“แสนสิริ” เติมเครื่องใหม่แอป Home Service 2018 ย้ำภาพพร็อพเทค ใช้ชีวิตแบบสั่งงานด้วยเสียง

  • 97
  •  
  •  
  •  
  •  

700

เปิดให้ลูกบ้านได้ใช้เทคโนโลยี Home Service ผ่านแอปพลิเคชั่นตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งมีผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานราว 15,000 ราย วันนี้ แสนสิริ ประกาศเดินหน้าด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชั่น Home Service เวอร์ชั่น 2018 ที่มาพร้อมกับโฉมใหม่และฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ กับวิสัยทัศน์ในการมุ่งสู่ LifeTech

คุณทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) อธิบายว่า บริการ Home Service จะเป็น Touch Point ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกบ้านแสนสิริได้แบบ 360 องศา ในปีนี้เราจึงตั้งเป้าผู้ใช้งานจาก 60,000 ราย ซึ่งมียอดแอคทีฟอยู่ที่ 15,000 ราย เป็นยอดแอคทีฟ 50,000 รายภายในสิ้นปีนี้

“ต้องบอกว่าแสนสิริเริ่มต้น Home Service อย่างจริงจังเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทุกโครงการที่เปิดตัวในปี 2560 จะมีบริการทางเทคโนโลยีช่วยตอบโจทย์การใช้งาน ทั้ง Home Service , Home Automation, Smart Facility เช่น ระบบยืนยันตัวตนเพื่อเข้าอาคาร เข้าห้องออกกำลังกาย จองคิวห้องดูหนัง หรือจองใช้สมาร์ทล็อคเกอร์ เป็นต้น เรียกว่าทั้ง 300 โครงการของแสนสิริปัจจุบันมีทั้งสิ้น 100 โครงการที่นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานแล้ว ซึ่งลูกบ้านจะสามารถดาวน์โหลดแอปดังกล่าวมาใช้งานได้หลังจากจองซื้อเสร็จสมบูรณ์ โดยลูกบ้านสามารถเพิ่มเทคโนโลยี Home Automation จากพื้นฐานที่ติดตั้งไว้ให้ เช่น เปิด-ปิดไฟ,แอร์,ทีวี ระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ และเซ็นเซอร์น้ำรั่ว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นหลักร้อยบาท เช่น การติดเซ็นเซอร์ที่ประตู หน้าต่าง เป็นต้น”

1

ปูพรม Home Service บนมือถือ ต่อยอดสู่ดีไวซ์อื่น

เนื่องจาก สิริ เวนเจอร์ส เป็นผู้พัฒนาโซลูชั่น Home Service ทำให้บริษัทไม่ต้องใช้งบประมาณเพื่อพัฒนาระบบส่วนดังกล่าว ภายใต้กรอบการดำเนินงาน 3 ด้าน คือ การก่อสร้าง การใช้ชีวิต และเรื่องสุขภาพ อย่างไรก็ตาม แอปดังกล่าวเปิดให้ดาวน์โหลดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ซึ่งในอนาคตจะต่อยอดสู่อุปกรณ์อื่น เช่น Smart Speaker, Smart Display,Wear OS เป็นต้น เพื่อครอบคลุมการให้บริการลูกบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสั่งงานผ่านอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะอยู่ที่ใดหรือแม้อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งบริษัทไม่ได้มองแค่การพัฒนาเทคโนโลยีด้วยตนเอง แต่ยังมองถึงการขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อต่อยอดความสำเร็จทุกด้าน

เทคโนโลยีไม่ได้ทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อ แต่ทำให้ลูกค้าสนใจ

“แม้ว่าปัจจัยสนับสนุนให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่เรื่องราคาและโลเคชั่นเป็นหลัก แต่เชื่อว่าเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่เรามอบให้คือสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ อย่างไรก็ตาม เรายังมีเทคโนโลยี Mixed Reality เข้ามาใช้กับสำนักงานขายรูปแบบใหม่ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าไม่ต้องเดินทางไปถึงโลเคชั่นก็ได้เห็นบรรยากาศจริงและปรับการออกแบบได้ตามต้องการ”

2

พ่วงเทคโนโลยี เน้น 3 ธีม ตอบโจทย์ลูกบ้าน

สำหรับแนวทางในอนาคตที่แสนสิริตั้งใจตอบโจทย์ลูกบ้านให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีด้านต่างๆ ได้แก่ Living ซึ่งจะขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อีกหลายรายเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ครบถ้วน , Transportation อำนวยความสะดวกด้านการเดินทางแก่ลูกบ้านในระยะยาวไม่ใช่เพียงมอบสิทธิ์หรือส่วนลดเพื่อใช้บริการเดินทางเป็นครั้งคราว และ Security เพื่อความปลอดภัยในทุกส่วน ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้

