เมื่อศิลปะ กับ การใช้ชีวิต เป็นสิ่งเดียวกัน ที่อยู่อาศัยจึงไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งในปัจจัย 4 อีกต่อไป หากแต่มีความสำคัญในแง่คุณค่าทางจิตใจ และนานวันจะยิ่งมีมูลค่าเสมือนทรัพย์สมบัติ ไม่ต่างกับชิ้นงาน “ศิลปะ” ที่ล้ำค่าระดับโลก
ผสานความงามศิลปะผ่านการถ่ายทอดด้วยศิลปะการแสดง
ด้วยความตั้งใจที่จะนำแรงบันดาลใจของคุณค่าความงามของศิลปะมาเป็นแนวคิดสำคัญของการออกแบบโครงการ The Diplomat 39 จึงถูกถ่ายทอดด้วยมุมมองของศิลปะที่มีคุณค่า ความงดงามและไร้กาลเวลา ทั้งยังแตกต่างและมีความร่วมสมัย
หากสะท้อนภาพแนวคิดดังกล่าว คงจินตนาการได้เป็นเฉกเช่นรูปแบบที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความร่วมสมัยของศิลปะการแสดงแบบ Contemporary Dance ศิลปะการแสดงประเภทหนึ่งที่มีทั้งความร่วมสมัยจากต้นกำเนิดความคลาสสิกด้วยบัลเล่ต์ ผสมผสานด้วยท่าทางต่างๆ ในสไตล์ร่วมสมัยอย่างกลมกลืนและลงตัว จึงมีความเป็นเอกลักษณ์ในแง่มุมศิลปะร่วมสมัยที่สะท้อนเห็นถึงความงดงาม ไร้กาลเวลา และความใส่ใจในทุกท่วงท่า
เช่นเดียวกับ The Diplomat 39 ที่นำแนวคิดการออกแบบ ซึ่งมีความแตกต่างด้วยเรื่องของดีไซน์เหนือกาลเวลา และความคราฟต์ในทุกชิ้นงาน ด้วยแรงบันดาลใจที่ต้องการสะท้อนถึงความงดงามเชิงศิลปะที่มีคุณค่าและอยู่ได้ทุกยุคทุกสมัย แรงบันดาลใจดังกล่าวยังถูกถ่ายทอดในรายละเอียดการออกแบบโครงการ
ผสานงานดีไซน์เหนือกาลเวลา ทำให้การใช้ชีวิตไม่เสื่อมลงไปตามยุคสมัย
แนวคิดของศิลปะการออกแบบที่สอดประสานทั้งสองยุคไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ได้รับแรงบันดาลใจสถาปัตยกรรมคลาสสิกในสไตล์พาลาเดียนของสถาปนิกชาวอิตาเลียน Andrea Palladio ที่มีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงมายาวนาน ผสมผสานกับดีไซน์ร่วมสมัยสไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพรารี เป็นแนวทางการเลือกสรรงานสถาปัตยกรรมที่สะท้อนความเป็นนิรันดร์ ไร้กาลเวลา และสร้างความเป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งเหล่านี้เอง ได้ก่อให้เกิดคุณค่าทางจิตใจต่อผู้อยู่อาศัย ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ครอบครองสถานที่แห่งนี้ และไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด ความรู้สึกเหล่านี้ก็จะไม่เสื่อมลงไปตามกาลเวลา
ผสานการตกแต่งด้วยความประณีต ทำให้การใช้ชีวิตละเอียดลออยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากการนำความโดดเด่นเรื่อง “ดีไซน์” และแรงบันดาลใจจากศิลปะมาสร้างสรรค์ ในด้านความเอาใจใส่ทุกรายละเอียด การเลือกใช้วัสดุแต่ละส่วนอย่างประณีตพิถีพิถัน การออกแบบและฟังก์ชัน คือสิ่งที่ต้องไปด้วยกัน
และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยงานศิลปะที่คัดสรรมาอย่างประณีตในทุกๆวัน แน่นอนว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นในทุกช่วงเวลาของชีวิตจะเต็มไปด้วยความละเมียดละไมมากขึ้น หลายอย่างนอกเหนือจากความพิถีพิถัน ยังแฝงไปด้วยปรัชญาในการดำเนินชีวิตที่มีความหมายลึกซึ้ง อย่างเช่น “ประตูมิติแห่งกาลเวลา” ที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าโครงการ บ่งบอกเราได้เป็นอย่างดีว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ผ่านกาลเวลามาแล้วทั้งสิ้น
ดังนั้นจึงทำให้คำว่า “ประสบการณ์” และ “เวลา” ของโครงการนี้เป็นเสมือนคำนิยามของความหรูหราที่ไม่เหมือนใคร เพราะช่วงเวลาของกระบวนการสร้างสรรค์งานตกแต่ง คือหน่วยวัดความหรูหราที่น่าสนใจ เพราะงานยิ่งคราฟต์เท่าไหร่ ยิ่งต้องใช้เวลาและความทุ่มเทมากเท่านั้น และการจะสัมผัสความหรูหราเหล่านี้ได้ ก็ต้องอาศัยการเรียนรู้ประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน
ผสานสถาปัตยกรรมร่วมสมัยเข้ากับโลเกชั่นที่หายาก จนเกิดเป็นสมบัติล้ำค่า
“สุขุมวิท” ถือเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการในตลาดสูง และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด โดยเฉพาะซอยสุขุมวิท 39 หรือ พร้อมพงษ์ ที่เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ทางวัฒนธรรม ความสะดวกสบาย และความสมบูรณ์แบบของกรุงเทพมหานคร ที่รายล้อมไปด้วยเส้นทางการเดินทางที่หลากหลาย ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และแหล่งแฮงก์เอ้าต์สำหรับคนทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ดังนั้นการได้ครอบครองที่อยู่อาศัยที่มี่ความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด ก็จะไม่เก่าไปตามกาลเวลา ยิ่งเป็นเสมือนการได้ครอบครองสมบัติล้ำค่า ที่สามารถส่งต่อให้ลูกหลานต่อไปได้