หลายคนคงเคยเห็นฟีเจอร์ Click-to-messenger ใน Facebook กันมาบ้างแล้ว แต่คุณอาจไม่รู้ว่าฟีเจอร์นี้เกิดขึ้นจากการสังเกตพฤติกรรมการซื้อขายผ่านทางโซเชียลมีเดียในประเทศไทย ซึ่งฟีเจอร์นี้สามารถช่วยให้ธุรกิจ SME เพิ่มยอดขายได้มากกว่า 40% ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน
วันนี้เราจะมาทำความรู้จักฟีเจอร์ Click-to-messenger กัน!
การส่งข้อความพูดคุยกันเป็นสิ่งที่คนไทยเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่ใช่เพียงแค่ในรูปแบบ P2P (บุคคลถึงบุคคล) เช่น การแชทคุยกับเพื่อน แต่ยังรวมถึงรูปแบบ P2B (บุคคลถึงธุรกิจ) เช่น เราทักไปสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์กับร้านค้า คุณชวดี วงศ์พยัต (ดี) หัวหน้าฝ่ายธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม Facebook ประจำประเทศไทย เผยว่า ตั้งแต่ได้เข้าร่วมงานกับ Facebook ในปี 2557 ตนเองรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้รู้ว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการซื้อขายผ่านทางโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นแรงบันดาลให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมระดับโลกอีกด้วย จนถึงขั้นที่ว่า วิศวกรและเหล่านักวิจัยจากอเมริกาต้องบินมาเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์นี้ด้วยตัวเอง
ทว่า การเพิ่มยอดขายยังคงเป็นความท้าทายสำหรับธุรกิจ SME มาโดยตลอด เพราะ SME ยังมีเครื่องมือหรือตัวช่วยในการปิดการขายไม่มากนัก คำถามสำหรับ Facebook คือ เราจะช่วยธุรกิจเหล่านี้อย่างไร ให้สามารถปิดการขายได้มากขึ้น ฟีเจอร์ Click-to-Messenger จึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถส่งข้อความหาร้านค้าได้ทันทีที่เห็นโฆษณา ซึ่งร้านค้าก็สามารถปิดการขายผ่านทาง Messenger ได้ทันที จึงทำให้เกิดการ drop off น้อยลง และสร้างยอดขายได้มากขึ้นค่ะ
Click-to-Messenger คืออะไร
Click-to-Messenger คือโฆษณาที่แสดงให้ผู้ใช้เห็นจากกลุ่มแอพพลิเคชั่นของเรา ทั้ง Facebook, Instagram และ Messenger เมื่อผู้ใช้คลิ๊กหรือแตะที่โพสต์ หน้าสนทนาของแอพ Messenger จะเปิดขึ้นทันที ทำให้ลูกค้าสามารถเริ่มต้นสนทนากับร้านค้าผ่านการส่งข้อความได้อย่างง่ายดาย ซึ่งวิธีนี้ถูกพิสูจน์แล้วว่า สามารถเพิ่มยอดขายได้จริง
อะไรที่ทำให้ฟีเจอร์นี้ กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจ
ความสามารถในการเข้าถึงลูกค้าที่สนใจในสินค้าหรือบริการ คือหนึ่งในหัวใจหลักสู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจผ่านทางโซเชียลมีเดีย และนี่คือสิ่งที่ Click-to-Messenger เข้ามาช่วยตอบโจทย์ให้กับธุรกิจ SME ด้วยความสามารถที่ Facebook มี ในการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ บนแพลตฟอร์ม ทำให้บอกได้ว่า ใครมีแนวโน้มที่จะสนใจในสินค้าหรือบริการและพร้อมที่จะทักเข้ามาพูดคุยกับร้านค้าของคุณ
อัลกอริธึมของ Facebook จะช่วยให้โฆษณา Click-to-Messenger เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น คุณยังสามารถติดตามและวัดผลของโฆษณานั้นๆ ได้อย่างละเอียด เช่น จำนวนข้อความที่ได้รับในแต่ละแคมเปญมีมากน้อยเพียงใด หรือลูกค้าทักเข้ามาจากโฆษณามีมากน้อยเท่าใด เป็นต้น
หากคุณกำลังกังวลว่า คุณจะไม่สามารถตอบลูกค้าที่ทักเข้ามาได้ทัน ปัญหานี้จะหมดไปได้ทันทีเพราะคุณสามารถตั้งค่าโฆษณา Click-to-Messenger ให้แสดงเฉพาะเวลาที่คุณต้องการได้ หรือเลือกให้ Facebook ช่วยตอบข้อความแบบอัตโนมัติ โดยการสร้างแชทบอทใน Messenger เพื่อให้บอทโต้ตอบและพูดคุยกับลูกค้าของคุณก็ได้เช่นกันค่ะ หากคุณสนใจติดตั้งแชทบอท สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://developers.facebook.com/docs/messenger-platform/getting-started/quick-start/
Case Study การใช้ Click-to-Messenger ในประเทศไทย: Hotdeal Thailand
คุณศักดิ์ชัย อู่วานิชย์ เจ้าของกิจการที่ได้ลองจับธุรกิจมาแล้วหลากหลายประเภท และเคยประสบปัญหามากมายในการพยายามขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ จนกระทั่งได้ก่อตั้งแบรนด์ ‘Hotdeal Thailand’ ขึ้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2557 โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือชุดชั้นในสำหรับสุภาพสตรี และเน้นปิดการขายผ่านทาง Messenger
ใช้ Click-To-Messenger เพื่อเพิ่มยอดขาย
- เมื่อค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ คุณชัยจึงได้ทดลองเปลี่ยนกลยุทธในการลงโฆษณามาใช้ Click -To-Messenger
- เพียงแค่เดือนแรก ยอดขายของ ‘Hotdeal Thailand’ ก็เพิ่มสูงขึ้นกว่า 40% โดยที่ผลกำไรจากการลงโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 30%
- ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ‘Hotdeal Thailand’ ประสบความสำเร็จคือ การโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนับล้านคนทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวัดผลอย่างเป็นระบบ และการเรียนรู้เครื่องมือใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ Click -To-Messenger ได้ที่เว็บไซต์ https://www.facebook.com/business/learn/facebook-create-ad-messages-objective