ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย จะเป็นอย่างไร หลังเปลี่ยนผู้นำคนใหม่

  • 200
  •  
  •  
  •  
  •  

Uniliver

ทุกการเปลี่ยนแปลง ย่อมเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรบางอย่าง เหมือนกับที่ ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ได้เปิดตัวผู้นำคนใหม่ “มร.โรเบิร์ต แคนเดลิโน” ผู้บริหารระดับสูงจากยูนิลีเวอร์ สหรัฐฯ เข้ารับตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย พร้อมประกาศวิสัยทัศน์การขยายตลาดในไทย ภายใต้เป้าหมาย “2022 Growing Together” ขับเคลื่อนตลาดเมืองไทยให้เติบโต พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้บริโภค และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

มร.โรเบิร์ต แคนเดลิโน ไม่ใช่คนอื่นคนไกลจากที่ไหน โดยเข้าทำงานกับยูนิลีเวอร์ตั้งแต่ปี ค.ศ.1997 ก่อนได้รับมอบหมายให้เข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ในช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว ด้วยประสบการณ์ด้านการตลาดและการบริหารกว่า 20 ปี ในหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก ทั้งแคนาดา อังกฤษ และสหรัฐฯ จึงมั่นใจได้ว่าการเข้ามาของ มร.โรเบิร์ต จะผลักดันให้ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย แข่งขันกับตลาดได้อย่างยั่งยืน

31543830_10155265739751960_7639993881752240128_n-700

มร.โรเบิร์ต เล่าประสบการณ์การทำงานในเมืองไทยมากว่า 1 ปี โดยหลังจากศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมของคนไทย พบว่า ยูนิลีเวอร์ เป็น Brand Love ในใจของผู้บริโภค เพราะ 99% ของ 24.7 ล้านครัวเรือนในไทยใช้ผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ เฉลี่ยการใช้ 3 ครั้งต่อวัน และ 99% มีการซื้อซ้ำ

เมื่อเห็นตัวเลข 99.2% หลายคนคงกำลังสงสัยว่า ก้าวต่อไปของยูนิลีเวอร์จะเป็นอย่างไร ด้วยความที่เป็นเจ้าตลาดที่มีผลิตภัณฑ์มากถึง 7 กลุ่ม ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ซักผ้า, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผม, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกาย, ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจาน, ผลิตภัณฑ์โจ๊ก, ผลิตภัณฑ์ไอศกรีม และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย ก้าวต่อไปจึงเป็นเรื่องของการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิม และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ใหญ่ขึ้น

31496184_10155265736521960_9154431330648326144_n-700

เพราะเชื่อว่าสินค้าแต่ละกลุ่มยังมีโอกาสเติบโตได้อีก ยูนิลีเวอร์ จึงวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ใน 4 กลุ่มสำหรับช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผม Lux เพิ่มแบบพรีเมี่ยมนำเข้าจากญี่ปุ่น, คอมฟอร์ท กับครั้งแรกที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ซักผ้า และโดฟ กับแคมเปญใหม่ “Love Your Hair” ที่ให้ผู้หญิงมั่นใจในความงามของตัวเอง เพื่อเพิ่มอัตราการบริโภคให้สูงขึ้นในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นต้น

ภายใต้การนำของ มร.โรเบิร์ต ทำให้ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มีเป้าหมายชัดเจนจนถึงปี ค.ศ. 2020 ด้วยกลยุทธ์ 3Ps ที่ประกอบด้วย Purpose, People และ Performance ซึ่งมีผลสำรวจบอกว่า แบรนด์ที่มีเป้าหมายชัดเจนจะเติบโตได้ดีกว่าแบรนด์ที่ไม่มีเป้าหมายได้เร็วกว่า 50% และนำไปสู่การสร้างองค์กรที่แข็งแกร่ง

31641845_10155265739436960_603554960784752640_n-700
Purpose สร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างมีเป้าหมาย โดยมี 3 แนวทางหลัก 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาสุขภาพและคุณภาพชีวิต ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมครึ่งหนึ่ง และยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คน ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการคนอร์โจ๊ก School Program ที่ทำต่อเนื่องมาแล้ว 10 ปี มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการรวมกว่า 3,400,000 คน, โครงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยแนวคิดคืนขยะสู่ธรรมชาติ, โครงการร้านติดดาว ที่มี 10,500 ร้านทั่วประเทศ และโครงการที่ติมวอลล์ หรือ I’m Wall’s ที่สร้างรายได้เฉลี่ย 10,000 – 37,500 บาท

People เติมคุณค่าให้บุคลากร สร้างความสุขให้คนภายในองค์กร สร้างวัฒนธรรมการทำงานที่สอดคล้องกับกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนพฤติกรรมของพนักงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ยูนิลีเวอร์ให้ความสำคัญในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ขององค์กรให้เป็นที่รู้จักและชื่นชอบในกลุ่มคนรุ่นใหม่ การพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถในระดับสากล ที่ผ่านมายูนิลีเวอร์ได้ส่งพนักงานไปแล้ว 54 คน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในยูนิลีเวอร์ทั่วโลก

Performance ศักยภาพทางธุรกิจขององค์กร พัฒนานวัตกรรมในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค

ความท้าทายในการทำตลาดในไทย

9VhgvTsR-700

ถือเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจ ที่ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในธุรกิจค้าปลีกและพฤติกรรมของผู้บริโภคก็เช่นเดียวกัน ตอนนี้ผู้บริโภคไม่ได้ไปห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของแล้ว แต่จะซื้อของกินของใช้จากร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ในฐานะผู้นำตลาด FMCG เราต้องคิดว่าทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเจอสินค้าของเราในเวลาที่ต้องการ ไม่ว่าจะอยู่บนสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือร้านค้าปลีกต่างๆ นี่จึงเป็นที่มาของโมเดลธุรกิจ “ร้านติดดาว” ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือร้านโชห่วยให้กลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกของผู้ซื้อ ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 10,500 ร้านทั่วประเทศ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ต่อจากนี้ไปคงจับตามองว่า มร.โรเบิร์ต จะขับเคลื่อนยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ไปในทิศทางไหน และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจ FMCG ในไทยได้อย่างไร

 


  • 200
  •  
  •  
  •  
  •