DAAT เผย เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลในไทยโตต่อเนื่องกว่า 31% มูลค่ามากกว่า 12,000 ล้านบาท

  • 53
  •  
  •  
  •  
  •  

 

daat

สมาคมโฆษณาดิจิทัล (DAAT ร่วมกับกันตาร์ ทีเอ็นเอส (ไทยแลนด์) เผยผลสำรวจมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาที่แบรนด์ต่าง ๆ ใช้จ่ายผ่านสื่อดิจิทัล สำหรับปี 2017 ที่ผ่านมานั้น มูลค่าแท้จริงของเม็ดเงินโฆษณาอยู่ 12,402 ล้านบาท ตัวเลขก้าวกระโดดจากที่ประเมิณไว้ 1,250 ล้านบาท ซึ่งทำให้อัตราการเติบโตจากปี 2017 นั้นกลายเป็น 31% จากที่คาดไว้เพียง 18%

10 อันดับกลุ่มโฆษณาที่ใช้งบโฆษณากับสื่อดิจิทัลมากที่สุดในปี 2017

Top 10

1.กลุ่มยานยนต์ ใช้งบมากกว่า 1,289 ล้านบาท

2.กลุ่มสื่อสาร 1,195 ล้านบาท

3.กลุ่มธนาคาร 847 ล้านบาท

4.กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว 723 ล้านบาท

5.กลุ่มเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ 833 ล้านบาท

6.กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ 640ล้านบาท

7.กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากนม 570 ล้านบาท

8.กลุ่มประกันภัย 539 ล้านบาท

9.กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 371 ล้านบาท

10.กลุ่มผลิตภัณฑ์แต่งผม 371 ล้านบาท

Facebook ยังครองแชมป์แพลตฟอร์มหลักด้วยเม็ดเงินกว่า 4,000 ล้านบาท

Dis 2017

ด้วยเม็ดเงินที่สูงกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งเทียบเท่ากับ 1 ใน 3 ของมูลค่าสื่อโดยรวมทั้งหมดของประเทศ ทำให้ Facebook ยังคงครองแชมป์แพลตฟอร์มหลักที่แบรนด์ต่าง ๆ เลือกใช้ในการสื่อสารกับผู้บริโภค และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีอัตราเติบโตของเม็ดเงินสูงขึ้น 13% คิดเป็นเงิน 4,600 ล้านบาทในปี 2018

ส่วนแฟลตฟอร์มที่แบรนด์ต่าง ๆ ใช้งบประมาณในการสื่อสารกับผู้บริโภคลำดับถัดมาอย่าง Youtube นั้นยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นเงินกว่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นอีกมากกว่า 24% ด้วยความนิยมในคอนเทนต์รูปแบบวีดีโอในประเทศไทย

 Digital is new ‘Normal’ 

FC 2018

สำหรับปี 2018นี้ ทางสมาคมโฆษณาดิจิทัลได้คาดการณ์ว่ามูลค่าเม็ดเงินของการใช้จ่ายผ่านสื่อดิจิทัลจะมีมูลค่าสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมามากกว่า 2,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 16% ซึ่งจะทำให้มีมูลค่าเม็ดเงินราว 14,330 ล้านบาทโดยกลุ่มนี่น่าจับตามองเป็นพิเศษในปีนี้คือ กลุ่มธนาคารและการเงิน (Banking) ด้วยยอดการเติบโตที่แซงขึ้นมาเป็นอันดับ 3 จากเดิมที่อยู่อันดับ 6 ในปีที่ผ่านมา

คุณศุภชัย ปาจริยานนท์ นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “มูลค่าเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลของไทยนั้นเป็น Top 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะเติบโตขึ้นอีก 5 เท่าภายใน 5 ปีนี้ ”


  • 53
  •  
  •  
  •  
  •