ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ถ้าไม่นับเรื่องสงครามในซีเรียและข้อมูลรั่วไหลของ true ก็เห็นจะเป็นเรื่องของร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks ที่ดันเกิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง เมื่อพนักงานแจ้งความจับชายผิวดำ 2 คนที่นั่งรอเพื่อนในร้านโดยไม่ได้สั่งอะไร แถมมีรายงานเพิ่มเติมว่า ชายผิวดำต้องการเข้าห้องน้ำแต่พนักงานปฏิเสธ โดยแจ้งว่าห้องน้ำสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าในร้านเท่านั้น ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในโลกโซเชียล รวมไปถึงการคว่ำบาตร (Boycott) ร้าน Starbucks
แม้ว่า Kevin Johnson CEO ของ Starbucks จะออกแถลงการณ์ขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่ดูเหมือนจะยังไม่ดีขึ้นมากเท่าไหร่กับกระแสสังคมในสหรัฐฯ และนั่นทำให้ Kevin ต้องประกาศ ปิดร้าน Starbucks ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา มากกว่า 8,000 ร้าน ในบ่ายวันที่ 29 พฤษภาคม เพื่อจัดอบรมพนักงานกว่า 175,000 คนทั่วประเทศ ในเรื่องของแนวคิดอคติกับคนต่างเชื้อชาติ ส่งผลให้ Starbucks สูญเสียรายได้เฉพาะช่วงปิดร้านไปประมาณ 20% ของรายได้ทั้งหมดต่อวันหรือราว 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ประมาณ 372 ล้านบาท
เมื่อย้อนกลับมาดูที่ประเทศไทยจะเห็นว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีปิดร้านเพื่ออบรมพนักงานของร้านอาหารสำหรับครอบครัวอันดับต้นๆ ของประเทศไทยอย่าง บาร์บีคิวพลาซ่า กับกรณี “Black Pan” ที่ภายหลังแม้จะมีหลักฐานชัดเจนว่าสีดำในอาหารไม่เกี่ยวกับสีของกระทะ แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคก็ยังไม่กลับมา บาร์บีคิวพลาซ่าจึงใช้วิธีปิดร้านทุกสาขาและนำพนักงานทั้งหมดมาอบรม จนสามารถสร้างความน่าเชื่อถือกลับมาได้อีกครั้ง
Source: Starbucks , USA Today , MarketWatch