ในการรับสมัครงาน หรือสรรหาพนักงานใหม่ แต่ละครั้ง… ผู้ประกอบการ ต้องเผชิญกับอะไรบ้าง? ต้องเสียทั้งเงินทุน เวลา และกำลังคน เพื่อจัดกิจกรรมนัดพบแรงงาน (Jobfair) หมดเวลาไปกับการพิจาณาใบสมัครกองโต นี่ยังไม่รวมกระบวนการและระยะเวลาที่ยาวนานกว่าจะได้พนักงานคนใหม่เข้ามาทำงานสักคน ซึ่งอาจกินระยะเวลาถึง 45 วัน ฝ่ายผู้หางานหรือผู้สมัครงานเอง… ก็ต้องทำ Resume อัพเดทข้อมูลใหม่ ช่วงเวลาแห่งการร่อนอีเมล์ส่งใบสมัคร ซึ่งต้องส่งไปหลายสิบฉบับ รวมถึงปัญหาลางานก็ลำบาก แถมยังต้องลาหลายครั้ง นับแต่ยื่นใบสมัคร นัดสัมภาษณ์ กว่าจะได้งานใหม่แต่ละครั้ง มีแต่เรื่องวุ่นวายหลายขั้นตอน นี่ยังไม่นับช่วงเวลาระหว่างติดต่อและนัดสัมภาษณ์งาน ที่ไม่สามารถทำได้แล้วเสร็จภายในวันเดียว
ทั้งหมดนี้กลายเป็นคำตอบ ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มตั้งคำถาม ว่า…ทำไมการหาและสมัครงานผ่านออนไลน์จึงกลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในวงกว้าง ณ ปัจจุบัน เพราะอย่างน้อยก็สามารถลดระยะเวลาในการติดต่อและลดขั้นตอนการดำเนินการไปได้มากเลยทีเดียว แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม!
แต่เนื่องจากปัจจุบัน มีเว็บไซต์และผู้ให้บริการจัดหางานออนไลน์เป็นจำนวนมาก อาจทำให้เกิดความสับสนในการใช้บริการ ผู้ประกอบการก็ต้องการช่องทางน่าเชื่อถือที่สามารถกระจายประกาศตำแหน่งงานที่รับสมัครได้อย่างแพร่หลาย และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านผู้ใช้ก็ไม่รู้ว่าผู้ให้บริการรายใดจะรวบรวมผู้ประกอบการที่น่าสนใจเอาไว้ได้มากที่สุด ระบบจัดเก็บข้อมูลมีความปลอดภัย ไม่ยุ่งยาก ใช้งานง่าย และทำให้ระยะเวลาการสมัครงานสามารถเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับรูปแบบการให้บริการยังคงเป็นไปในทิศทางเดิม คือ อัพโหลด Resume ค้นหาตำแหน่งงาน แล้วทำการส่งไฟล์ไปยังบริษัทเหล่านั้น
ทำไมต้องฉีกกฎเดิมๆ ของการสมัครงาน…?
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าในการประกาศรับสมัครงานทุกๆ ตำแหน่ง ล้วนใช้ระยะเวลาและมีต้นทุนเกิดขึ้นทั้งฝ่ายผู้ประกอบการและผู้สมัครงานเอง แผนก HR ก็ต้องเตรียมความพร้อมและพิจารณารายละเอียดของผู้สมัครงานนับสิบ นับร้อยคน ยิ่งมากตำแหน่งก็ยิ่งหมายถึงขั้นตอนและระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนผู้สมัครงานก็ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงตำแหน่งงานที่ตรงใจ สามารถสมัครได้รวดเร็ว และรู้ผลไวไม่ต้องรอนานหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ประกอบกับปัญหาภาพรวมตลาดแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการแรงงานด้านใด ทั้งภาคการค้าและบริการ ภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีแรงงานในระบบประกันสังคมทั้งที่เข้างานใหม่และเปลี่ยนงาน รวมแล้วกว่า 1,220,000 คนต่อปี (ข้อมูล ณ ปี 2558) หมายถึงจำนวนผู้คนวัยทำงานที่มองหางานเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ทั้งที่จบใหม่ เปลี่ยนงาน ถูกเลิกจ้าง หรือแม้แต่ผู้ว่างงาน
ความต้องการที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ จึงนำมาสู่ความพยายามของผู้ให้บริการจัดหางานออนไลน์ในปัจจุบัน ซึ่งมุ่งพัฒนาช่องทางของตนให้ใช้งานง่ายและเหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้ เพราะนอกจากความเป็นออนไลน์ที่ต้องใช้งานง่ายแล้ว เรื่องความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน และรูปแบบแปลกใหม่น่าสนใจ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้งานต้องการจากบริการในยุค 4.0 ที่ไม่ต้องเสียเวลาไปส่งและสมัครงานด้วยตัวเองถึงบริษัท
httpv://www.youtube.com/watch?v=fkFIvQP1NLk&feature=youtu.be
ตามเทรนด์คนรุ่นใหม่ = ออนไลน์ ง่าย และไม่ต้องรอ!
