วันนี้จึงอยากมาลองเปิดสถิติข้อมูลน่ารู้ของอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) ของประเทศจีน เพื่อเป็นข้อมูลและเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของสินค้าไทยที่กำลังมองหาโอกาสและช่องทางในการบุกตลาดจีนครับ
จีนใช้จ่ายกระเป๋าเงินออนไลน์ E-Wallet แซงหน้าสหรัฐอเมริกา
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมา นิตยสารชั้นนำอย่าง Forbe ได้รายงานเกี่ยวกับความสำเร็จในการใช้ระบบ E-Wallet หรือ กระเป๋าเงินออนไลน์ ของจีน ซึ่งได้ทะยานขึ้นมามีมูลค่าสูงกว่าของสหรัฐอเมริกาไปเรียบร้อยแล้ว เท่ากับว่าจีนกลายเป็นประเทศที่ใช้จ่ายเงินทางออนไลน์สูงสุดของโลกในเวลานี้
มีรายงานข่าวที่ตีพิมพ์โดย J.Walter Thompson ได้วิเคราะห์เกี่ยวกับทิศทางของนวัตกรรมยุคใหม่ด้านปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงไฮไลท์หลักที่เกี่ยวกับการใช้งาน App ผ่านมือถือของกลุ่มวัยรุ่นเพื่อการจับจ่ายสินค้าออนไลน์หรือทำธุรกรรมการเงินทางออนไลน์ นับเป็นอนาคตทางการเงิน ที่กำลังส่งสัญญาเตือนกลุ่มธนาคารให้ต้องปรับตัวและปรับปรุงบริการของตนให้ดียิ่งขึ้น
ในรายงานระบุว่า ผู้บริโภคในสหรัฐที่ใช้ระบบ E-Wallet มีอยู่ที่ 63% ของทั้งประเทศ ส่วนในจีนนั้น มีข้อมูลน่าสนใจว่า ในปี 2015 ผู้ใช้บริการ E-Wallet ของจีน มีมูลค่าการใช้งานอยู่ที่ 340,000 ล้านหยวน แต่ในปี 2017 ตัวเลขพุ่งไปที่ 9,000,000 หยวน โดย 2 ใน 3 ของส่วนแบ่งการตลาดคือ Alipay และ WeChatPay ตามมาด้วยช่องทางอื่นอย่างห่างๆมาก
มีการวิเคราะห์ว่า การพัฒนาระบบ E-Wallet ของสหรัฐแตกต่างจากจีน เนื่องจาก Start Up ในสหรัฐหลายแห่ง จะมุ่งพัฒนาแอพเพื่อใช้งานบนมือถือที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาและการปรับแต่งต่างๆ แบบแยกส่วนกันเป็นหลัก ไม่ได้รวมการใช้งานที่หลากหลายฟังก์ชั่นเข้าด้วยมากนัก
แต่สำหรับของจีน บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba และ Tencent กลับไม่ได้มุ่งแต่การพัฒนาแอพเพื่อใช้งานสำหรับ E-Wallet เพียงอย่างเดียว แต่พัฒนาให้ครอบคลุมทุกมิติเท่าที่ทำได้ โดยอยู่ภายใต้คอนเซปต์แบบ All-in-one นั่นเท่ากับว่า ขอเพียงมีมือถือเครื่องเดียวและมีแอพที่ดาวโหลดเอาไว้ ก็สามารถทำธุรกรรมทางออนไลน์ได้แทบทุกด้านแล้ว อีกทั้งยริการภาคส่วนต่างๆของจีนเองก็สนับสนุนในเรื่องนี้ด้วย
จากรายงานล่าสุด เวลานี้ระบบบัตรประชาชนแบบอิเล็กทรอนิกส์ก็เริ่มการใช้งานในบางเมืองสำคัญของจีนแล้ว ทั้งหมดนี้ยังเป็นการพัฒนาระบบเพื่อทำให้รัฐบาลจีนสามารถควบคุมและบริหารจัดการกลุ่มประชากรได้สะดวกขึ้น นี่ก็เป็นอีกข้อที่แตกต่างกันระหว่างบริษัทในตะวันตกและของจีน ที่มีรัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้องในเชิงยุทธ์ศาสตร์ไม่น้อย
ตลาดออนไลน์จีน ทะยานอยู่บนมือถือ
เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญมาก โดยเฉพาะ SME ไทยที่กำลังมองหาโอกาสบุกตลาดจีน
