ตลาดบิวตี้โต 7.8% ‘ลอรีอัล’ ภูมิใจโตกว่าตลาดเป็นปีที่ 6 อย่างต่อเนื่องปีนี้พร้อมลอนช์ 2 แบรนด์ใหม่ในไทย

  • 466
  •  
  •  
  •  
  •  

ตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง นับเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง โดยในปี 2560 อุตสาหกรรมเครื่องสำอางเติบโต 7.8% หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดรวม 1.68 แสนล้านบาท (ที่มา Euromonitor)

โดยแบ่งเป็น

  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (skincare) 47%
  • ผลิตภัณฑ์ผม (hair) 18%
  • เครื่องสำอาง (makeup) 14%
  • ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดร่างกาย (hygiene) 16%
  • น้ำหอม (fragrance) 5%

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยมีมูลค่าสูงมากทีเดียว อย่างไรก็ตาม หนึ่งในแบรนด์ระดับโลกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดได้แก่ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด  หนึ่งในสาขาบริษัทความงามอันดับหนึ่งของโลก ได้ประกาศความสำเร็จการดำเนินงานประจำปี 2560 สามารถคงอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดความงามอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และยังครองความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าในประเทศไทย ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

loreal1

นาตาลี เกอร์ชไตน์ เคอโรวดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจของลอรีอัลกรุ๊ป คือการส่งมอบ “ความงามสำหรับทุกคน” หรือ “Beauty For All” โดยมุ่งสร้างความงามให้เป็นสากลผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดให้แก่ผู้บริโภคทุกเพศและตอบโจทย์ทุกความต้องการ เราเป็นผู้นำในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการรักษามาตรฐานคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงความล้ำหน้าด้านดิจิทัลที่เข้ามาช่วยเพิ่มคุณค่าและสร้างความเชื่อมั่นอันแข็งแกร่งให้แก่ผู้บริโภคของเรา ปี 2560 ที่ผ่านมา นับเป็นปีที่ดิจิทัลเติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีหลากหลายช่องทางที่ให้บริการผู้บริโภคได้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ความสำเร็จของลอรีอัลยังมาจากกลยุทธ์อันโดดเด่นในการรังสรรค์โลกแห่งความงามด้วยปัจจัยต่างๆ ได้แก่ การกำหนดวิสัยทัศน์และการวางกลยุทธ์ที่ชัดเจน การให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยไปพร้อมๆ กับการลงทุนระยะยาวทางด้านการวิจัยและนวัตกรรม ความใส่ใจในชุมชนที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอยู่ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญและแข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ เป็นผลมาจากการมีวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งของลอรีอัล

ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (skincare)

ภาพรวมของตลาดพูดไปแล้ว มาถึงเซ็กเมนต์ต่างๆ ของตลาดนี้กันบ้าง ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (skincare)ปี 2560 เติบโต 8.7% มูลค่ารวม 7.87 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น

  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า 84%
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวร่างกาย 16%

โดย ลอรีอัลฯ ถือว่าตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่ และลอรีอัลฯ ก็ถือว่าเป็นเจ้าตลาดครองอันดับ 1 โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านนวัตกรรมต่างๆ อาทิ วิชี่ มิเนอรัล 89 (Vichy – Mineral 89) พรีเซรั่มน้ำแร่เข้มข้น ก็เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มเวชสำอาง ส่วน การ์นิเย่ ไมเซล่าร์ วอเตอร์ (Garnier Micellar Water) ก็ผลักดันทำให้ตลาดส่วนนี้โต ฯลฯ และยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ด้านสกินแคร์ที่ประสบความสำเร็จและเป็นผู้บุกเบิกเจ้าแรกๆ ของตลาดในเซ็กเมนต์นี้ และปีที่ผ่านมาก็ลอนช์ผลิตภัณฑ์ใหม่ไปถึง 159 ผลิตภัณฑ์แล้ว

ตลาดเครื่องสำอาง (makeup)

ส่วนตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (makeup)ปี 2560 เติบโต 7.6% มูลค่ารวม 2.27 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น

  • ผิวหน้า 56%
  • ริมฝีปาก 26%
  • แต่งตา 17%
  • เล็บ 1%

ตลาดเครื่องสำอาง ลอรีอัลฯ ถือเป็นอันดับ 1 ของเซ็กฯ นี้ โดยเฉพาะใน Modern Trade โดยปีที่ผ่านมาลอนช์ผลิตภัณฑ์ใหม่ไป 281 ผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ ตลาดเครื่องสำอาง เป็นตลาดที่ต้องสร้างความตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา เพราะผู้บริโภคชอบความแปลกใหม่ ชอบทดลองสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอด ดังนั้น เราจึงต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อตอบความต้องการของลูกค้า สำหรับสินค้าที่โดดเด่นที่สุดในปีที่ผ่านมา ได้แก่ Urban Decay Naked Heat ซึ่งตลาดไทยเราลอนช์พร้อมกับอเมริกาเลย และ ลิปสติกกูตูร์ L’Oreal Paris Color Riche x Balmain Paris – Central ซึ่งถือเป็นสองผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุดในตลาด

ตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม (hair)

ส่วนตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม (hair)ปี 2560 เติบโต 6.7% มูลค่ารวม 3.08 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น

  • ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม 83%
  • ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม 11%
  • ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม 4%
  • ผลิตภัณฑ์ยืดดัดผม 1%

ลอรีอัลฯ เป็นแบรนด์อันดับ 1 ตลาดเส้นผลในซาลอน โดยปีที่ผ่านมาลอนช์ผลิตภัณฑ์ใหม่ไป 75 ตัว

กลยุทธ์ในปี 2018

ลอรีอัล ประเทศไทย เป็นสาขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน ในปี 2561 นี้ ลอรีอัล ประเทศไทยจะมุ่งเน้นเสริมสร้างความเป็นเลิศใน 4 ด้าน ได้แก่

  • การมุ่งเน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง Consumer Centricity
  • การขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ Digital Acceleration
  • การพัฒนาและดูแลบุคคลากร Great Employer
  • การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและกิจกรรมเพื่อสังคม Great Citizen

loreal4

  1. ด้วยการมุ่งเน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง หรือ Consumer Centricity

ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดขององค์กร นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์จึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ โดยจะมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ผลิตภัณฑ์เด่นแห่งปีอย่าง วิชี่ มิเนอรัล 89 (Vichy – Mineral 89) พรีเซรั่มน้ำแร่เข้มข้น รวมไปถึงเทรนด์ใหม่ล่าสุดที่ฉีกภาพลักษณ์เดิมๆ ในการเปลี่ยนสีผมอย่าง ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมกึ่งถาวร ลอรีอัล ปารีส คัลเลอร์ริสต้า (L’Oréal Paris COLORISTA) ซึ่งเป็นการตอกย้ำการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์บนความต้องการผู้บริโภค มีความเพอร์ซอนนัลไลซ์ และสร้างประสบการที่ดีที่สุดให้กับคอนซูเมอร์นั่นเอง

  1. การขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ Digital Acceleration

การขับเคลื่อนสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์หลักสำหรับลอรีอัล ประเทศไทย ในการขับเคลื่อนการเติบโตในตลาดที่เชื่อมโยงด้วยดิจิทัล โดยในปี 2560 ลอรีอัล ได้ใช้ช่องทางในการสื่อสารที่หลากหลายและเข้าถึงตลาดอีคอมเมิร์ซค้าปลีกใหม่ๆ อีกหลายราย เช่น คอนวี่ (Konvy) และ โอรามิ (Orami) รวมไปถึงช่องทางสังคมออนไลน์ คือ ไลน์แอด (Line@) และ เครซ (Craze) รวมถึงการให้บริการหน้าร้านค้าออนไลน์ของแบรนด์เอง คือ ลังโคม (Lancôme) วายเอสแอล บิวตี้ (YSL Beauty) และ ไบโอเธิร์ม (Biotherm)

อีคอมเมิร์ซนับเป็นช่องทางที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และลอรีอัล ประเทศไทย ก็มีความมุ่งมั่นที่จะใช้ช่องทางนี้อย่างเต็มที่ เราได้ขยายธุรกิจในช่องทางอีคอมเมิร์ซที่หลากหลาย เพื่อให้มั่นใจว่าเราก้าวนำเทรนด์การตลาดอยู่เสมอและอยู่ในทุกองค์ประกอบของการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภค ไม่ว่าจะด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำความงามในช่องทางดิจิทัล มุ่งสร้างและออกแบบการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ารายบุคคล รวมถึงการทำให้แบรนด์ต่างๆ ของลอรีอัล ก้าวสู่การเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภครัก

ทั้งนี้ การเติบโตทางธุรกิจ E-Commerce ขอ ลอรีอัล กรุ๊ป อยู่ที่ +33.6% ส่วนประเทศไทย ลอรีอัล ไทยแลนด์ เติบโตมากถึ 97%

loreal5

  1. การพัฒนาและดูแลบุคคลากร Great Employer

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้ลอรีอัลเป็นองค์กรที่น่าทำงานที่สุดสำหรับพนักงานทุกคนยังคงเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ ลอรีอัลมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการเป็นบริษัทที่ใฝ่ฝันสำหรับผู้ที่มีความสามารถ ซึ่งความสำเร็จของพวกเขาจะได้รับการยกย่องและถ่ายทอดสู่ภายในองค์กร