แม้ผู้ให้บริการจัดหางานออนไลน์จะมีอยู่หลายราย แต่เนื่องจากมีจุดดีจุดด้อยแตกต่างกัน จึงทำให้ผู้ใช้งานยังคงมองหาผู้ให้บริการรายใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครบถ้วน ทำให้บริษัท เพาเวอร์ เทคโนโลยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการระบบ eJobfair กลายเป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการจัดหางานออนไลน์ที่พยายามพัฒนารูปแบบการจัดหางานให้ลงตัว ผ่านเว็บไซต์ eJoblive.com (www.ejoblive.com) พร้อมกับบริการรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า eJobfair หรือ มหกรรมนัดพบแรงงานออนไลน์เรียลไทม์ ซึ่งถือเป็นรูปแบบแปลกใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ไม่ใช่แค่การกรอก Resume ทิ้งไว้ในระบบและคอยส่งออก เมื่อเจอตำแหน่งงานที่ถูกใจ แต่มีการใช้และพัฒนาเทคโนโลยีให้พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการและผู้สมัครงาน ทำให้ประหยัดเวลา คุ้มค่า ได้ผู้สมัครงานที่ใช่ (Active) ตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ และผู้สมัครงานได้งานที่ชอบ รู้ผลทันที จบภายในวันเดียว
สร้างความโดดเด่น ดึงดูดความสนใจ
ความโดดเด่นของ eJobfair คือ ไม่ได้เป็นแค่แพลทฟอร์มประกาศและรับสมัครงาน แต่ยังมีบริการที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อตอบสนองการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการสร้างความแตกต่างให้กับบริการบนเว็บ eJoblive.com ด้วยรูปแบบการนัดพบแรงงานออนไลน์เรียลไทม์ ซึ่งมีรูปแบบให้ผู้สมัครงานอัพเดตเรซูเม่ พร้อมทั้งเลือกตำแหน่งงานที่สนใจและยืนยันเข้าร่วม eJobfair ส่วนด้านผู้ประกอบการนั้นสามารถเลือกงาน eJobfair ที่สนใจ และลงทะเบียนล่วงหน้า 3 วันก่อนถึงวันจัดงาน ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็จะกรอกข้อมูลตำแหน่งงานที่ต้องการประกาศหาพนักงานไว้ล่วงหน้าเช่นกัน พร้อมกำหนด eTest (ระบบทดสอบทักษะออนไลน์) สำหรับตำแหน่งงานดังกล่าว โดยเมื่อถึงกำหนดวัน eJobfair ทั้ง 2 ฝ่าย จะต้อง Login เข้าสู่ระบบ และมีการเริ่มสัมภาษณ์งานด้วยระบบออนไลน์ เพื่อให้ได้ข้อมูลผู้สมัครเพิ่มเติม จากนั้นก็สามารถเลือกสัมภาษณ์ต่อด้วยระบบ eVDO Call หากเห็นว่ามีคุณสมบัติน่าสนใจและต้องการดูบุคลิกภาพเพิ่มเติม ทั้งยังสามารถประเมินผลได้ทันที หรือหากผู้ประกอบการยังไม่พบผู้สมัครงานที่เหมาะสมก็สามารถเลือกดูเอกสารสมัครงานภายหลังจาก Member Box ได้อีกด้วย
ไม่ใช่แค่การเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการและผู้สมัครงานเท่านั้น eJobfair ยังมีพันธะกิจในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ให้แก่สังคม (Social Economic Benefit) ในการสร้างสังคมบนพื้นฐาน “การเข้าถึงข้อมูล” และ “โอกาสอย่างเท่าเทียมและยุติธรรม” ไปพร้อมกันอีกด้วย
พัฒนาฟีเจอร์ ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ยุค 4.0
สำหรับความน่าสนใจอีกรูปแบบของ เว็บ eJoblive.com คือ สามารถใช้งานผ่านอุปกรณ์หลากหลาย ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ รวมถึงฟีเจอร์การใช้งานอีกนับ 10 ฟีเจอร์ ที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานของผู้ประกอบการและผู้สมัครงาน ได้แก่ฟีเจอร์ Job Post ระบบโพสต์ตำแหน่งงานว่าง ,eMatching ระบบคัดกรองตามเงื่อนไข ,eTest ระบบทดสอบทักษะออนไลน์ ,eDocument ระบบอัพโหลดเอกสาร ,eSearch ระบบค้นหา ,eChatting ระบบสัมภาษณ์ออนไลน์ผ่าน Chat Box ,eVDO Call ระบบสัมภาษณ์ออนไลน์ผ่าน VDO Call ,eAppraisal ระบบประเมินผู้สมัคร ,eAlerting ระบบแจ้งเตือนตรงตามเงื่อนไข ,eAuto Applying ระบบตอบรับตำแหน่งงาน เป็นต้น
ต้องเป็นมากกว่าแพลทฟอร์มหางาน…!
คุณสมบัตินี้ถือเป็นความแตกต่างที่สำคัญของ eJoblive.com เนื่องจากมีการพัฒนาคุณภาพ Resume ผู้สมัครด้วยกระบวนการต่างๆ อาทิ การคัดกรอง Resume ที่ยังไม่สมบูรณ์ พร้อมทั้งติดตามและแจ้งแก่ผู้สมัครงานให้ดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ รวมถึงแนะนำเรื่องบุคลิกภาพไปพร้อมกันด้วย หรือแนะนำให้ทำ eTest หรือเพิ่มเติมความรู้ผ่าน eJobmag เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนถึง eJobfair รวมถึงแผนพัฒนาบริการในอนาคตที่จะมีการทำ Facebook Live เพื่ออบรมผู้สมัครงานอีกด้วย
