ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ลงนามข้อตกลงการบริหารจัดการกับบริษัท โวค พระนาง เบย์ รีสอร์ท จำกัด ในการดำเนินงานโรงแรมดุสิตดีทู อ่าวนาง ที่คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการปลายปีนี้ ดุสิตดีทู อ่าวนาง จะเป็นโรงแรมในเครือดุสิตแห่งที่สองของจ.กระบี่
คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ภายใต้ข้อตกลงดุสิตดีทู อ่าวนาง จะได้รับการรีแบรนด์จาก โวค รีสอร์ท แอนด์ สปา มีการปรับปรุงและตกแต่งใหม่สไตล์โมเดิร์นตามแบบแบรนด์ดุสิตดีทู ด้วยห้องพักและห้องสวีท 173 ห้อง พร้อมวิวทะเล ภูเขาและสระว่ายน้ำ
ภายในโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องอาหารเปิดบริการตลอดวัน ล็อบบี้บาร์ สระว่ายน้ำ และแยกสระเด็ก ห้องออกกำลังกาย สปา รวมทั้งห้องจัดเลี้ยงพื้นที่ 200 ตารางเมตร ครอบครัวที่มีเด็ก ยังมีสนามเด็กเล่นรองรับในการเข้าพัก
ตั้งของโรงแรมดุสิตดีทู อ่าวนาง อยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติกระบี่ 25 กิโลเมตร ในทำเลเนินเขาท่ของตัวเมืองอ่าวนาง รายรอบด้วยซูเปอร์มาร์เก็ต คาเฟ่ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสะดวก ไปยังชายหาด หมู่เกาะ และแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมยอดนิยมของกระบี่ การเดินป่า เดินชมทิวทัศน์ ดำน้ำตื้นดูปะการัง พายเรือคายัค ดูนก และทริปล่องเรือไปยังชายหาด รวมทั้งเกาะที่สวยที่สุดในประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่คุ้มครอง ของอุทยานแห่งชาติทางทะเล รวมทั้งยังมีภูเขาหินปูน ถ้ำหิน ที่มีชื่อเสียงดึงดูดนักปีนเขาทั่วโลก เช่น ผาหินปูน หาดไร่เลย์ ที่เป็นที่ตั้งโรงเรียนปีนผาหินยอดนิยมหลายแห่ง
“กลุ่มดุสิตยินดีที่ได้นำแบรนด์ดุสิตดีทู สู่พื้นที่ๆ สวยงามของอ่าวนาง ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้รับความนิยม ทั้งจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ ได้รับความสะดวกสบายจากดุสิตดีทู อ่าวนาง ที่มีทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร และการต้อนรับตามแบบมาตรฐานของโรงแรมดุสิตทุกแห่ง ซึ่งจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปลายปีนี้ ที่เป็นช่วงต้อนรับฤดูท่องเที่ยว”
คุณวัชรพนธ์ ดีไชยเศรษฐา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท โวค พระนาง เบย์ รีสอร์ท จำกัด กล่าวว่า กระบี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เติบโตเร็วที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีอายุน้อย
ปัจจุบัน ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล บริหารโรงแรมทั้งหมด 27 แห่ง รวม 4 แบรนด์ และกำลังขยายธุรกิจไปทั่วโลก โดยโรงแรมดุสิตดีทู อ่าวนาง จะเป็นโรงแรมในเครือดุสิตดีทูในประเทศไทยลำดับที่ 3 ต่อจาก ดุสิตดีทู เชียงใหม่ และดุสิตดีทู เขาใหญ่
ส่วนผลประกอบการครึ่งปีแรก 2561 ดุสิตธานีมีรายได้รวม 2,824 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.8% มีกำไรสุทธิ 231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 632% ปัจจัยสนับสนุนให้มีกำไรสุทธิเติบโต มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้อื่นๆ เช่น เงินลงทุนระยะยาว รวมทั้งการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจใหม่ ที่สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ธุรกิจที่วางไว้ตั้งแต่แรก ขณะเดียวกัน ผลประกอบการจากการดำเนินงานปกติของธุรกิจ ก็ยังคงสามารถรักษาระดับการเติบโตที่น่าพอใจ โดยกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 191% มาอยู่ที่ 93 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 มีรายได้รวม 1,125 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน 3.9% และมีกำไรสุทธิ 1 ล้านบาท พลิกจากผลขาดทุนสุทธิ 92 ล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ถือว่าเป็นผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่บริษัทฯสามารถรักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิไว้ได้