แม้ว่าอีกไม่กี่วันนี้ คู่แข่งแบรนด์สำคัญอย่าง SAMSUNG กำลังจะเปิดตัวแฟลกชิปโปรดักส์รุ่นใหม่ แต่ Apple ก็ไม่ออกอาการหวั่นไหว โดยเพิ่งจะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ พร้อมยืนยันความมั่นใจด้วยรายได้ที่เติบโตเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางอันดับผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าจับตาเช่นกัน!
โดน HUAWEI แซง!Apple กลายเป็นเบอร์ 3
IDC ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์มือถือทั่วโลกในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งสะท้อนยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาด
SAMSUNG ยังคงเป็นเบอร์ 1 ในตลาดมือถือโลก ด้วยยอดขายกว่า 71.5 ล้านเครื่องทั่วโลก กับส่วนแบ่งตลาดที่ 20.9%
ขณะที่ HUAWEI ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับที่ 2 ด้วยยอดขาย 54.2 ล้านเครื่องทั่วโลก ส่วนแบ่งตลาด 15.8%
และ Apple ตกไปเป็นอันดับที่ 3 ด้วยยอดขาย 41.3 ล้านเครื่องทั่วโลก ส่วนแบ่งตลาด 12.1%
ทั้งยังมีอีก 2 แบรนด์น่าสนใจ ในอันดับที่ 4 และ 5 (ตามลำดับ) คือ Xiaomi และ OPPO
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่ HUAWEI ขยับขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ของตลาดมือถือโลกนี้ คาดว่ามาจากกระแสตอบรับสมาร์ทโฟนแฟลกชิป HUAWEI P20 Series ซึ่งทำยอดขายได้ถึง 7 ล้านเครื่องทั่วโลก รวมถึงความสำเร็จจากการทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรม จากการทุ่มงบประมาณกว่า 10% ของยอดขายทุกปีให้กับการลงทุนด้าน R&D
Apple ฉลองรายได้เติบโตดับเบิล ดิจิ ติดต่อกัน 4 ไตรมาส
หลังสิ้นสุดการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3/2018 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน Apple ประกาศรายได้ประจำไตรมาสที่ 53,300 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นราว 17% เมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งยอดขายในต่างประเทศนั้นถือเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของรายได้ประจำไตรมาสทีเดียว
สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ซึ่งเติบโตอย่างน่าจับตานั้น Apple ระบุว่าเป็นเพราะยอดขายอันแข็งแกร่งของไอโฟน ธุรกิจบริการ และอุปกรณ์ต่างๆ โดย ทิม คุก CEO ของ Apple กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เรารู้สึกยินดีที่จะรายงานผลประกอบการไตรมาสเดือนมิถุนายนที่ดีที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และเป็นรายได้ประจำไตรมาสที่เติบโตไปถึงเลขสองหลักอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4”
นอกจากนี้ Apple ยังระบุว่าได้จ่ายคืนเงินลงทุนเกือบ 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐแก่ผู้ถือหุ้นผ่านโครงการคืนเงินลงทุนในไตรมาสนี้ รวมถึงการซื้อหุ้นคืนกว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย ขณะเดียวกัน ก็ยังคาดการณ์ถึงผลประกอบที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่ง Apple หวังว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 60,000-62,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นกำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 38% อีกด้วย