผู้อื่นอย่างจริงใจ ไม่ใช่แค่การรวมคนในลักษณะรุ่นต่อรุ่นแต่เป็นการรวมแบบรุ่นสู่รุ่น เกิดความผูกพันเป็นพี่เป็นน้องพร้อมช่วยเหลือกันและกันด้วยความวางใจ เพราะทุกคนได้มาเจอคนประเภทเดียวกันเป็นคนทำธุรกิจเหมือนกัน ก่อให้เกิดคอนเนกชั่นที่สร้างประโยชน์และความสำเร็จได้มากกว่าเดิม
“ไม่ใช่แค่เรื่องแบ่งปัน แต่ IEP ทำให้เกิดคอนเนกชั่นที่ไม่สิ้นสุด ยิ่งเราแบ่งปันกันก็ยิ่งได้ประโยชน์กลับมา ขณะเดียวกันก็ได้ทบทวนตัวเอง เกิดเชื้อเพลิงใหม่ ๆ ทางความคิดทั้งจากที่มองตัวเองและได้รับฟังจากคนอื่น ๆ แม้ว่าจะสร้างคอนเนกชั่นในวันนี้จะยังไม่ได้มอบประโยชน์ทางตรง แต่มั่นใจได้ว่าอนาคตคุณจะได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ แม้หลายคนจะเริ่มธุรกิจด้วยตัวเองมาตั้งแต่วันแรก สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นแรงผลักดันให้คุณ มีคำแนะนำ มีประสบการณ์ด้านต่าง ๆ ทุกคนพร้อมแชร์ให้คุณไม่ต้องหกล้มเหมือนที่พวกเขาเคยล้มมาก่อน จึงก้าวไปได้ไกลขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้สิ่งนั้น”
แม้ว่าเราจะได้รับรู้มิติใหม่ที่ SCB SME พยายามสร้างเพื่อ SME ไทยแล้ว แต่ภารกิจของ SCB SME ในการเดินหน้ามอบความรู้และสร้างเครือข่าย SME ที่แข็งแกร่งผ่าน IEP ก็ไม่ได้เป็นโครงการเดียวที่เกิดขึ้นเพื่อเสริมศักยภาพนักธุรกิจมือโปร หรือแม้แต่ศูนย์ธุรกิจให้บริการ SME แบบครบวงจรอย่าง SCB Business Center ก็เช่นกัน เพราะ SCB SME ได้เตรียมหมากตัวต่อไป เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ “The DOTS : @ China Town โครงการจุดเชื่อมความสำเร็จนักธุรกิจรุ่น 1 ตอน ไชน่าทาวน์” ซึ่งเป็นโครงการสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่อายุ 25-35 ปี เป็น Young GEN ที่ต้องการสานต่อธุรกิจจากรุ่นพ่อ-แม่ให้เติบโตพร้อมกับศักยภาพและความโดดเด่น ถือเป็นโครงการใหม่ที่ SCB SME ต้องการเจาะกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่โดยเฉพาะพื้นที่ย่านไชน่าทาวน์ (สำเพ็ง, เยาวราช, โบ๊เบ๊) หรือธุรกิจที่มีคู่ค้าอยู่ในย่านดังกล่าว เพื่อทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ยุคใหม่ ด้วยวิทยากรชื่อดังมาช่วยเสริมศักยภาพมากมาย พร้อมคำแนะนำจากเมนทอร์ผู้มีประสบการณ์ธุรกิจตัวจริง รวมถึงการสร้างเครือข่ายธุรกิจให้แข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็น