Facebook >> จุดเปลี่ยนของแบนเนอร์โฆษณา (รึเปล่า?)

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

จริงอยู่ว่าตอนนี้ Facebook นั้นทำท่าจะเริ่มเบียดเบียนและทำให้เว็บไซต์อื่นๆ เริ่มรู้สึกอึดอัดมากขึ้นกับทั้งการเติบโต และความแข็งแกร่งที่มีมากขึ้นทุกวัน ทั้งในแง่จำนวนสมาชิกและเวลาการใช้งานอินเทอร์เน็ต  นั้นดูเหมือนจะถูก Facebook แย่งชิงไปไม่น้อย

หากพูดถึงในแง่ของโฆษณาและการทำการตลาดบน Facebook นั้น ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าทั้งแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ต่างเริ่มให้ความสนใจและยอมที่จะโยกตัวเงินมาใช้บน Facebook กันมากขึ้น   ซึ่งเราคงได้เห็นกันแล้วว่าแบรนด์สินค้าทยอยสร้าง Fan Page  จัดกิจกรรมแจกของรางวัล และแม้แต่การทำแคมเปญผ่าน Facebook Application  กันมากขึ้น  ซึ่งรวมไปถึงการเลือกที่จะมี Fan Page แทนการสร้าง Microsite

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้..ไม่ได้หมายความว่าการทำโฆษณาบน Facebook จะดีที่สุด  เนื่องจากช่องทางการทำการตลาดออนไลน์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมาย และความต้องการสื่อสารของสินค้าซึ่งแต่ละแคมเปญนั้นล้วนมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน  และแน่นอนว่า Facebook ก็ยังไม่ใช่คำตอบเดียวของทุกแคมเปญ  และสำหรับเว็บไซต์เองก็มีจุดต่างในการนำเสนอเนื้อหา และบริการสำหรับผู้เข้าเว็บไซต์  และถึงแม้เราจะเข้า Facebook มากขึ้น ใช้เวลามากขึ้น แต่เราก็ไม่ถึงกับเลิกเข้าใช้งานเว็บไซต์อื่นๆ กันซะทีเดียว  เพียงแต่เราต้องยอมรับว่า Facebook เป็นอันดับหนึ่งของ Social Network ในหลายๆ ประเทศและรวมถึงประเทศไทย  และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการทำโฆษณาที่ควรมีสำหรับกลุ่มอายุของกลุ่มสมาชิก Facebook ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเดียวกับสินค้า และผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเองก็ให้เวลากับ Facebook ในแต่ละครั้งไม่น้อยเลยทีเดียว

การทำโฆษณาบน Facebook จึงไม่ควรถูกมองข้าม และควรเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนสื่อออนไลน์ควบคู่ไปกับการวางแผนสื่อออนไลน์อื่นๆ

สำหรับต่างประเทศ นิตยสาร Wall Street Journal ได้นำตัวเลขของ Comscore ที่รวบรวมจำนวนพื้นที่โฆษณาที่ถูกแสดงของ 5 เว็บไซต์รายใหญ่มาเปรียบเทียบกัน   สิ่งที่ได้เห็นคือ Facebook ได้แสดงโฆษณาประเภท Display Ads มากที่สุด   มากกว่าเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง Google, Fox Interactive, Microsoft และ Yahoo   แต่หากนับกันที่เม็ดเงิน  Facebook กลับมีตัวเลขไม่ถึง 10% ของ Display Ads ทั้งหมด

ทำไม Facebook ถึงทำเงินได้ไม่มากนั้น ยังไม่มีคำตอบที่แน่นอนหรือชัดเจน   ซึ่งอาจจะมีหลากหลายคำตอบที่สามารถวิเคราะห์ได้ เช่น

  • Facebook เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการขายโฆษณาในเวลาไม่นาน
  • Facebook มีพื้นที่ขายโฆษณาไม่หลากหลาย
  • สมาชิก Facebook มีเป้าหมายในการใช้งานที่ชัดเจน จึงไม่น่าจะทุกครั้งที่ผู้ใช้จะเห็นโฆษณาที่ถูกแสดง
  • พื้นที่โฆษณาของ Facebook ยังไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา หรือไม่มีลูกเล่นมากไปกว่าเว็บไซต์อื่นๆ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อสงสัย และวิเคราะห์จากทีมงาน Marketing Oops!  แล้วคุณล่ะคิดว่า Facebook น่าจะทำเงินได้มากกว่านี้มั้ย

[via Wall Street Journal, ComScore]


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
Tukko Nathida
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ MarketingOops.com กับความตั้งใจในการนำเสนอเนื้อหาที่ทันเหตุการณ์ และเกิดประโยชน์ ให้สามารถนำเนื้อหาความรู้ และ Insight ไปต่อยอดกับอนาคตของธุรกิจ และการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยี ครีเอทีฟ การตลาด โฆษณา และสตาร์ทอัพ