ซัมเมอร์นี้นอกจากตลาดเครื่องทำความเย็นที่จะแข่งกันดุเดือดแล้ว อีกหนึ่งธุรกิจที่เบียดไหล่ไล่กันมาได้แก่ ตลาดธุรกิจสีทาบ้าน ซึ่งร้อนแรงท้าแดดท้าฝนไม่แพ้กัน
จากการที่เศรษฐกิจประเทศกำลังฟื้นตัว ทำให้ตลาดสีทาบ้านมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น กอปรกับการขยายตัวของเมืองและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปที่คนรุ่นใหม่แยกตัวออกมามีบ้านเป็นของตัวเอง ทำให้ตลาดสีทาบ้านได้อนิสงค์จากการที่ตลาดอสังหาฯ เติบโตขึ้นอยู่ที่ประมาณ 5% ดังนั้น ในปี 2561 คาดการณ์ว่า ตลาดสีทาบ้านน่าจะเติบโตมีมูลค่าสูงขึ้นอยู่ที่ 22,000 ล้านบาท (ภาพรวมตลาดปี 2560 อยู่ที่ 21,000 ล้านบาท)
และด้วยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของตลาดสีทาบ้าน ทำให้ผู้ผลิตหลายเจ้ามองเห็นโอกาสที่จะรุกเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างเช่น สีเบเยอร์ ที่ปีนี้เล็งขยายตลาดไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นการขยับตัวตามการเติบโตของคนรุ่นใหม่ที่ปัจจุบันนิยมแยกตัวออกมามีบ้านของตัวเอง เป็นครอบครัวหน่วยเล็กเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ สิ่งที่สีเบเยอร์จะเอาชนะมัดใจผู้บริโภครุ่นใหม่ได้ ก็ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้อย่าง นวัตกรรมสีบ้านเย็น ที่คิดค้นขึ้นมาจากการตระหนักในปัญหาสภาวะโลกร้อนที่เป็นปัญหาสำคัญในปัจจุบัน โดยที่ เบเยอร์คูล นำไมโครสเฟียร์เซรามิก ที่ใช้เคลือบผิวกระสวยอวกาศในองค์การนาซ่า มาใส่ในสีเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสะท้อนและสกัดกั้นความร้อน เพื่อทำให้บ้านเย็นและลดการใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นผู้นำนวัตกรรมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ภายใต้แนวคิด “ECO-Wellness Innovation”
นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำจุดเด่นของสินค้าเรื่องความเย็น กลยุทธ์ที่แบรนด์นิยมใช้กันในช่วงฤดูกาลที่แข่งกันดุเดือดก็คือ การออกโฆษณาในทุกๆ หน้าร้อน ซึ่งสีเบเยอร์ก็ได้ออกโฆษณาทางโทรทัศน์ ภายใต้ Concept “จะร้อนไปไหน” เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่พอแค่นั้น เบเยอร์ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมสีบ้านเย็น ด้วยกลยุทธ์ Music Marketing ที่ถือว่าเป็นครั้งแรกของตลาดสีทาอาคารที่ใช่กลยุทธ์นี้
ความเก๋ของเอ็มวีก็คือ มีการใช้มาสค็อท ‘เต่า’ สัญลักษณ์ประจำแบรนด์มาร่วมในเพลงด้วย แต่ครั้งนี้ไม่ได้มาแค่ตัวเดียว แต่มาถึง 4 ตัวด้วยกัน แล้วยังตั้งเป็นวงดนตรีชื่อว่า “4 เต่าคูล” มาขับกล่อมเพลงสนุกๆ ในอารมณ์สบายๆ ในชื่อเพลงว่า “จะร้อนไปไหน” ซึ่งเป็นเพลงแนว 3 ช่า ที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้เพลงนี้ติดหูตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง
เป้าหมายหลักของ Music Marketing ก็เพื่อสร้าง brand awareness และ brand reminding ให้กับแบรนด์สีเบเยอร์ คูล เพื่อตอกย้ำถึงความโดดเด่นของสินค้าโดยเฉพาะเรื่อง “สีบ้านเย็น” ผ่านบทเพลงสนุก ฟังเพลิน และมีท่อนฮุคที่จำได้ง่ายเพื่อนำเสนอ benefit โปรดักส์ให้ออกมาชัดเจนตอบโจทย์การสร้างการจดจำให้กับ แบรนด์ โดยเฉพาะท่อนที่บอกว่า “จะร้อนไปไหน…ไปซื้อสีเบเยอร์คูล” และหน้าร้อนนี้ก็ไม่มีอะไรที่จะสนุกไปกว่า เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเอ็มวีตัวนี้ก็หยิบมาใช้เป็นธีมหลัก
httpv://youtu.be/TURCAqK4j9A
ส่วนในทางการตลาด สีเบเยอร์ มุ่งบุกตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ พม่า, ลาว, กัมพูชา เวียดนาม , มาเลเซีย, อินเดีย , มัลดีฟ, เกาหลี, ญี่ปุ่น , อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, บรูไน , เนปาล ด้วย ซึ่งเป้าหมายด้านการตลาดในปีนี้ จะเน้นการทำการตลาดแบบ 360 องศา และเน้นการรุกออนไลน์มากกว่าทุกปีเพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่และสร้างการรับรู้ในกลุ่ม secondary target ให้มากขึ้น พร้อมกับตอกย้ำการเป็น Eco-Wellness Innovation นวัตกรรมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รายแรกในประเทศ ที่จะมุ่งเน้นไปที่คุณภาพชีวิตเป็นหลัก
สีเบเยอร์ปีนี้ทำให้เราได้เห็นอะไรใหม่น่าสนใจให้กับวงการสีทาบ้านคึกคักมากขึ้นทีเดียว