งานการตลาด 3 อย่างใกล้ตัวที่ AI ในอนาคตทำได้ดีกว่าคน

  • 42
  •  
  •  
  •  
  •  

พูดถึงปัญญาประดิษญ์หรือ AI (Artificial Intelligence) ที่เปรียบได้ไม่ต่างจากไฟฟ้าที่อยู่ทั่วทุกแห่ง เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สิ่งต่างๆทำงานได้ ไม่เว้นแต่การทำการตลาด มันอาจทำให้เราตกงานก็จริง แต่มันก็ช่วยแบ่งเบาภาระไม่ให้เราทำงานในเรื่องไม่เป็นเรื่อง งานที่ต้องคำนวนจากข้อมูลเยอะๆ หรืองานที่ต้องทำซ้ำๆซาก ให้เรามีเวลาไปทำในเรื่องที่สร้างสรรค์และจำเป็น ไม่เว้นแต่การตลาด AI สามารถทำนายสินค้า บริการ หรือคอนเทนต์ที่เราอาจจะชอบได้แม่นยำ ตัวอย่างชัดเจนก็ไหนไม่พ้น  Amazon และ Netflix

 

ฟังดูไกลตัวแต่  งานการตลาดที่ AI ช่วยได้มันใกล้ตัวกว่าที่เราคิด นี่คืองานการตลาด 3 อย่างที่ว่าที่ AI ทำได้ และจะทำได้ดีกว่าคนเสียด้วยซ้ำ

 

AI

 

ประมูลคีย์เวิร์คหรือพื้นที่โฆษณา

พูดง่ายๆคือ AI อย่างไรมันก็คำนวนเก่งกว่าคน เพราะมันเข้าถึงข้อมูลจำนวนมากๆที่สมองของคนรับไม่ได้ ตัวอย่างง่ายๆเช่นการประมูลคีย์เวิร์ดเพื่อทำ Google Adwords เราจะประมูลคีย์เวิร์ดนั้นเท่าไหร่ถ้าลูกค้ามาคลิกโฆษณาของเรา หากเราบอก AI ไปว่าเรายอมจ่าย 50 บาทต่อคนที่สนใจในคอนเทนต์ที่เราเสนอ (Lead) AI ก็จะไปหา Lead มาให้ในงบที่เรากำหนด ซึ่งถ้ามีใครค้นหาคีย์เวิร์ดตัวไหนอยู่ AI ก็จะรู้ทันทีว่าคนนั้นใช้แอปฯอะไรพิมพ์ รู้ว่าคนนั้นอยู่ไหน และรู้ว่าคนๆนั้นพักผ่อนอยู่บ้าน ทำงานหรือลาพักร้อน ช่วยให้ได้ Lead ที่แม่นยำสุดๆ ซึ่งคนธรรมดาคงทำไม่ได้ แต่กว่า  AI จะทำได้ขนาดนั้น ก็ต้องเรียนรู้เหมือนกัน ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณ 2-4 เดือนขึ้นอยู่กับขนาดของแคมเปญ

 

20151107100541-shutterstock-281485034

 

ระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ถ้าพูดถึงการทำการตลาดแบบเดิมๆ เวลาจะขายของก็ต้องรู้ว่าลูกค้าเป็นใคร ต้องรู้ว่าอายุเท่าไหร่ อยู่ที่ไหน แต่ถ้าใช้ AI ความสำคัญของลักษณะของตัวกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะลดลง เพราะ AI สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าตามแนวโน้มความตั้งใจที่ลูกค้าจะซื้อของ เช่นเกิดคนที่ชอบเล่นบาสเกตบอลเริ่มเปิด Google หาวิธีซ่อมเครื่องซักผ้า หรือทำอย่างไรที่จะซื้อเครื่องซักผ้าราคาถูกและส่งถึงบ้านฟรี  AI ก็จะรู้ล่วงหน้าทันทีว่าคนๆนี้มีแนวโน้มไปแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้าง เราก็ทำการตลาดเจาะคนพวกนี้ได้ทันที โดยอาจจะไม่จำเป็นว่าคนๆนั้นลักษณะเป็นอย่างไร

 

A

 

ส่งข้อความหรือทำคอนเทนต์

ใครที่ทำงานด้านนี้อยู่มีโอกาสตกงานน้อยกว่าคนที่คอยประมูลคีย์เวิร์คหรือพื้นที่โฆษณาหรือระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แต่ไม่ได้หมายความว่าความสามารถของ AI จะไล่ไม่ทัน เพราะ AI ของทั้ง Google และ Facebook  สามารถเข้าใจบริบทของเว็บเพจได้แล้ว รู้ว่าคำ ประโยคหรือลัญลักษณ์ไหนมีความหมายว่าอะไร

 

facebook-ad-in-phone-768x439

 

อย่าง AI ของ Facebook เราแค่ป้อนตัวอย่างหัวเรื่องและคำโฆษณาไปไม่กี่ตัว รวมถึง Call to Action แล้วก็ให้ AI ไปจับผสมและหาว่าคำโฆษณาตัวไหนดีที่สุดสำหรับแคมเปญ ไม่เว้นแต่ AI ของ Google ที่เอามาใช้ทำ Responsive Display Ad แค่เราป้อนหัวเรื่อง 15 ตัว คำบรรยายไป 4 รูปแบบ จากนั้นก็ให้ AI ไปจับคู่ผสมแล้วหาคำโฆษณาที่ดีที่สุด ประหยัดเวลาเราในการทำ A/B Test ไปได้เยอะเลย
แหล่งที่มา

How Artificial Intelligence Is Changing Marketing


  • 42
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th