หลังจากที่กฎหมาย GDPR (The General Data Protection Regulation) คือ กฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองสหภาพยุโรป มีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าผ่านไปไม่กี่วัน ทั้ง Facebook และGoogle ก็อาจจะต้องพบกับปัญหาทางกฎหมาย
Facebook และ Google เป็นสองบริษัทเทคฯ ที่ถูกกล่าวหาว่าบังคับให้ผู้ใช้แชร์ข้อมูลส่วนตัว ซึ่งหากว่ากันตามกฎหมายแล้ว Facebook จะต้องถูกปรับเป็นเงิน 3,900 พันล้านยูโร ในขณะที่ Google อาจถูกปรับเป็นเงิน 3,700 ล้านยูโร สำหรับการคำนวณนี้มาจาก Max Schrems นักเคลื่อนไหวชาวออสเตรเลีย ที่ติดตามเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลบนโซเชียลมานานเป็นผู้เปิดเผย
สำหรับคนที่ยังไม่ทราบว่า GDPR คืออะไร?
GDPR (The General Data Protection Regulation) คือ กฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองสหภาพยุโรป ซึ่งหากฝ่าฝืนจะต้องมีโทษปรับสูงสุดถึง 20 ล้านยูโร หรือ 4% ของรายได้ต่อปีของบริษัท หรือค่าใดค่าหนึ่งที่สูงกว่า
โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่ว่านี้ หมายยถึงข้อมูลที่สามารถระบุถึงตัวบุคคลได้ เช่น IPแอดเดรส, ชื่อ, รูปถ่าย, ที่อยู่, อีเมล, ข้อมูลทางการแพทย์, รวมถึงข้อความที่บุคคลได้โพสท์บน Social Network และพฤติกรรมผู้ใช้งานออนไลน์ซึ่งมีผลต่อเว็บไซต์และบริการออนไลน์ต่างๆ เช่น เว็บค้นหาและจองที่พัก, โฮมสเตย์, กิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ, แอปฯ จดบันทึกงาน หรือ แอปฯ อ่านข่าว ด้วย แม้ว่าบริษัทคุณจะไม่ได้มีฐานตั้งอยู่ที่ยุโรป แต่หากว่าบริษัทของคุณมีลูกค้าเป็นชาวยุโรป ก็จะต้องถูกบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทั้ง Google และ Facebook ก็เพิ่งจะออกนโยบายและโปรดักส์ใหม่ที่สอนรับกับกฎของ GDPR ออกมาแล้วเช่นกัน แต่ทาง Schrems ก็ออกมาแย้งว่านโยบายดังกล่าวยังไม่เพียงพอ เพราะสุดท้ายแล้วบริษัทเหล่านั้นก็จะทำการขออนุญาตผู้ใช้ในการเข้าถึงบริการต่างๆ ที่ทำขึ้น ซึ่งเหมือนจะเป็นทางเลือกแต่ก็ไม่อาจเลือกปฏิเสธได้เพราะไม่งั้นก็ไม่สามารถใช้บริการนั้นๆ ได้ จึงเหมือนเป็นการเลี่ยงการฝ่าฝืน GDPR ไปในตัวอยู่แล้ว
ที่มา theverge.com