โดยภายในปี 2561 นี้ ลอรีอัลฯ ตั้งเป้าที่จะฝึกอบรมพนักงานทุกคนในบริษัทฯ ผ่านโครงการการเรียนรู้และการพัฒนาที่หลากหลาย เพื่อให้พนักงานมีทักษะรอบด้านมากที่สุด ทั้งบนแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากนั้น ลอรีอัล ยังมีโครงการ แชร์แอนด์แคร์ (Share & Care) ซึ่งมุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการขั้นพื้นฐานของพนักงาน 4 ด้าน ได้แก่ สุขภาพ สวัสดิการ ชีวิตครอบครัว และคุณภาพชีวิตในการทำงาน หรือโครงการล่าสุด Work Anywhere”  ให้พนักงานของลอรีอัลทุกคนสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ หรือการลาไปดูแลภรรยาเพิ่งคลอดลูกของพนักงานผู้ชาย เราก็ให้ทำได้เช่นกัน

นอกจากนี้ โดยจากการจัดทำผลสำรวจพนักงานภายในองค์กร พบว่าร้อยละ 95 ของพนักงานในบริษัทฯ รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงานกับลอรีอัล ในขณะที่ ร้อยละ 85 รู้สึกว่าบริษัทฯ ให้โอกาสพวกเขาในการทำงานที่ท้าทายและน่าสนใจ

  1. การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและกิจกรรมเพื่อสังคม Great Citizen

ลอรีอัลฯ จะยังคงดำเนินงานภายใต้พันธสัญญาว่าด้วยความยั่งยืน “แบ่งปันความงามให้ทุกสรรพสิ่ง” (Sharing Beauty with All) ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของเราในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายของลอรีอัล กรุ๊ป ในปี 2563 ซึ่งประกอบด้วยการสร้างนวัตกรรม การผลิต การใช้ชีวิต และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านต่างๆ และในปีนี้ ลอรีอัล ได้ริเริ่มอีกหนึ่งเป้าหมาย เพื่อให้องค์กรสามารถเข้าใกล้จุดหมายที่จะประสบความสำเร็จด้านความยั่งยืนได้เร็วยิ่งขึ้น คือ โครงการ ‘Working Sustainably” หรือ “การร่วมสร้างองค์กรอย่างยั่งยืน” ให้พนักงานในองค์กรทุกคนช่วยกันสร้างสถานที่ทำงานของพวกเขาให้ยั่งยืนและสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานให้เป็นมิตรมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น หลักการทำงานด้านจรรยาบรรณขององค์กรยังถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานประจำวันเพื่อช่วยหล่อหลอมวัฒนธรรมองค์กร และสร้างการรับรู้ให้แก่พนักงานทุกคนของลอรีอัลในเรื่องของ ความซื่อตรง (integrity) ความเคารพซึ่งกันและกัน (respect) ความกล้าหาญ (courage) และความโปร่งใส (transparency)

เปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่

ในปี 2561 ลอรีอัล ประเทศไทย ยังคงเสริมความแข็งแกร่งด้วยการเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ล่าสุดในประเทศไทย ได้แก่ จิออร์จิโอ อาร์มานี บิวตี้ (Giorgio Armani Beauty)แบรนด์เครื่องสำอางสุดหรูพร้อมนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกสภาพผิวของของผู้บริโภคทุกคน ที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและเครื่องสำอางที่อยู่เบื้องหลังความงามของเวทีระดับโลกมามากมาย

และอีกหนึ่งแบรนด์คือ เซราวี (CeraVe) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ได้รับการแนะนำและพัฒนาโดยแพทย์ผิวหนังด้วยการผสมผสานเซราไมด์สามชนิด พร้อมการให้บริการกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุดในราคาที่จับต้องได้ โดยผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง ประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น ฟื้นฟู และเติมเต็มผิวหนัง

loreal2 loreal3

ท้ายที่สุด กรรมการผู้จัดการ ลอรีอัล กล่าวว่า ในปี 2561 นี้ ลอรีอัล ประเทศไทย จะยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ของเราในการทำให้ทุกครัวเรือนมีผลิตภัณฑ์ของลอรีอัลอย่างน้อย 1 ชิ้น และผลักดันให้บริษัทฯ ก้าวสู่บริษัทความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทยต่อไป.


  • 466
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!