Kaidee (ขายดี) แหล่งซื้อ-ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เผยผลการดำเนินงานในปี 2560 พบว่า แพลตฟอร์มขายดีมีผู้ใช้งานมากกว่า 35 ล้านคน มีการเข้าใช้งานกว่า 361 ล้านครั้ง เฉลี่ยเดือนละประมาณ 30 ล้านครั้ง มีรายการประกาศใหม่กว่า 12 ล้านประกาศ มีมูลค่าการซื้อ-ขายผ่านแพลตฟอร์มกว่า 1 แสนล้านบาท จากยอดประกาศขาย 1,850,000 รายการ โดยเฉลี่ยทุกวันมีของขายได้ที่ Kaidee วันละ 5,065 รายการ
โดย 50% ของการเข้าใช้งานทั้งหมดเป็นการใช้งานผ่านแอปฯ และเพียงแค่ปี 2560 มีคนไทยดาวน์โหลดแอปฯ Kaidee เพิ่มขึ้นอีกกว่า 3,300,000 ครั้ง แบ่งเป็น iOS 28% และ Android 72% รวมแล้วมีการดาวน์โหลดแอปฯ ทั้งสิ้นกว่า 12 ล้านครั้ง
ปัจจุบัน Kaidee มีหมวดหมู่สินค้าถึง 264 หมวด (ทั้งหมวดหลักและหมวดย่อย) โดยหมวดสินค้ายอดนิยมคือ RodKaidee ตามมาด้วย MocyKaidee, อสังหาริมทรัพย์, มือถือและแทบเล็ต และ อะไหล่รถ ประดับยนต์ (ปีที่แล้วอันดับ 5 คือ พระเครื่อง) ส่วนคำค้นหายอดนิยมจากผู้ใช้งาน Kaidee ใน 5 อันดับแรก ได้แก่ PCX, MSX, Coach, Adidas และ บ้านเช่า ตามลำดับ
ในปีที่ผ่านมา Kaidee ได้เปิดตัว RodKaidee ในเดือนพฤษภาคม และ MocyKaidee เพื่อรองรับการใช้งานที่เติบโตมากขึ้นใน 2 ตลาดนี้ และเมื่อรวมทั้งสองแพลตฟอร์มมีผู้ใช้งานกว่า 8,600,000 ครั้ง มียานยนต์ที่ลงขายประมาณ 1,200,000 คัน และขายได้ 230,000 คัน รวมมูลค่ากว่า 42,000 ล้านบาท
คุณทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร/เฮดโค้ช Kaidee เผยว่า จุดเด่นของแพลตฟอร์ม Kaidee อยู่ที่การใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ ถือเป็นสื่อกลางของผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้เกิดการซื้อขายที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ทำให้ Kaidee เป็นตลาดซื้อ-ขายยานยนต์ที่ดีและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่จะขายได้ภายใน 4 วันหลังประกาศขาย ในกรณีที่ตั้งราคาต่ำกว่าราคาตลาด 5-10%
ด้านตลาด RodKaidee ในปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานกว่า 60 ล้านครั้ง เฉลี่ย 5,000,000 ครั้งต่อเดือน มีรถยนต์ลงขายกว่า 800,190 คัน และมีรถที่ขายได้ที่นี่กว่า 132,752 คัน (เฉลี่ยเดือนละ 11,000 คัน) รวมมูลค่ากว่า 38,500 ล้านบาท ส่วนแบรนด์รถยอดนิยม ได้แก่ โตโยต้า, ฮอนด้า, อีซูซุ, นิสสัน และมิตซูบิชิ ตามลำดับ นอกจากนี้ Kaidee ยังได้ร่วมมือกับ กรุงศรี ออโต้ ในการคำนวนค่างวดรถยนต์แบบเรียลไทม์อีกด้วย
คำค้นหายอดฮิต 5 อันดับแรกใน RodKaidee ได้แก่
1. 4WD
2. รถกระบะ
3. รถตู้
4. Coupe (มีอัตราการค้นหาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ)
5. CR-V
