ในช่วงเย็นใกล้เลิกงานท่ามกลางความวุ่นวายในกรุงเทพฯ เรามีโอกาสได้นั่งคุยกับ บูบีวารีนิธิ กันท์ไพบูลย์ สาวสวยวัย 26 ปี เจ้าของแบรนด์ Varinthorn Boutique ซึ่งเปิดมาแล้ว 6 ปี และควบตำแหน่งนักธุรกิจจำหน่ายรถซูเปอร์คาร์มือสอง ทว่า ในอีกมุมเธอยังเป็น Influencer ที่ Real ที่สุดคนหนึ่ง โดยมีผู้ติดตามใน Instagram มากถึง 240,000 คน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ดาราหรือคนดัง
ก่อนจะอ่านบทสัมภาษณ์ทั้งหมด เราอยากให้ทุกคนเข้าไปดู Instagram ของเธอก่อนที่ https://www.instagram.com/bubee_k/
สิ่งที่ทำให้ MarketingOops! อยากรู้จักเธอมากขึ้น มาจากความสงสัยที่ว่า “ทำไม Instagram ถึงมีแต่ “รถ” “สุนัข” และ “ดอกไม้”” ถึงมียอดฟอลมากขนาดนี้ บูบี เล่าว่า “ทั้ง 3 สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตัวเองอยู่ด้วยแล้วแฮปปี้ที่สุด นอกจากการทำแบรนด์เสื้อผ้าแล้ว อีกสิ่งที่รู้สึกว่าตัวเองเก่งคือ เรื่องรถ เนื่องจากคุณพ่อกับคุณปู่อยู่ในแวดวงรถยนต์อยู่แล้ว ทำให้ตัวเองได้ใกล้ชิดมาตั้งแต่เด็กๆ และได้นำความเชี่ยวชาญมาต่อยอดเป็นธุรกิจขายรถซูเปอร์คาร์มือสอง บูบีดูรถเป็นหมดว่าคันนี้โดนชนมารึเปล่า ช่วงล่างเป็นยังไง ส่วนสุนัขที่อัปรูปลงใน Instagram บ่อยๆ ชื่อ น้ำตาล เลี้ยงมากว่า 10 ปี ทุกวันนี้คนที่ฟอลบูบีอยู่ รักน้ำตาลมากกว่าบูบีแล้ว” (หัวเราะ)
นอกจากทั้ง 3 สิ่งที่กล่าวไปข้างต้น เธอยังเป็นนักท่องเที่ยวตัวยง อย่างน้อยเดือนละ 1 ทริป ทุกทริปจะอัปเดทแบบเรียลไทม์ที่ Stories เรียกได้ว่าเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยกันเลยทีเดียว แถมแต่ละที่ที่ไป บูบีย้ำกับเราว่าคัดมาแล้ว เด็ดทุกที่ ตามรอยได้ทุกร้าน รับประกันความอร่อย…
มาถึงตรงนี้ก็พออนุมานได้ว่า สิ่งที่ทำให้มีเธอเป็นที่รักของ Follower มากขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นเพราะไลฟ์สไตล์และความเป็นตัวของตัวเอง
หลายคนอาจคิดว่า Follower ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แต่จริงๆ แล้ว 70% เป็นผู้หญิง และผู้หญิงก็เยอะกว่ามาตลอด บูบี เล่าว่า ตนเองใช้ Instagram เป็นช่องทางหลักในการถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าสนใจ ทำให้ทุกอย่าง Real ที่สุด สินค้าที่รีวิวทุกชิ้นต้องใช้จริง!!
แบรนด์ไหนใช้ดีก็ได้ไปต่อ แบรนด์ไหนบ้งก็จะไม่หยิบมาใช้อีก
ย้อนกลับไปเมื่อ 5-6 ปีก่อน เริ่มมีแบรนด์สินค้าติดต่อเข้ามา กฎเหล็กในการเลือกรับงานของเธอตั้งแต่ช่วงแรกจนถึงตอนนี้ คือ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์นั้นๆ เลือกแบรนด์ที่ใช้แล้วดีจริง ใช้แล้วอยากบอกต่อไปยังคนอื่นๆ หากแบรนด์ไหนที่ไม่เคยใช้ จะโพสต์ใน Stories ก่อนว่าจะลองใช้ ซึ่งถ้าไม่เห็นว่าหยิบมาใช้อีก ก็หมายความว่าไม่เวิร์ก และสินค้าอีกประเภทที่ไม่รับคือ ของที่ต้องทาน เช่น ดื่มแล้วขาว ทานแล้วผอม แล้วสินค้าประเภทไหนที่ติดต่อเข้ามามากที่สุด บูบี บอกว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว มีเข้ามากว่า 30 แบรนด์ ถึงจะติดต่อเข้ามาเยอะที่สุด แต่รับน้อยที่สุด
ทำไมซีเรียสเรื่องการรับงานโฆษณาขนาดนี้?
“บูบีอยากให้ Instagram มีความเรียลมากๆ เพราะเรารัก Follower ทุกคนเหมือนเพื่อน เหมือนครอบครัว เราอยากให้เขาได้รับแต่สิ่งดีๆ ทุกแบรนด์ที่ต้องการให้บูบีโปรโมทต้องผ่านบูบีก่อนเสมอ เพราะเราเป็นคนรับงานเอง สกรีนทุกงานที่เข้ามาด้วยตัวเอง ทุกวันนี้เรามีอาชีพหลักที่มั่นคงอยู่แล้ว รายได้จากการโฆษณาจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เรื่องใหญ่สำหรับบูบีคือ Follower คนที่ตามเราอยู่ ถ้าเขาซื้อสินค้าตามเรา แล้วเจอของไม่ดี เราก็รู้สึกไม่ดีไปด้วย”
ต่อให้เป็นโพสต์สปอนเซอร์ ก็ต้องเป็น Boobee Style
เมื่อคนส่วนใหญ่ตามคุณเพราะไลฟ์สไตล์ การโพสต์คอนเทนต์สปอนเซอร์จะแสดงตัวตนของคุณออกมาได้มากแค่ไหน สาวสวยตรงหน้าเราบอกว่า “ถึงจะเป็นโพสต์จากสปอนเซอร์ สไตล์ของภาพก็ไม่ต่างจากการโพสต์ปกติ ทุกภาพที่ลงไปจะมีความเป็นตัวเอง บูบีไม่ทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเอง เช่น ถ้ารีวิวชุดว่ายน้ำ วันนั้นต้องว่ายน้ำจริงๆ ทุกอย่างบูบีคัดหมดแล้วว่าต้องเป็น #BUBEESTYLE เราคิดว่าคนฟอลเรา เพราะเขาชอบไลฟ์สไตล์ของเรา เพราะฉะนั้น ทุกอย่างต้องดีที่สุดสำหรับ Follower จริงๆ”
Feedback ที่ได้รับจากแบรนด์
บูบีเล่าว่าหลายครั้งที่โพสต์คอนเทนต์สปอนเซอร์ Feedback ที่ได้รับจากแบรนด์ เป็นไปในทางที่ดี ทั้งการเพิ่มยอดขายและมี Engagement ดีที่สุด ก็มีที่แบรนด์มาขอบคุณและชมคอนเทนต์ที่เราทำ ถึงจะไม่ได้มี Follower มากที่สุดในกลุ่มที่เขาจ้าง แต่ว่าเราสร้างยอดขายได้ดีที่สุด มีคนแคปภาพที่เราโพสต์แล้วไปซื้อตาม บูบีคิดว่าเป็นเพราะความเรียล เราไม่ได้จัดฉากขายของ 90% ของภาพใน Instagram ทั้งหมดถ่ายโดย iPhone X
ช่วยบอกเทคนิคการถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนให้สวยหน่อยค่ะ… หากดูภาพใน Instagram จะเห็นว่าแทบไม่มีภาพเซลฟี่เลย บูบีเฉลยว่า ช่างภาพประจำตัวของเธอคือคนใกล้ตัว อาจจะถ่ายหลายช็อตหน่อย แต่ก็ได้ภาพสวยทุกครั้ง ซึ่งการถ่ายด้วย iPhoneX มีข้อเสียตรงที่ถ้าไม่มีแสงจะถ่ายยากมาก ต้องหามุม ถ้าเป็นการถ่ายสิ่งของ จะปรับฟิลเตอร์ใน iPhone ให้เป็นโหมด Dramatic ปรับสีให้เข้มขึ้นนิดหน่อย ทำให้ภาพดูมีอะไรมากขึ้น แล้วค่อยแต่งภาพใน Instagram อีกที
Influencer มีความจำเป็นกับแบรนด์แค่ไหน
ในฐานะที่ตัวเองทำแบรนด์เสื้อผ้า ถ้าย้อนไป 5 ปีที่แล้วถ้าเราส่งเสื้อผ้าให้ดาราใส่ ชุดนั้นจะขายหมดทันที แต่เดี๋ยวนี้ผู้บริโภครู้ว่าชุดนี้ไม่เหมาะกับตัวเอง และจะหาข้อมูลของแบรนด์เพื่อซื้อชุดอื่นแทน สะท้อนให้เห็นว่า Influencer ยังมีความจำเป็นกับแบรนด์ ในแง่ของการสร้าง Awareness ทำให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น โดย Influencer แต่ละคนต่างก็มีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน มีผู้ติดตามไม่เหมือนกัน ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ได้
ปัจจุบันสินค้าจะขายดีหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดารา และการถือผลิตภัณฑ์แล้วถ่ายรูปคู่ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป ผู้บริโภคทุกวันนี้ไม่โง่ Influencer ต้องมีความจริงใจกับผู้บริโภค เพราะตอนนี้ใครๆ ก็รีวิวสินค้าได้ สำคัญที่ว่าต้องใช้จริง
Follower สำหรับคุณคือ…
ตลอดการพูดคุยสิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้คือ บูบีให้ความสำคัญกับ Follower มากๆ “บูบีคิดว่าคนที่มาฟอลเราเป็นเพื่อนและครอบครัวเดียวกัน บางคนฟอลตั้งแต่บูบีเรียนมหาวิทยาลัยที่อังกฤษ อยู่กันมานานเหมือนโตมาด้วยกัน บูบีต้องขอบคุณ Follower ทุกคนที่เป็นกำลังใจให้บูบีเสมอ เวลาเศร้า เครียด ทำงาน มีคนให้กำลังใจเยอะมาก เราไม่ใช่คนดัง เป็นแค่คนธรรมดา ทำให้เราอยากทำคอนเทนต์ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ”
ขอบคุณสถานที่ HYDE Cafe Siam Square One Fl.7