ช่วงที่ผ่านมากระแสที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในวงการอสังหาฯเป็นอย่างมาก หนีไม่พ้นเรื่อง Prop Tech หรือ Property Technology อาวุธใหม่ของดีเวลลอปเปอร์ในยุค Digital Transformation ที่นำมาเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งด้านบริการ และการเพิ่มยอดขาย ซึ่งนับจากนี้จะมีบทบาทในการพลิกโฉมธุรกิจนี้มากยิ่งขึ้น
สำหรับ Prop Tech เทคโนโลยีที่นำมาใช้แวดวงอสังหาฯ เราจะเห็นความเคลื่อนไหวในดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ ๆ โดยส่วนใหญ่จะหวังผลในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานและลดต้นทุน ที่สำคัญ คือ ตอบไลฟ์สไตล์และความต้องการของกลุ่มลูกค้าในเรื่องความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นการนำ 3D Printing , AI (Artificial Intelligence)และ VR (Virtual Reality) มาใช้ในกระบวนการออกแบบ เพื่อสร้างความเสมือนจริงและลดข้อผิดพลาดในการออกแบบ ,ระบบการซื้อ-ขายที่อยู่อาศัยทางออนไลน์ หรือ e-booking เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ฯลฯ
รวมไปถึง Home Automatic ระบบควบคุมอัตโนมัติภายในบ้านหรืออาคารผ่านระบบดิจิทัล เช่น การควบคุมแสงสว่าง ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบควบคุมการปิดเปิดประตูหน้าต่าง ฯลฯ ที่นำมาใช้ เพื่อสร้างความสะดวกสบายและเพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้อาศัย
“สิ่งเหล่านี้อีก 1-2 ปี จะเป็นมาตรฐานพื้นฐานที่ดีเวลลอปเปอร์ต้องมีให้ ไม่ใช่การเพิ่มมูลค่าเหมือนวันนี้ เพราะถ้าใครไม่ทำ ก็จะอยู่ไม่ได้ในธุรกิจนี้ ซึ่งเทคโนโลยีพวกนี้อนาคตจะถูกพัฒนาให้ฉลาดมากกว่านี้ ไม่ต้องรอคำสั่งของคนเหมือนตอนนี้” ดร. ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีและวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) หนึ่งในดีเวลลอปเปอร์ที่โฟกัสในเรื่อง Prop tech แสดงความคิดเห็น
แสนสิริเร่งสปีด Prop tech สร้างการเติบโต
สำหรับแสนสิริ เชื่อว่า Prop tech จะเป็นส่วนสำคัญในสร้างความแข็งแกร่งและผลักดันการเติบโตให้กับองค์กรได้ตามทิศทางของตลาดและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุค Digital Transformation
ดังนั้นทิศทางในเรื่องนี้ จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์และการวัดผลชัดเจน สะท้อนจากงบการลงทุนในเรื่อง prop tech ที่เพิ่มขึ้น อย่างในปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกของการลงทุนด้านดังกล่าว วางงบไว้ 100 ล้านบาท จะเพิ่มเป็น 1,500 ล้านบาท ในอีก 3 ปีต่อจากนี้
โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้มีการลงทุนตั้ง Innovation Center ทำหน้าที่วิจัยพัฒนาและลงทุนด้าน Prop tech ทั้งด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ และนวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยที่ไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยี
“หัวใจของการเลือก Prop tech มาใช้ ในมุมของเรา คือ ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ ส่วนในมุมผู้บริโภค จะยึด Customer centric เป็นหลัก อย่างHome Automatic เน้นอำนวยความสะดวกและสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า เช่น เรื่องหุ่นยนต์ที่เราเปิดตัว‘น้องแสนดี’ หุ่นยนต์ส่งของไป ที่เริ่มทดลองใช้ในโครงการเดอะมูนูเมนต์ สนามเป้า ก็ได้รับผลตอบรับดี และเตรียมจะนำไปใช้ในโครงการคอนโดมิเนียมที่จับลูกค้ากลุ่มบีขึ้นไปเพิ่ม”
มุ่งสู่ Living Lifestyle Brand
ส่วนเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้พัฒนาธุรกิจอสังหาฯของแสนสิริที่จะเห็นในปี 2561 ได้แก่ AI (Artificial Intelligence) และ VR (Virtual Reality) ในการนำมาใช้จำลองบรรยากาศ เมื่อลูกค้าเดินเข้าไปในโครงการหรือห้อง จะบรรยากาศเป็นอย่างไร และอนาคต จะมีการนำมาให้บริการในการดีไซน์ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ทางออนไลน์ให้เห็นว่า ห้องแบบนี้ เฟอร์นิเจอร์แบบนี้ เมื่อนำไปตกแต่ง จะออกมาเป็นอย่างไร เพื่อสร้าง Customer Living Experience
ที่ขาดไม่ได้ คือ IoT (Internet of Things) การเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างสู่โลกอินเตอร์เน็ต ที่จะนำมาพัฒนาให้อุปกรณ์ภายในบ้านและนอกบ้านมีความฉลาดมากขึ้น โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากมนุษย์ และไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะภายในบ้านเท่านั้น ยังต้องสามารถเชื่อมต่อกันภายในชุมชน หรือที่เรียกว่า Connected Society