ด้าน MocyKaidee ที่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2560 มีผู้ใช้งานกว่า 42 ล้านครั้ง เฉลี่ยเดือนละ 3,600,000 ครั้ง มีรถมอเตอร์ไซค์ลงขายกว่า 394,659 คัน และมีรถมอเตอร์ไซค์ขายได้ผ่านตลาด MocyKaidee กว่า 102,170 คัน (เฉลี่ยเดือนละ 8,500 คัน) รวมมูลค่ากว่า 3,600 ล้านบาท แบรนด์ยอดนิยมก็ได้แก่ ฮอนด้า, คาวาซากิ, ยามาฮ่า, ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน และดูคาติ ตามลำดับ และมอเตอร์ไซค์โมเดลที่ได้รับการค้นหามากที่สุด คือ ยามาฮ่า R-Series ส่วน 5 คำค้นหายอดนิยมได้แก่
1. PCX
2. MSX
3. Z800
4. R1
5. KR
มาถึงหมวดที่มีผู้เข้าใช้งานมากเป็นอันดับ 3 อย่าง อสังหาริมทรัพย์ ในปีที่ผ่านมามีผู้เข้าใช้งานกว่า 2,500,000 ครั้งต่อเดือน มีรายการประกาศใหม่ทั้งหมดในปี 2560 ถึง 766,377 ประกาศซึ่งขายได้บน Kaidee ทั้งหมด 23,538 รายการ รวมมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท คุณทิวา ให้ข้อมูลว่า หมวดนี้เป็นการเติบโตแบบออร์แกนิคทั้งหมด
รายได้ปี 2017 เพิ่มขึ้น 144%
ในส่วนของรายได้ของ Kaidee ในปี 2560 เพิ่มจาก 2559 กว่า 144% จาก 2 แหล่งรายได้ นั่นคือ
1. บริการพิเศษ ทั้งเลื่อนประกาศ บริการ Top Ad ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการนี้ได้ในทุกหมวดหมู่ และค่าลงประกาศ ในหมวดรถยนต์ และหมวดอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็น 60% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 2 เท่า และในจำนวนนี้ 50% เป็นรายได้จากหมวดยานยนต์
2. โฆษณาดิสเพลย์ ที่แบรนด์และธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความต้องการหรือกำลังตัดสินใจซื้อ-ขายสินค้า/บริการต่างๆ บนแพลตฟอร์ม คิดเป็น 40% ของรายได้ทั้งหมด โตขึ้นจากปี 2559 ถึง 2.5 เท่า
ตั้งเป้าสู่การเป็นมาร์เก็ตเพลสเพื่อคนไทยอย่างเต็มรูปแบบ ด้วย 4 แกนหลัก
ปี 2561 นี้ Kaidee รุกหน้าเสริมทัพเข้าสู่การเป็น “มาร์เก็ตเพลส” เพื่อคนไทยอย่างเต็มรูปแบบ โดยทุกคนทุกอาชีพสามารถเข้ามาซื้อ-ขายของออนไลน์บน Kaidee ได้โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นพ่อค้า แม่ค้า เจ้าของกิจการ หรือนักธุรกิจ ดังนี้
1. Best C2C Marketplace for Thai การเป็นตลาดซื้อ-ขายออนไลน์สำหรับคนทุกเพศทุกวัย ตอกย้ำแนวคิดการนำของที่ไม่ได้ใช้มาขาย หากเปรียบ Kaidee เป็นตลาด ก็เป็นตลาดที่มีคนเดินมากกว่า 1 ล้านครั้งต่อวัน ผู้ขายจึงไม่ต้องทำตลาดเยอะ เพราะ Kaidee ทำไว้ให้แล้ว
2. Best Vehicle Marketplace ตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดในไทย นอกจากเป็นตลาดรถที่แข็งแกร่งแล้ว RodKaidee ยังขยายตัวมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มผู้ซื้อ-ขายรถเพื่อการพาณิชย์ (Commercial vehicle) อาทิ รถบรรทุก, รถแมคโคร หรือรถไถ เป็นต้น ซึ่งจะเปิดตัวช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และในส่วนของ MocyKaidee นั้นก็จะเห็นฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามา ทั้งรุ่นต่างๆ และพิกัดซีซีของการใช้งาน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถหารถที่ต้องการได้ง่าย และผู้ขายสามารถขายรถได้เร็วมากยิ่งขึ้น
3. Growing More Verticals เปิดตลาดแนวดิ่งสำหรับคนไทย จุดแข็งอีกอย่างของ Kaidee คือการที่ผู้ใช้งานเข้ามาใช้งานจากหมวดหมู่หนึ่งสู่อีกหมวดหมู่ ทำให้เป็นตลาดที่มีความคึกคัก ผู้ซื้อ-ผู้ขายเชื่อมต่อกันได้เร็วขึ้น ในปีนี้ Kaidee จะเดินหน้าอย่างเต็มตัวใน 3 ตลาดที่สำคัญ นั่นคือ
• ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่จะมีบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นในทุกๆ ประเภทของอสังหาฯ
• FarmKaidee ตลาดซื้อ-ขายสำหรับภาคเกษตรกรรมออนไลน์ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ตอบโจทย์การทำธุรกิจของเกษตรกรไทย โดยเฉพาะการเพิ่มช่องทางการขาย
• ตลาดอะไหล่รถ ประดับยนต์ ด้วยการใช้งานที่เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นหมวดยอดนิยมอันดับ 5 ของแพลตฟอร์ม ประกอบกับการที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตอะไหล่รถที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน ทำให้ตลาดนี้กลายเป็นอีก 1 ตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
4. Quality Marketplace ในปีนี้ Kaidee มีแผนลงทุนในเทคโนโลยี Machine Learning เก็บข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อนำมาต่อยอดการบริการให้เร็วและดีขึ้น รวมถึงลดสแปมและป้องกันการเกิดมิจฉาชีพ ด้วยการมีทีม Consumer Service ช่วยเหลือ
พัฒนาจากข้อบกพร่อง พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นมาร์เก็ตเพลสเพื่อคนไทยเต็มรูปแบบ
หนึ่งในความท้าทายของ Kaidee ในปีนี้คือ การขยายกลุ่มผู้ใช้ พัฒนาแพลตฟอร์มให้รองรับการใช้งานของคนทุกเพศทุกวัย ภายใต้แนวคิด ไม่ว่าใครก็สามารถซื้อ-ขายของออนไลน์ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานผ่านเว็บไซต์ หรือแอปฯ ที่มีสัดส่วนถึง 50% ของฐานผู้ใช้ทั้งหมด โดยการออกแบบให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ทั้งเรื่องการค้นหาสินค้า และการจ่ายเงิน เพื่อสร้างประสบการณ์ในการซื้อ-ขาย ปัญหาที่พบในตอนนี้ ในหมวดอสังหาฯ จะเป็นเรื่องการค้นหา ที่ยังมีข้อจำกัดเรื่องการเลือกจังหวัด หรือพื้นที่นั้นๆ ซึ่งเรายอมรับในข้อพกพร่องนี้ และพร้อมที่จะปรับปรุงให้ตอบโจทย์ผู้ใช้มากที่สุด
ปีนี้ Kaidee ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2-2.5 เท่า พร้อมย้ำจุดยืนมุ่งสร้าง “มาร์เก็ตเพลส” ที่ดีที่สุดเพื่อให้คนไทยสามารถซื้อ-ขายได้ทุกที่ทุกเวลา รุกหน้าพัฒนาตลาดซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้งานง่ายที่สุด และสร้างตลาด FarmKaidee เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยทั่วประเทศได้มีพื้นที่ซื้อ-ขายออนไลน์ภายในครึ่งปีแรกนี้
