King Wai Group (KWG) กลุ่มบริษัทจากฮ่องกง ที่มีธุรกิจหลากหลาย ทั้งอสังหาริมทรัพย์ การเงิน และโครงการ IMX (International Merchandise Exchange) ที่นับเป็นหนึ่งในธุรกิจใหม่ของกลุ่มเพื่อคว้าโอกาสในการขยายตลาดนำเข้าสินค้าของจีน ทางกลุ่มได้พัฒนาธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ตามโมเดล “Store-Warehouse-Exhibition-Customer” และการบูรณาการร่วมกันของสินค้าออนไลน์-ออฟไลน์ จากทั้งในและต่างประเทศ ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมพร้อมชื่อเสียงในธุรกิจยาวนานกว่า 30 ปีในจีนและฮ่องกง ที่เริ่มขยายธุรกิจออกนอกประเทศหลังการปรับใช้นโยบาย “Belt and Road Initiative” (BRI) ของรัฐบาลจีน โดย นายเฮนรี ชาน รองประธานกรรมการ King Wai Group ที่เล็งเห็นว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว อีกทั้งยังเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศที่พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางและประตูสู่การทำธุรกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต
ชื่อ คิง ไว กรุ๊ป อาจยังไม่คุ้นกับคนไทยมากนักในวันนี้ แต่ถ้าเอ่ยถึงโครงการระดับเมกะโปรเจคที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด โครงการ “King Wai City Oasis” ซึ่งตั้งอยู่ในเซี่ยงไฮ้และเทียนจินมีพื้นที่ใช้สอยรวมกันมากกว่า 1.8 ล้านตารางเมตรและได้รับการรับรองจากศูนย์รับรองของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐ โครงการ “King Wai City Oasis” ในเซี่ยงไฮ้และเทียนจินเป็นโครงการรับรองมาตรฐานแรกของ “Ecological Residence” และ “Low-Carbon Building” ในประเทศจีนพร้อมกับ China Environmental Label IMX ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หลักของเซี่ยงไฮ้และเทียนจิน และโครงการ Bauhinia Valley ในเขตเป่าซาน ของเซี่ยงไฮ้เป็นผลงานชิ้นเอกของ คิง ไว กรุ๊ป ในด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ วิทยาศาสตร์แห่งชาติและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเชื่อมโยงแบรนด์การค้าโลกและมุ่งมั่นที่จะสร้างฐานในอนาคตของการมุ่งเน้นอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ นายเฮนรี่ ชาน มีมุมมองต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่ก็มี real demand หรือความต้องการบริโภคสินค้าที่แท้จริง โดยในระยะยาวจะมุ่งเน้นพัฒนาทั้งโครงการเพื่อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และโครงการขนาดใหญ่ในจังหวัดฉะเชิงเทราเนื้อที่ราว 2,000 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลังเข้าพิจารณาใช้สิทธิพิเศษของเขตพัฒนาพิเศษระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) อีกทั้งยังมีที่ดินในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาพื้นที่ราว 2,600 ไร่ โดย King Wai Group วางแผนจะพัฒนาให้เป็นคอมมูนิตี้ mixed-use สำหรับโครงการอื่นในไตรมาส 4 ของปี พ.ศ. 2561 บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่ราว 4 โครงการ มูลค่ารวม 4.5 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบย่านวัชรพล 1 โครงการ อีก 2 โครงการจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมแนวราบบนทำเลสุขุมวิท 31 และสุขุมวิท 61 และอีกโครงการเป็นคอนโดมิเนียมแนวสูงย่านถนนพระราม 4 โดยเป้าหมายของ King Wai Group คือต้องการเติบโตในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างมีคุณภาพ
สำหรับในปี พ.ศ. 2561 King Wai Group กำลังจะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู ภายใต้ชื่อ “S61” คอนโดมิเนียม Low-rise ใจกลางเมือง ย่านสุขุมวิท 61
ด้วยแนวคิด “LIVING A FLAWLESS LIFE” ที่มาพร้อมกับฟอร์มคอนเซ็ปต์ที่ลงตัว ทำให้ S61 Sukhumvit by KWG คือผลพวงของกระบวนการตกผลึกความคิดเป็นโครงการคอนโดมีเนียมโลว์ไรส์ใจกลางเมือง ที่ยกระดับความหรูหราด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยและแนวคิดประหยัดพลังงาน
