ตั้งแต่มีอินเทอร์เนตเข้ามาในปี 1980 เรียกได้ว่าโลกของเรานั้นมีการปฏิวัติด้านเทคโนโลยีขึ้นมา ทำให้ระยะเวลากว่า 30 ปีมานี้ โลกเราเรียกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด มีเทคโนโลยีเกิดใหม่และตายลงอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ มือถือ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก จนมาถึงมือถือในยุคปัจจุบันนี้ที่เป็นหน้าจอสัมผัสและบางรุ่นมีความแรงมากกว่าคอมพิวเตอร์แล้ว
ด้วยผลกระทบทางเทคโนโลยีนี้เองที่ทำให้วงการธุรกิจนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งธุรกิจแบบเก่าที่ปรับตัวไม่ได้แล้วตายลง ธุรกิจแบบเก่าที่ปรับตัวได้ก็อยู่รอด และธุรกิจเกิดใหม่ที่พร้อมตอบสนองผู้บริโภคได้ดีกว่า นอกจากธุรกิจที่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว สิ่งสำคัญคือกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจเหล่านี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกันจากที่ไม่สามารถรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้ ทำให้เกิดการอุปโภคและบริโภคที่มีผลสืบเนื่องจากโฆษณาในระดับ Mass แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้าถึงมากขึ้นทำให้ผู้บริโภคหาข้อมูลต่าง ๆเองได้มากขึ้นและรับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ มากมาย สามารถเปรียบเทียบสินค้าต่าง ๆ จนเลือกเองได้ในที่สุด ทำให้การทำการตลาดในรูปแบบเดิมนั้นไม่ได้ผลอีกต่อไป
ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้มีผลมาสู่การทำการตลาดและการทำโฆษณาของเอเจนซี่อีกด้วย ในระยะ 30 ปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้วงการเอเจนซี่นั้นต้องเปลี่ยนแปลง เพราะการเกิดขึ้นมา Digital Agency, Content Agency และ Interactive Agency ต่าง ๆ รวมทั้งวิธีการทำงานจนถึงวิธีการทำงานที่เปลี่ยนไปที่ต้องให้ทันความเร็วและการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เกิดขึ้น เราจึงเห็นการยุบรวม ยุบแผนก หรือการสร้างกระบวนการทำงานแบบใหม่ ๆ ของเอเจนซี่ขึ้นมา แต่จากการเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลเกิดขึ้นมหาศาลในอนาคต เพราะเมืองอนาคตทุกอย่างจะขึ้นกับการทำงานของ AI และ Intelligence Persernal Assistant ต่าง ๆ เช่นพวก Voice Command อย่าง Alexa, Google และ Cortana
ลองนึกภาพตัวคุณเองที่มี AI voice assistant อยู่รอบตัวคุณจื่นมารับข่าวสารจากที่ AI รวบรวมมาให้ไว้ เมื่อคุณเปิดโทรทัศน์คุณไม่ได้ดูโทรทัศน์แบบเดิมอีกต่อไป แต่กลายเป็นว่าคุณดู Streaming TV ที่เบื้องหลังมี AI ที่เก็บความชอบของคุณเอาไว้และป้อนเนื้อหากับรายการที่ตรงใจคุณมากกว่าเข้ามา คุณสื่อสารกับคนอื่นผ่านผู้ช่วยที่จะช่วยพิมพ์หรือเป็น Voice chat มากกว่าเพิ่มเติม และนั่งรถยนต์อัตโนมัติ ที่ AI นั้นทำงานให้ ทำให้คุณมีเวลามากขึ้นบนรถในการทำงานหรือนั่งดูเนื้อหาที่ตัวเองสนใจ จนเมื่อใล้กลับบ้าน คุณพบว่าของในตู้เย็นนั้นกำลังหมดลงผ่าน AI ที่แจ้งเตือนมา แล้วถามคุณว่าจะให้ AI สั่งซื้อของต่าง ๆ ให้เลยไหม พร้อมมาส่งที่บ้านในทันที จะเห็นได้ว่าชีวิตประจำวันในอนาคตในมุมมองแบบ AI Center นั้นแทบไม่เหลือที่ว่างให้กับ Communication ในรูปแบบเดิมกับคนส่วนใหญ่ที่ชีวิตยึดโยงกับเทคโนโลยีเหล่านี้เลย และนอกจากนี้ยิ่งกว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะมามีผลต่อการทำ Communication ในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ในการที่จะสื่อสารที่มีความแม่นยำขึ้นในระดับบุคคล รู้ว่าแต่ละคนต้องการอะไร อยากได้อะไร และจะได้เมื่อไหร่อีกด้วย
httpv://www.youtube.com/watch?v=2RnkA6PmuvA
แต่เมื่อชีวิตผู้บริโภคยึดโยงกับ AI ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ แบรนด์อื่น ๆ ที่อยากจะแย่งความสนใจหรือให้ผู้บริโภคได้รับรู้นั้นจะมีความยากมาก เพราะการแนะนำต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับการแนะนำของ AI และผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะใช้สินค้าที่ตัวเองคุ้นเคยหรือตัวเองได้ใช้มาเป็นเวลานานผ่านการสั่งซื้อของ AI อยู่แล้ว นอกจากนี้โฆษณาโทรทัศน์ที่แทบจะไม่เห็น หรือโฆษณาในรูปแบบอื่นจะเห็นน้อยลงอย่างมาก เพราะชีวิตผู้บริโภคขึ้นกับการทำงานของ Personal Assistant บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นมานั้นเอง เมื่อลองมองภาพในอนาคตเช่นนี้จะเห็นได้ว่าสื่อ Communication แบบเดิมนั้นยากมากที่จะเข้าไปสู่มือผู้บริโภคในอนาคตได้ต่อไป และทางที่จะเกิดขึ้นการเปลี่ยนแปลงของการทำ communication แบบเดิม ที่คิดถึง Mass ต้องเปลี่ยนมาเป็นระดับ Personal หรือ เปลี่ยนมาเป็น AI Centric แทน
จาก TV Centric มาสู่ Consumer Centric จนถึง AI Centric นั้นน่าจะกลายเป็นแนวโน้มต่อไป นั้นทำให้วิธีคิดการสื่อสารคือทำเพื่อให้ AI ที่กลายเป็นสื่อกลางนั้นต้องเลือกแบรนด์ที่เราทำการตลาดนั้นให้กลายเป็นแบรนด์แรกที่จะแนะนำให้ผู้บริโภคต่อไปได้ ด้วยการที่ต่อไปการเป็นตัวเลือกนั้นจะมีความยาก เพราะผู้บริโภคจะมีความพยายามน้อยลงในการเลือกตัวเลือกอื่น ๆ เพิ่มขึ้น (ดูตัวอย่างได้ว่า google search ยุคนี้คนแทบไม่กดไปหน้า 2) ยิ่งไปกว่านั้นลองนึกภาพ Campaign ต่าง ๆ ที่อาจจะมีการคิดใหม่ ทำใหม่เลยทีเดียวว่าจะทำอย่างไรกับผู้บริโภคในยุค AI ต่อไป
httpv://www.youtube.com/watch?v=iMAOssp2Fs0
เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ หรืออีกนานกว่าจะเกิดขึ้นมา เพราะตอนนี้อัตราการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีกำลังถูกเร่งมากขึ้นมา และทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นเร็วกว่าที่หลาย ๆ คนคิดอย่างมาก ทั้งนี้นักการตลาดและคนทำงานเอเจนซี่ต้องเริ่มคิดได้แล้วว่าจะเตรียมรับมืออนาคตอย่างไร เมื่อ communication แบบที่ใช้กันอาจจะไม่ได้ผลต่อไปในอนาคตที่ขึ้นกับ AI