สำหรับ Block chain เป็นแผนขั้นต่อไปที่จะนำมาช่วยงานในเรื่องเอกสาร และการทำธุรกิจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารแห่งหนึ่งอยู่ ส่วน Big Data ทางแสนสิริเตรียมนำมาพัฒนาต่อยอดให้สามารถตอบสนองลูกค้าได้แบบเจาะลึกลงรายบุคคล จากปัจจุบันยังแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ อยู่
ขณะที่ ‘สิริ เวนเจอร์’ บริษัทร่วมทุนกับธนาคารไทยพาณิชย์ จะมีทิศทางชัดเจนยิ่งขึ้นในการทำงานผู้บ่มเพาะ (Incubator) โดยปัจจุบันให้การสนับสนุนสตาร์อัพ 2 ราย รายแรกพัฒนาด้าน AI อีกรายพัฒนาด้าน Home Automaticล
“แสนสิริ ต้องการพัฒนาสู่ Living Lifestyle Brand ในการตอบสนองทุกการใช้ชีวิตของลูกค้า ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะที่อยู่อาศัยอีกต่อไป ดังนั้น เราจะไม่มีเฉพาะ Prop Tech เท่านั้นอนาคตอาจแตกแบรนด์ไปทำธุรกิจอื่น ภายใต้กรอบ Living Lifestyle รวมถึงนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมทัพในหลายรูปแบบ อาทิ Contraction Tech,Living Tech, Health Tech ก็เป็นได้”
อนันดาตั้งบริษัทลูกลุย Prop tech
ด้านบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) อีกบริษัทที่ประกาศชัดถึงการใช้ Prop tech มาสร้างความแข็งแกร่งและขับเคลื่อนการเติบโตให้กับองค์กร หลังจากได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรและเปิดตัว Ananda UrbanTech เน้นนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมายกระดับชีวิตของคนเมือง (Urban Living Solutions)
เมื่อไม่นานมานี้ ได้อนุมัติตั้งบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ บริษัท เออร์บันเทค เวนเจอร์ส จำกัด เพื่อลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต หรือกิจการร่วมลงทุนที่ประกอบธุรกิจหรือลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว สะท้อนให้เห็นการเอาจริงในเรื่อง Prop tech ของอนันดา ตามคำกล่าวที่ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า
“เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคต บริษัทต้องมีปรับตัวและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด โดยเทคโนโลยีจะเป็นตัวช่วยอันดับแรกๆ ที่ผู้นำทางธุรกิจจะเลือกใช้สร้างความแตกต่างและก้าวสู่ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของตน ซึ่งเทคโนโลยีจะช่วยให้ธุรกิจของอนันดาเติบโตได้ต่อเนื่อง”
ดีเวลลอปเปอร์อื่นเริ่มขยับ
นอกจาก 2 ยักษ์ใหญ่อย่างแสนสิริและอนันดาแล้ว ช่วงปลายปีที่ผ่านมายังเห็นความเคลื่อนไหวในเรื่องของ Prop tech จากหลายราย เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุค 4.0 นี้ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หลังจากเปิดตัว Home automation ภายใต้แบรนด์ Life Connect ก็เตรียมนำนวัตกรรม Smart Mirror กระจกเงาอัจฉริยะฝังจอภาพ ที่แสดงข้อมูลสภาพอากาศ , กำหนดการ และนัดหมายต่าง ๆ ที่จะอัพเดทข้อมูลอัตโนมัติจากอินเทอร์เน็ตโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องสั่งการใดๆ มาใช้ เบื้องต้นจะนำร่องติดตั้งในโครงการไรส์
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) แม้จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็เตรียมนำนวัตกรรมมาใช้ในงานบริการหลังการขาย ในคอนเซปต์ ‘Digital Butler’ ด้วยการนำเซอร์วิส แอปพลิเคชัน ผนวกกับบริการระดับโรงแรมมาใช้อำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านในโครงการต่างๆ
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของการขยับในการใช้ Prop tech มาใช้เป็นอาวุธใหม่ในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เพื่อตอบโจทย์ของตลาดและลูกค้าในยุค Digital Transformation ซึ่งหลังจากนี้จะเห็นความเคลื่อนไหวของอีกหลาย เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่เชื่อว่า เทคโนโลยีจะเข้ามาพลิกโฉมวงการอสังหาฯ เหมือนกับธุรกิจอื่น ๆ ที่เผชิญมาแล้วก่อนหน้านี้ หากใครปรับตัวหรือเคลื่อนไหวไม่ทัน การจะอยู่รอดในธุรกิจจะเป็นเรื่องลำบาก
ส่วนรูปแบบการพัฒนาของ Prop tech ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร และจะพลิกโฉมธุรกิจอสังหาฯของไทยมากน้อยเพียงใด ต้องจับตามองต่อไป
Copyright© MarketingOops.com