เสริม e-Wallet ตอบโจทย์ e-Commerce Lifestyle

ขณะนี้ เรายังอยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงิน 2 ราย เพื่อเตรียมเปิดบริการ แสนสิริ e-Wallet แก่ลูกบ้าน ช่วยให้การใช้จ่ายเพื่อการอยู่อาศัยเป็นเรื่องง่ายขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องขอไลเซ่นส์จากธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่าจะพร้อมเปิดบริการดังกล่าวภายในไตรมาสที่ 2-3 ของปีนี้

3

คุณจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด แสดงความเห็นว่า แสนสิรินำเทคโนโลยีสั่งงานด้วยเสียง (Voice Command) เข้ามาใช้เป็นรายแรกในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อตอบไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่ต้องการความง่าย ทันสมัย และตอบสนองความเป็นส่วนตัว โดยตั้งแต่ให้บริการ Home Service เวอร์ชั่นก่อนหน้า พบว่าบริการที่ลูกบ้านนิยมใช้มากที่สุด คือ บริการแจ้งเตือนจดหมายและพัสดุอัตโนมัติ และบริการแชทบอทกับนิติบุคคล ซึ่งเชื่อว่าเมื่อปรับปรุงเป็น Home Service 2018 ทั้ง 2 บริการก็จะยังได้รับความนิยมจากลูกบ้านแสนสิริเช่นเคย

“แม้ปัจจุบัน Voice Command จะใช้งานได้ 5 โดเมน คือ Home Automation , Smart Facility , เช็คค่าน้ำค่าไฟ , เช็คพัสดุ , งานแจ้งซ่อม แต่เราเชื่อว่าในอนาคตสิ่งเหล่านี้จะถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์การเป็น Living Experience Toolkit เป็นรีโมทให้ควบคุมสั่งการทุกเรื่องภายในบ้านได้เป็นอย่างดี”

ชู 4 แนวคิด พัฒนาแอปใหม่

ทั้งนี้ แอป Home Service 2018 เกิดขึ้นจาก 4 แนวคิดหลัก คือ Convenience ใช้งานง่ายขึ้นสะดวกขึ้นสำหรับทุกเจเนอเรชั่น ด้วยการออกแบบ User Experience (UX) ที่สามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุด , Cover ขยายขอบข่ายความสามารถของแอปให้เป็นแอป Lifestyle เพื่อการอยู่อาศัยของลูกบ้าน ตั้งแต่เรื่องการซื้อของ แต่งบ้าน งานบ้าน , Customize คัดสรรการแสดงผลข้อมูลที่เหมาะกับผู้ใช้งานแต่ละคน (Tailor made) ทั้งรายละเอียดของโครงการที่เป็นเจ้าของและเรื่องตามความสนใจ และ Privilege รวมสิทธิพิเศษเหนือระดับให้กับลูกบ้านแสนสิริโดยเฉพาะ

โดย Home Service 2018 ยังใช้เทคโนโลยี Cloud Web Service ของ Amazon โดยมี Azure App Insights ของ Microsoft มอนิเตอร์การทำงานและแจ้งเตือนให้ทีมพัฒนารู้ทันทีเมื่อระบบทำงานผิดปกติ รวมทั้งระบบ Google Firebase ในการบริหารแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งยังรองรับการใช้งานได้ถึง 5 ภาษา คือ ภาษาไทย อังกฤษ จีนกลาง จีนกวางตุ้ง และญี่ปุ่น

จับมือพาร์ทเนอร์เสริมสิทธิประโยชน์ลูกบ้าน

นอกจากนี้ Home Service เวอร์ชั่น 2018 ยังรวมสิทธิประโยชน์จากพาร์ทเนอร์เพื่อมอบให้ลูกบ้านแสนสิริ อาทิ อัพเกรดฟังก์ชั่นแต่งห้องร่วมกับ SB Furniture , เพิ่มไอคอนSamsung ลงบนแอป Home Service เพื่อลิงก์สู่เว็บเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า Samsung ด้วยข้อเสนอพิเศษแก่ลูกบ้านแสนสิริ , ซื้อวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านจาก SCG ได้จากแอปเดียวกัน พร้อมรับบริการติดตั้ง , สั่งซื้อน้ำดื่ม Sprinkle ในราคาพิเศษพร้อมจัดส่งให้เมื่อสั่งขั้นต่ำเพียง 2 แพค , เชื่อมโยงกับระบบ Trendy Wash เพื่อตรวจสอบสถานะเครื่องซักผ้าภายในโครงการว่าพร้อมใช้งานหรือไม่ หรือแจ้งเตือนเมื่อเครื่องซักผ้าทำงานเสร็จ ทั้งยังสามารถใช้เงินดิจิทัลแทนการหยอดเหรียญได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันนำร่องให้บริการแล้วใน 10 โครงการ กลุ่ม D CONDO และ THE LINE ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า เป็นต้น.


  • 97
  •  
  •  
  •  
  •  
Ms.นกยูง
เมื่อโลกไม่เคยหยุดหมุน เราก็ไม่ควรหยุดเรียนรู้... ชวนคุณมาทำความรู้จักหลากหลายเรื่องราว ทั้งสาระและสีสันบนโลกดิจิทัลไปพร้อมกัน