ด้วยตัวคอนโดความสูง 8 ชั้นจำนวน 2 อาคาร ถือเป็นโครงการที่สะท้อนถึงการเชื่อมโยงวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ในทำเลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพแท้จริง พร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย
S61 SUKHUMVIT BY KWG ยังเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับหรูส่วนตัวที่เน้นนวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อความสะดวกสบายของชีวิตเมือง ด้วยการมอบวิถีชีวิตที่มีคุณภาพ สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตที่รุ่มรวย น่าหลงใหลและมีสไตล์ ทั้งคำนึงถึงการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน
ในด้านแนวคิดการออกแบบ โครงการได้นำหลากหลายแรงบันดาลใจต่างสไตล์ต่างยุคสมัยถูกถ่ายทอดอย่างลงตัวพิถีพิถัน ด้วย Eclectic Architecture เป็นการผสมผสานเสน่ห์ของความเก่าคลาสสิก เข้ากับความทันสมัยสไตล์โมเดิร์น สู่สถาปัตยกรรมในแบบฉบับ S61 SUKHUMVIT BY KWG ที่บรรจบความงดงามเหนือกาลเวลา ตั้งแต่การดีไซน์Façade ที่สะท้อนความหรูหราสง่างาม พิถีพิถัน จากการเลือกใช้กระจก EURO Grey ที่โดดเด่นเรื่องความปลอดภัย แข็งแรงทนทาน ช่วยดูดซับความร้อน และลดเสียงรบกวนจากภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยผู้อยู่อาศัยสามารถสัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขสงบร่มรื่น ที่พร้อมต้อนรับคุณกลับบ้านตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้า ผ่านสวนสวยสไตล์อังกฤษ และพื้นที่สีเขียวบริเวณรอบโครงการ พร้อมโซนรับรองสุดหรูที่สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนตั้งแต่แรกเห็น โดยในชั้นเดียวกันยังออกแบบให้มีพืนที่ทำงานแบบ co-working, ห้องสมุด และฟิตเนส รองรับการใช้งานของผู้อยู่อาศัยได้อย่างเต็มที่
หรือจะสามารถหลีกหนีความวุ่นวาย ผ่อนคลายขั้นสุด กับบนชั้นดาดฟ้า ท่ามกลางสวนธรรมชาติกลางแจ้งเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ อันประกอบไปด้วยThe Sanctuary Space พื้นที่สำหรับครอบครัว, จากุซซี่, สระว่ายน้ำ, ลู่วิ่งออกกำลังกาย, มุม BBQ, และลานดูดาวและชมพระอาทิตย์ตกดิน
นอกจากนี้ทางโครงการได้ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานธรรมชาติภายใต้แนวคิด Sustain Energy โดยติดตั้งแผงเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าใช้สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง และการนำพลังงานลมมาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบทำให้เกิดการถ่ายเทหมุนเวียนของอากาศ ช่วยระบายความร้อนภายในตัวอาคาร
ในด้านความปลอดภัย เพื่อความอุ่นใจสูงสุดของผู้อยู่อาศัย โครงการมี Digital Door Lock ที่ให้ความสะดวกสบายโดยการเข้าออกยูนิตด้วยรหัสส่วนตัว และการใช้ระบบ Key Card Access สำหรับทางเข้าหน้าโครงการ และบริเวณที่จอดรถอัตโนมัติ (Automatic Car Parking) นวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อความสะดวกสบายของชีวิตเมือง ซึ่งด้วยระบบจอดรถอัตโนมัติช่วยประหยัดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่และความปลอดภัย มอบชีวิตที่สะดวกสบายอย่างแท้จริง
โครงการยังตอบโจทย์ชีวิตทันสมัยด้วยทำเลศักยภาพในกลางเมืองและใกล้ทุกความต้องการ แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวสูงสุด เพราะโครงการตั้งอยู่ใจกลางซอยสุขุมวิท 61 ที่เงียบสงบแต่เข้าถึงทุกความสะดวกสบาย ด้วยเส้นทางเชื่อมต่อของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่วิ่งผ่านใจกลางสุขุมวิทตลอดเส้น โดยเลือกขึ้นได้ทั้งสถานีทองหล่อและเอกมัย แถมยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
S61 SUKHUMVIT BY KWG ตอบทุกไลฟ์สไตล์และความเป็นส่วนตัวสูงสุดเพราะจำกัดเพียง 126 ยูนิตเท่านั้น
มีตั้งแต่ขนาด 1-3 ห้องนอนและห้องแบบ Penthouse พื้นที่ตั้งแต่ 40 ตารางเมตร จนถึง160 ตารางเมตร มีให้เลือกตามความต้องการ ราคาเริ่มต้น 7.69 ล้านบาท
สำหรับในปีนี้นอกจากโครงการ S61 แล้ว KWG ยังมีแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมในย่านสุขุมวิท 31 และย่านพระราม 4 รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในการพัฒนาอีกหลายโครงการ
