เวลาตัดสินใจสมัครงานแต่ละครั้ง คุณพิจารณาอะไรเป็นอันดับแรก…? ใช่งานที่อยากทำหรือไม่ เป็นองค์กรใหญ่-แบรนด์ดังในฝันหรือเปล่า หรือวัดจากเงินเดือนที่ต้องการและสวัสดิการดีเยี่ยม
หลายคนบอกว่า “คนรุ่นเก่า” จะมองหางานที่สร้างความมั่นคงให้ชีวิตได้ ขณะที่ “คนรุ่นใหม่” จะตามหางานที่ทำให้พวกเขาได้มีอิสระทางความคิดเพื่อแสดงศักยภาพของตนเองได้เต็มที่ และไม่ว่าความจริงของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เชื่อว่าท้ายที่สุด ทุกคนล้วนมองหาตำแหน่งและองค์กรที่มีคุณภาพ สามารถตอบสนองความพึงพอใจได้ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการ!
แต่เรื่องการสมัครงานในปัจจุบันนั้น ไม่ใช่แค่ผู้สมัครงานที่ต้องนำเสนอตัวเองให้โดดเด่น แต่องค์กรที่เปิดรับสมัครพนักงานก็ต้องนำเสนอความโดดเด่นของหน่วยงานออกมาเช่นกัน! เพื่อสร้างแรงจูงใจและนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรออกสู่สายตาคนภายนอก เช่นเดียวกับที่ dtac พยายามสื่อสารวิสัยทัศน์องค์กรออกมาสู่สังคมผ่าน วิดีโอล่าสุด 2 ตัว
httpv://www.youtube.com/watch?v=_PKCPbnFp0E&t=7s
httpv://www.youtube.com/watch?v=q5tkmtjjhgI&t=14s
แม้ว่าชื่อและภาพลักษณ์แบรนด์ dtac จะดูสดใสและมีบุคลิกเป็นคนรุ่นใหม่ แต่สิ่งที่ dtac สะท้อนถึงชีวิตพนักงานซึ่งเป็นฟันเฟืองเบื้องหลังความสำเร็จแก่องค์กรนั้น ถูกให้น้ำหนักไปที่ประเด็นการสร้างสมดุลทั้งงานและชีวิตได้พร้อมกัน งานเติมเต็มไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของงาน ขณะเดียวกัน dtac ยังผูกเรื่องราวการทำงานโดยมีอิสระทางความคิด การนำเสนอไอเดียอย่างสร้างสรรค์ และการทำงานอย่างเป็นทีมเวิร์ค เข้ากับกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายหลังจากการทำงาน ด้วยความบันเทิง กีฬา และกิจกรรมตามความชื่นชอบของพนักงาน เพื่อสะท้อนถึงการเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับบุคลากร ตามสโลแกนที่ว่า “ใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กับการทำงาน”
จากแนวคิดให้ความสำคัญในการทำงานพร้อมกับการใช้ชีวิตของบุคลากร dtac ยังชูโจทย์กระแทกใจมนุษย์งานว่าทำไมชีวิตการทำงานจึงทำให้เราต้องเลือกสังคมเพียงด้านเดียว หลายๆ คนกลายเป็นคนไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม มีประโยคติดปากว่า “คราวหน้านะ” , “ไปไม่ได้…ติดงาน” , “ไม่มีเวลา” ฯลฯ ตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตการทำงานเนื่องจากต้องทุ่มเทเวลาและความมุ่งมั่นให้กับงาน กลายเป็นโจทย์หลักที่ถูกถ่ายทอดออกมาว่าทำไมมนุษย์เงินเดือนจึงไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติ หรือ ทำในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบได้เมื่อก้าวสู่วัยทำงาน
นอกจากสังคมการทำงานที่ทำให้เราไม่เสียความเป็นตัวเองและกิจกรรมที่ชื่นชอบแล้ว สภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันภายในสถานที่ทำงาน ก็เปรียบเหมือนโบนัสที่ทำให้ชีวิตมีกระชุ่มกระชวยขึ้นอีกหน่อย และบ่อยครั้งที่ได้เห็นข่าวการจัดอันดับบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในโลก เราก็มักจะรู้สึกอยากมีโอกาสทำงานในสถานที่ที่ตกแต่งอย่างลงตัว มีมุมทำงานสวยๆ มุมนั่งพักผ่อนหรือคุยงานแบบชิลๆ แบบพร้อมสรรพบ้าง เพราะถ้าคุณเคยทำงานอยู่ในออฟฟิศที่สภาพแวดล้อมไม่พึงปรารถนา อยู่ในห้องเล็กๆ ที่มีกลิ่นอับแปลกๆ หรือเต็มไปด้วยอุปกรณ์สำนักงานที่ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ คุณคงเข้าใจดีว่า…ความรู้สึกที่ได้ทำงานในบริษัทชั้นนำ พื้นที่กว้างขวาง ตกแต่งลงตัวสวยงาม และการมีทีมเวิร์คที่ดีนั้น สำคัญมากแค่ไหน