หลังจากสร้างกระแสเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่อย่าง ‘เจ้านาย’ ส่งท้ายปี 2017 ไปหมาด ๆ น้ำดื่ม ‘สิงห์’ ได้เดินเกมรุกต่อทันทีในช่วงต้นปี 2018 ด้วยการทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท จับมือกับ Line เปิดตัวแคมเปญใหญ่ “Singha Rewards” ที่เตรียมเปลี่ยนกิจวัตรของผู้บริโภคให้การดื่มน้ำเปล่ามีสีสันมากขึ้นกว่าเก่า
แบรนด์น้ำดื่มรายแรกที่วาง Loyalty Program บุกตลาดคนรุ่นใหม่
จากความต้องการของทางแบรนด์น้ำดื่มสิงห์ ที่คุณธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม บริษัทสิงห์ คอเปอเรชั่น ได้เผยไว้ในงานเปิดตัวแคมเปญนี้ มี 2 สิ่งด้วยกันที่แบรนด์น้ำดื่ม ‘สิงห์’ ต้องการ อย่างแรก คือต้องการสร้าง Brand Engagement ขยายฐานผู้บริโภค เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น และต้องการนำเสนอสิ่งที่แปลกใหม่ ล้ำ และทันสมัย จึงเป็นที่มาของการร่วมจับมือกับ Line ในการสร้าง Official Account นี้ขึ้นมา ให้ผู้บริโภคได้ลงทะเบียนรหัสใต้ฝา และสแกน QR Code ข้างขวด เพื่อสะสมคะแนนแลกของรางวัล และดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ “น้องฟ้าใส” ไปใช้กันได้
ทำทุกอย่างได้เหมือนแอพพลิเคชั่น แต่ไม่ต้องโหลดเพิ่มเติม
“ยุคนี้เป็นยุคที่คนลบแอพกันแล้วครับ สิ่งแรกที่คนจะกำจัดเวลาความจำเต็มคือแอพพลิเคชั่น” เป็นคำพูดที่จริงและตรงอินไซท์ของคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมากซึ่งประโยคข้างต้นนี้กล่าวโดยคุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย ในงานเปิดตัวแคมเปญ “Singha Rewards” นี้เช่นกัน เพราะรูปแบบการทำงานของ OfficialAccount ของ ‘สิงห์’ นี้ มีหน้าตาและระบบต่าง ๆ ไม่ต่างจากแอพลิเคชั่นเลย เพียงแต่ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องไปดาวน์โหลดแอพฯมาเพิ่ม เพราะทุกอย่างสามารถจัดการได้ใน LINE นั่นเอง
ผสาน 3 กลยุทธ์ทางการตลาด สร้างสีสันใหม่ให้ตลาดน้ำดื่ม
เป็นครั้งแรกของแบรนด์ ‘สิงห์’ ที่ลองทำสิ่งที่แปลกใหม่ขึ้น ด้วยการผสานกลยุทธ์ทางการตลาด ได้แก่ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า (CRM) ผสมกับการจัดโปรโมชั่นสะสมแต้มแลกของรางวัล (Loyalty Program) และการชิงโชคเข้าด้วยกัน ให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ จากการซื้อน้ำดื่ม
คาดหวังยอดผู้เข้าใช้บริการ Singha Rewards ประมาณ 7 ล้านคนในเฟสแรก
สำหรับความคาดหวังของแบรนด์น้ำดื่ม ‘สิงห์’ ที่มีต่อแคมเปญนี้ทางแบรนด์ได้เผยว่า สำหรับช่วงเฟสแรก คาดหวังว่าจะมีผู้บริโภคเข้ามาร่วมใช้งานประมาณ 5-7 ล้านคน และหวังว่าจะมีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกับ Official Account นี้ประมาณ 2 ล้านคน ซึ่งจะได้ตามเป้าหรือไม่ ต้องรอติดตามกันต่อไป