TRITN พร้อมโชว์ Q1/61 กำไร 27.88 ล้านบาท หลังเจอพิษขาดทุนสะสม

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

TRITN

นายพิพัฒน์ สุวรรณะชฎ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STREGA บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TRITN) รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2561 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 940.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 888.60 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นร้อยละ 1,724.25  โดยรายได้ธุรกิจก่อสร้างมีมูลค่า 890.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 860.71 ล้านบาทหรือร้อยละ 2,922.18 จากปีก่อนหน้า ที่เมื่อคำนวนหักต้นทุนแล้ว ธุรกิจก่อสร้างมีกำไรขั้นต้นจำนวน 41.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.02 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากธุรกิจสื่อในไตรมาสที่ 1 มีรายได้อยู่ที่ 20.98 ล้านบาท เป็นกำไรขึ้นต้น 11.30 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 19.95  นอกจากนี้ บริษัทฯรับรู้รายได้อื่นๆอีกจำนวน 28.99 ล้านบาท ส่งผลให้ไตรมาสที่ 1/2561 บริษัทฯ รับรู้กำไรได้กว่า 27.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.61 ล้านบาท หรือร้อยละ 212.75 จากปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ จากมติการอนุมัติของผู้ถือหุ้นกว่า 95% ในการประชุมสามัญประจำปี 2560 ในวาระที่15 ได้รับอนุมัติให้โอนส่วนเกินมูลค่าหุ้น จำนวนไม่เกิน 548,392,949 บาท เพื่อนำไปชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 จำนวน 311,538,119 บาท ทำให้บริษัทฯ ล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมด

ด้านแหล่งรายได้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีรายได้หลักมาจากการดำเนินการของ บริษัท สเตรกา จำกัด (มหาชน) (STREGA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯถือหุ้นอยู่จำนวน 84.21% โดย STREGA ประกอบธุรกิจก่อสร้าง มีชื่อเสียงและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการทางวิศวกรรมและบริหารจัดการโครงการก่อสร้าง (Engineering, Procurement and Construction Management หรือ EPCM) นอกจากนี้บริษัทฯ มีรายได้ที่เติบโตขึ้นจากธุรกิจสื่อที่บริหารจัดการผ่าน บริษัท สแพลช มีเดีย จำกัด (SPLASH)  ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TRITN อีกแห่งหนึ่ง โดยรายได้จากสื่อช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตขึ้นที่ค่อนข้างมั่นคงเป็นแหล่งรายได้สำคัญอีกทางหนึ่ง

นายพิพัฒน์ สุวรรณะชฎ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STREGA กล่าวว่า

“ช่วงปีที่ผ่านมา STREGA ได้มีโอกาสเข้าไปดูแลงานให้โครงการทั้งขนาดเล็ก,กลาง,ใหญ่หลายโครงการ ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2561บริษัทฯรับรู้รายได้ได้ตามคาด และจะต่อเนื่องไปอีกในไตรมาสต่อๆ ไป นอกจากนี้บริษัทไทรทันฯ สามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมด ซึ่งเป็นผลดีต่อการดำเนินธุรกิจ รายได้จากการดำเนินงานต่างๆ ที่จะมีเข้ามาต่อจากนี้จะถูกนำไปบันทึกเป็นกำไร สร้างความเติบโตให้บริษัทและมีผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อกลุ่มผู้ลงทุนในอนาคต”


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •