อสังหาฯแข่งเดือด ‘พฤกษา’ เดินหน้าปรับโครงสร้าง-รุกตลาด Real Demand หวังบรรลุเป้าหมายกับรายได้กว่า 5 หมื่นล้าน

  • 130
  •  
  •  
  •  
  •  

เมื่อตลาดมีการแข่งขันดุเดือด นอกจากรักษาตลาดที่ตนเองเป็นแชมป์แล้ว กลยุทธ์ในปีนี้ของ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) คือ พยายามบุกในตลาดที่ยังมีช่องว่าง ทั้งปรับโครงการกลุ่มธุรกิจ และบุกตลาดที่มี Real Demand ตามหัวเมืองใหญ่ เพื่อสร้างการเติบโตและให้บรรลุเป้าหมายกับรายได้ที่วางไว้กว่า 5 หมื่นล้านบาท

ในปี 2560 พฤกษาได้รายงานถึงผลประกอบการว่า สามารถปิดยอดขายรวมไปได้ 47,536 ล้านบาท เติบโต 7.2 % ส่วนรายได้อยู่ที่ 43,922 ล้านบาท ลดลง 6.1% และกำไรสุทธิ 5,454 ล้านบาท ลดลง 8.1% ส่วนในปี 2561 ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 53,742 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 50,500 ล้านบาท

Ksupattra1

สำหรับภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯในปีนี้ สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า การแข่งขันยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง  ทั้งจำนวนโครงการที่เปิดใหม่และการทำตลาดจากดีเวลลอปเปอร์แต่ละราย แต่ด้วยอานิสงค์ของการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ บวกกับบ้าน เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ ทำให้เชื่อว่า ตลาดอสังหาฯยังเติบโตได้แน่นอน

ส่วนการสร้างการเติบโตในปีนี้ ของพฤกษา หลัก ๆ จะให้ความสำคัญกับการรักษาแชมป์ในตลาดที่ตัวเองแข็งแรง ขณะเดียวกัน ก็พยายามขยายโอกาสทางการขายไปยังพื้นที่ที่ยังมีช่องว่าง อย่างปัจจุบันพฤกษาเป็นเบอร์ 1 ในกลุ่มทาวน์เฮ้าส์ ด้วยมาร์เก็ตแชร์ 23% โดยตลาดที่แข็งแรง คือ ระดับราคา 2-3 ล้านบาท ในปีนี้จะขยายตลาดไปในระดับราคา 3-5 ล้านบาท

ขณะที่ตลาดบ้านเดี่ยว จากฐานเดิมอยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท จะขยายไปในระดับราคา 5-7 ล้านบาท ส่วนตลาดคอนโดฯ ระดับพรีเมียม ที่คาดหวังจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโต จะเน้นเปิดโครงการในทำเลที่เป็นไข่แดงของกรุงเทพฯ

 “ปีที่ผ่านมาเรามีที่ดินในมือน้อย ทำให้สร้างโครงการได้ไม่มากนัก ส่วนปีนี้เราตั้งงบซื้อที่ดินไว้ 16,000 ล้านบาทเพื่อเตรียมไว้พัฒนาในปี 62-63 ขณะที่โครงการใหม่ในปีนี้จะเปิด 75 โครงการที่เน้นโครงการในแนวราบค่อนข้างมากถึง 62 โครงการ มูลค่ารวม 47,600 ล้านบาทเพราะแนวราบมีความเสี่ยงค่อนข้างน้อย”

ปรับโครงสร้าง  Real Estate เป็น 3 กลุ่ม

capture-20180225-205344

นอกจากนี้ เพื่อให้ธุรกิจมีความแข็งแรงยิ่งขึ้น จึงได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจในกลุ่ม Real Estate จาก 2 กลุ่ม เป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเดิม ได้แก่ กลุ่มValue ประเภทบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมระดับราคากลาง-ล่าง มี ‘ปิยะ ประยงค์’ เป็นผู้ดูแล , กลุ่มPremium ประเภทคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนท์และลักชัวรี่ มี ‘ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต’ เป็นผู้ดูแล

ส่วนกลุ่มใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว คือ กลุ่มทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ให้พฤกษามากที่สุดอยู่ที่ 60% จากพอร์ตรวมทั้งหมด โดยกลุ่มนี้นอกจากจะโฟกัสทาวน์เฮ้าส์แล้ว ยังได้โยกพอร์ตกลุ่ม Low Rise ในกลุ่มพรีเมียมมารวมอยู่ด้วย ซึ่งกลุ่มทาวน์เฮ้าส์มี ‘ธีรเดช เกิดสำอางค์’ เป็นผู้รับผิดชอบ

“การปรับโครงสร้างกลุ่ม Real Estate จะทำให้ธุรกิจมีความแข็งแรงยิ่งขึ้น เพราะสามารถโฟกัสจุดแข็งในแต่ละกลุ่มได้อย่างเต็มที่มากขึ้น และลดการ Overload จากกลุ่ม Value เพื่อให้เราสามารถบริหารจัดการ ตลอดจนวางแผนธุรกิจและรับมือคู่แข่งได้เป็นอย่างดี”

เปิดเกมรุกตลาด Real Demand

กลยุทธ์ของพฤกษาในปีนี้ จะขยายไปในตลาดที่มีReal Demand หรือความต้องการจริง ๆ อาทิ การขยายตลาดไปในหัวเมืองใหญ่ ๆ  ที่จะไปในลักษณะการทำโครงการขนาดไม่ใหญ่นัก

พื้นที่ที่สนใจนั้น ได้แก่ จังหวัดในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC (Eastern Economic Corridor) , เชียงใหม่ เป็นต้น โดยปีนี้ในต่างจังหวัดจะมีโครงการรวม 12 โครงการ เป็นทาวน์เฮ้าส์ 10 โครงการ อีก 2 โครงการเป็นบ้านเดี่ยว

นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มลูกค้าต่างประเทศให้มากขึ้น ด้วยการใช้ดิจิทัล เป็นเครื่องมือหลักในการทำตลาด

capture-20180225-205225

โดยการบุกตลาดทั้งหมด จะมีการออก Corporate campaign มาเป็นแรงเสริม ซึ่งแคมเปญดังกล่าวจะเริ่มลอนช์ต้นเดือนมีนาคมนี้ ในการให้ส่วนลดแบบ on top และจัดโปรโมชั่นให้ร่วมลุ้นรางวัล

ขณะเดียวกัน ได้พยายามพัฒนาให้ Member get member การให้ลูกค้าหรือกลุ่มคนที่สนใจโครงการที่มาลงทะเบียนกับทางบริษัท แนะนำกันเองหรือบอกต่อกันผ่าน Pruksa Member ที่ปัจจุบันทางบริษัทมีฐานข้อมูลอยู่กว่า 7 แสนราย เพื่อให้เป็นช่องทางการขายใหม่ในการสร้างยอดขายให้มากขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายให้ 4,600 ล้านบาท

 “อย่างที่รู้กันการแข่งขันในตลาดอสังหาฯรุนแรง เรารอให้ลูกค้า walk in ไปที่โครงการอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องเข้าหาเขาให้มากขึ้น เพื่อรักษาตลาดที่เราแข็ง ขณะเดียวกัน ต้องเปิดตลาดใหม่  ๆ ที่มีดีมานต์ชัดเจนด้วย เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้”


  • 130
  •  
  •  
  •  
  •