จากการที่ทั่วโลกเกิดกระแส FinTech จนส่งผลให้เกิดวิธีการชำระเงินในรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะการชำระเงินผ่าน QR Code ที่ง่ายสะดวกและรวดเร็ว ที่สำคัญยังมีความปลอดภัยสูงในการใช้จ่าย รวมไปถึง e-Wallet ที่ช่วยให้จับจ่ายใช้สอยแทนเงินสดและในรูปแบบ e-Commerce ได้อย่างสะดวก แม้ไม่มีบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตก็ตาม แต่เชื่อหรือไม่ว่า…แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะมีความปลอดภัยขั้นสูง แต่ไม่รอดพ้นน้ำมือของแฮกเกอร์อย่างแน่นอน
ในสิงคโปร์กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อว่า Whitehat Society หรือกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีจริยธรรมในการช่วยเหลือสอดส่องดูแลความเป็นไปได้ที่จะถูกโจรกรรมข้อมูลจากแฮกเกอร์ที่ประสงค์ร้าย โดยกลุ่มดังกล่าวเชื่อว่าแฮกเกอร์วางเป้าหมายไว้ที่แอพพลิเคชั่นที่มีการผูกกับบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต รวมไปถึงแอพพลิเคชั่น e-Wallet ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะนิยมใช้ในการจับจ่ายใช้สอย
แน่นอนว่ากลุ่มผู้ใช้เหล่านี้จะได้รับ SMS ในการแสดงโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่งแฮกเกอร์เหล่านี้จะใช้วิธีการล่อลวงด้วยการหลอกว่า มีการจัดโปรโมชั่นเมื่อดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ซึ่งเมื่อดาวน์โหลดแล้วจะได้รับเงินเข้าบัญชีฟรีตามจำนวนที่กำหนด ซึ่งเมื่อผู้คนเห็นว่าได้เงินฟรี แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากได้ และเมื่อทำการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนั้นๆ แฮกเกอร์ก็จะปล่อยโทรจันไปกับแอพพลิเคชั่นเหล่านั้น โทรจันเหล่านี้จะทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าไปดูดข้อมูลที่สำคัญในโทรศัพท์ เช่น Password ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
ยิ่งไปกว่านั้นแฮกเกอร์บางรายยังสามารถเจาะข้อมูลใน SMS ในสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะ One Time Password (OTP) เพื่อที่แฮกเกอร์เหล่านั้นจะได้รับ Password OTP ก่อนที่ผู้ใช้งานจริงจะได้รับ และกว่าที่เจ้าของบัญชีจะรู้ตัวแฮกเกอร์ก็จะทำธุรกรรมกับบัญชีที่แฮกมาได้ นั่นหมายความว่าเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นผู้ใช้เองก็ต้องมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
โดยคำเตือนของกลุ่มดังกล่าว ชี้ว่าอย่าหลงเชื่อกับโปรโมชั่นที่เกินความจริงและไม่ควรดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ไม่รู้จักหรือไม่น่าไว้ใจ ที่สำคัญระบบโทรศัพท์ส่วนใหญ่ทั่วไปจะมีระบบป้องกันการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ต้องสงสัยอยู่แล้ว ผู้ใช้งานจึงควรเชื่อคำเตือนของสมาร์ทโฟน อีกประการสำคัญผู้ใช้ควรติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้สามารถตรวจจับโทรจันได้ด้วย
Source: Channel News Asia
