หลังจาก “Apple” เปิดตัว “iPhone Xs, iPhone Xs Max, iPhone Xr” ที่ทั่วโลกต่างเฝ้าจับตามองว่าจะมีเทคโนโลยีและดีไซน์อย่างไร เพียงไม่นาน 1 ใน 2 คู่แข่งรายสำคัญอย่าง “Huawei” ยักษ์เทคโนโลยี และสมาร์ทโฟนสัญชาติจีน ได้ทวีตข้อความบน Twitter ที่ว่า “Thank you for letting us be the real hero of the year. See you in London.16.10.18” ที่หมายความว่า “ขอบคุณที่ทำให้เราเป็นฮีโรที่แท้จริงของปีนี้ แล้วพบกันที่ลอนดอน 16 ตุลาคมนี้”
ตามต่อด้วยทวีตคลิปวิดีโอ ล้อเลียนภาพวงกลมของ iPhone ที่ใช้เปิดตัวสินค้าใหม่ และข้อความ “Thank you for keeping things the same. See you in London.16.10.18” หรือ “ขอบคุณที่ยังคงทำในสิ่งเดิมๆ แล้วพบกันที่ลอนดอน 16 ตุลาคมนี้”
ยังไม่ทันไร…ทันทีที่ iPhone รุ่นใหม่เปิดวางจำหน่ายเป็นวันแรก (21 กันยายน) สำหรับ 30 ประเทศแรก หนึ่งในนั้นคือ “สิงคโปร์” และทุกครั้งที่ iPhone วางจำหน่ายรุ่นใหม่เป็นวันแรก เราจะเห็นภาพคนต่อคิวข้ามคืนหน้าร้าน Apple Store แต่ปีนี้ สร้างความฮือฮากันในโลกออนไลน์ เมื่อปรากฏภาพกลุ่มชายหนุ่มสวมเสื้อยืดดำ “Huawei” เข้ามาร่วมแจมในคืนแรกของการวางจำหน่าย iPhone รุ่นใหม่ที่สิงคโปร์
กองทัพชายสวมเสื้อยืดดำ วิ่งเข้ามาแจกเพาเวอร์แบงค์ ความจุ 10,000 mAh แบบ SuperCharg จำนวน 200 เครื่องให้กับคนที่กำลังต่อคิวเพื่อซื้อ iPhone !! สร้างความประหลาดใจให้กับคนในบริเวณนั้น และยิ่งอึ้งมากขึ้น เมื่อบนกล่องมีข้อความ “Here’s a power bank. You’ll need it. Courtesy of Huawei.” ความหมายที่ต้องการสื่อ คือ “คุณจำเป็นต้องใช้มัน” ถือเป็นการโจมตีไปที่จุดอ่อนของ iPhone ในเรื่องแบตเตอรี่ พร้อมๆ กับตอกย้ำจุดแข็งของตัวเองในด้านแบตเตอรี่อึด
คำถามที่น่าสนใจ คือ หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ก่อนจะเปิดตัวรุ่น P9 “Huawei” จะกล้าเย้ย “iPhone” อย่างในวันนี้หรือไม่ ?!? (รุ่น P9 เป็นรุ่นในตำนานที่ทำให้ Huawei โด่งดัง และทำยอดขายดีระดับโลก)
คำตอบคือ ไม่อย่างแน่นอน !! แต่ในวันนี้ที่ลงมือปฏิบัติการลูบคม “iPhone” นั่นเพราะ Huawei ในปัจจุบันคือ สมาร์ทโฟนที่มียอดขาย Top 3 มาหลายสมัย และล่าสุดขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ขณะที่ iPhone หล่นไปอยู่อันดับ 3
สถานการณ์ของ “Huawei” ในปัจจุบัน จึงแตกต่างจากในอดีตเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่ยังรู้จักกันในวงจำกัด
ดังนั้น ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 เหตุการณ์ ที่เรียกว่าได้ว่างานนี้ “Huawei” ตั้งใจลงมือทำครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อเรียกเสียงฮา หรือสร้างกระแส Talk of the town เท่านั้น !! แต่มีเหตุผลซ่อนอยู่ 2 เรื่องใหญ่ นั่นคือ
1. “Huawei” กำลังใช้กลยุทธ์ Viral Marketing สิ่งที่ตามมาหลังจาก 2 เหตุการณ์ ทำให้สมาร์ทโฟนอันดับ 2 สัญชาติจีนรายนี้ เป็นที่พูดถึงกันในวงกว้างของโลกออนไลน์ โดยใช้พลังของ “Social Media” ปลุกกระแส กับพลังของแบรนด์ “iPhone” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่มี Brand Value สูงอยู่แล้ว มาทำให้ผู้บริโภคเกิด “Remind Brand” ถึงสมาร์ทโฟนจีนแบรนด์นี้ และเชื่อมโยงไปสู่การสร้าง “การรับรู้” ถึงอีเว้นท์เปิดตัว “Huawei Mate 20 – Mate 20 Pro” ที่จะมีขึ้นในเดือนหน้าที่ลอนดอน
ดังนั้นการสร้างกระแสปลุกเร้าเช่นนี้ เรียกได้ว่า Huawei ได้ Free Media ทรงพลังมหาศาลที่เกิดจากการแชร์ต่อล้นหลาม และยิ่งทำให้คนเฝ้าจับตามองว่า การเปิดตัวตระกูล Mate ในครั้งนี้ จะปล่อยทีเด็ดอะไรออกมา
แน่นอนว่า “Hauwei” มั่นใจในนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ของตัวเองว่าจะสามารถปักธงการเป็น First Mover ได้เหมือนกับเมื่อครั้งเปิดตัว Mate 10 – Mate 10 Pro ที่บอกว่าเป็น AI Smartphone แรกของโลก
2. เพื่อตอกย้ำให้ชาวโลกได้เห็นว่า เวลานี้ “Huawei” มีนวัตกรรม – เทคโนโลยีที่ไม่แพ้ iPhone และกำลังบอกว่าบางอย่างเหนือกว่าด้วยซ้ำ!!
ตรงนี้สะท้อนได้ว่า benchmark สำคัญของ “Huawei” ไม่ใช่แข่งกับแบรนด์สมาร์ทโฟนของจีนด้วยกันเอง แต่เป็นการยกระดับไปแข่งกับแบรนด์จากสหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ ที่ปัจจุบัน “Samsung” ยังครองแชมป์ผู้นำสมาร์ทโฟนโลก และในเชิง Brand Value “iPhone” ยังคงมีมูลค่าสูง
เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา ภารกิจหนึ่งที่ “Huawei” ทำอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการเปิดตัวนวัตกรรม-เทคโนโลยีใหม่แล้ว ยังต้องเร่งสร้าง “ภาพลักษณ์แบรนด์” และ “คุณค่าแบรนด์” ให้เทียบชั้น iPhone และ Samsung ให้ได้ ผ่านทั้งกระบวนการสถานที่เปิดตัวสินค้าใหม่ในตลาดยุโรป และการจับมือกับแบรนด์ระดับ World-class Luxury เพื่อสะท้อนกลับมายังภาพลักษณ์แบรนด์
ถ้า “Huawei” เดินเกมรุกหนักเช่นนี้ต่อเนื่อง เป้าหมายที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 สมาร์ทโฟนโลกในปี 2020 อาจไม่ไกลเกินจริง และเชื่อว่าเวลานี้ “Samsung” กำลังหาทางป้องบัลลังค์ผู้นำทุกวิถีทางอย่างแน่นอน