หากอ้างอิงจากรายงานของกระทรวงสารสนเทศและเทคโนโลยีของจีนที่เปิดเผยออกมาล่าสุด มีรายงานระบุว่า การใช้จ่ายผ่านระบบ E-Payment ผ่านทางแอพและบนมือถือของจีนมียอดพุ่งทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกจากในปี 2017 ที่ผ่านมา ด้วยมูลค่ากว่า 81 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 12 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งถือว่ามากกว่าในปีก่อนถึง 30 ล้านล้านหยวน
แล้วยังมีรายงานว่า คนจีนมากกว่า 720 ล้านคนใช้บริการ E-Payment ผ่านทางมือถือเป็นหลัก
ไม่เพียงเท่านี้ ตัวเลขนี้ยังมีความสอดคล้องไปกับความสำเร็จและมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจและตลาด E-Commerce ของจีน ซึ่งมีผู้เล่นยักษ์ใหญ่ที่สำคัญอย่าง Alibaba และ JD.com ในขณะที่ส่วนแบ่งตลาด E-Payment ก็มี Tencent ที่เข้ามาชิงส่วนแบ่ง จากความสำเร็จของการพัฒนา WeChat ให้เป็นมากกว่าแค่โปรแกรมแชท และกลายเป็นแอพที่มีผู้ใช้งานสูงสุดในเวลานี้
สำหรับพฤติกรรมการจับจ่ายซื้อสินค้าของคนจีนที่นิยมใช้งานบนมือถือกันมากขึ้นนั้น ก็เป็นเหมือนเรื่องปกติและวิถีชีวิตประจำวันไปแล้ว อีกทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนก็หันมาพัฒนาแอพเพื่อทำให้ธุรกรรมทุกอย่างสามารถดำเนินงานได้บนมือถือเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของการสั่งซื้อสินค้าบางประเภท เช่นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมหรูหรา คนจีนจะมีพฤติกรรมเลือกหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตและมือถือ แต่จะไปเลือกซื้อจากหน้าร้านหรือในห้างสรรพสินค้าเป็นหลักแทน เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน ซึ่งหลายบริษัทของจีนกำลังมุ่งเล่นในเรื่องนี้อยู่
WeChat ยอดใช้งานเป็นอันดับ 1
มีรายงานสถิติยอดผู้ใช้ของ WeChat ว่าเกือบทะลุหลัก 1,000 ล้านคนได้สำเร็จในต้นปี 2018 นี้ เท่ากับว่าเป็นแอพที่มีจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้งานมากที่สุดติด Top 5 ของโลก รองมาจาก Facebook Youtube Whatsapp Facebook Messenger
ความสำเร็จของ WeChat คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลจากการที่คนจีนใช้งานในด้าน E-Payment กันมากกว่าแค่เพื่อแชทสื่อสารเท่านั้น
แล้วภาคธุรกิจหรือ SME ไทยจะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
SME ไทยก็มีโอกาสอยู่บ้างเหมือนกัน โดยผ่านการให้บริการของบริษัท Agency หรือที่ปรึกษาทางการตลาดผ่านระบบ E-Payment ที่เข้ามาช่วยในด้านบริการสำหรับผู้ผลิตไทยและ SME ขนาดต่างๆ ซึ่งจะสามารถช่วยแก้ปัญหาการขาดความรู้ในช่องทางจำหน่ายนี้ของผู้ผลิตรายย่อยที่จะบุกตลาดจีนได้
อีกทั้งการเข้ามาทำตลาดในด้านนี้ก็จะช่วยให้ผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายให้เจาะตลาดจีนได้สะดวกขึ้น และไม่ต้องพะวงกับปัญหาจุกจิกหลายอย่างเช่น เรื่องภาษาจีน การติดต่อกับตัวแทนจำหน่ายในจีน ข้อกฎหมาย และเงื่อนไขต่างๆ
หากผู้ประกอบการไทยมีความสนใจ สามารถติดต่อได้กับ www.levelupthailand.com บุกตลาดจีนครับ
เขียนโดย อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร
Expertise: China Marketing
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่
Copyright © MarketingOops.com