“STYLE” คือการนำแก่นความคิดมาต่อยอดให้กลายเป็นรูปธรรม ในยุคที่ประเทศไทยกำลังเข้า 4.0 ทุกภาคส่วนล้วนต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ แม้กระทั่งในงานแฟชั่น ของตกแต่งบ้าน และของขวัญของชำร่วย เพื่อให้เรากลายเป็นผู้กำหนดเทรนด์ แทนที่จะต้องเกาะกระแสจากคนอื่นๆ
ล่าสุด กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ DITP เปิดตัว “STYLE” งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ยิ่งใหญ่และครบครันที่สุดในภูมิภาค เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพในตัวเอง พร้อมสร้างพื้นที่ให้ผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างชาติ กว่า 1,000 บริษัท พบผู้ซื้อจากทั่วโลก ตั้งเป้าไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต การตลาดและ การค้าสินค้าไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรของภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย
หลังประสบความสำเร็จจากงานแสดงสินค้าด้านไลฟ์สไตล์ ทั้งงานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง (Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair: BIFF&BIL) งานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (Bangkok International Gift Fair and Bangkok International Houseware Fair: BIG+BIH) และงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ (Thailand International Furniture Fair: TIFF) มากว่า10 ปี ปีนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ยกระดับงานแสดงสินค้าของกรมฯ ให้เป็นงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติ โดยรวมทั้ง 3 งานเข้าไว้ด้วยกัน ใช้ชื่อ “STYLE” ภายใต้แนวคิด Life+Style และเป็นส่วนหนึ่งของ Creative Thailand ซึ่งจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในระหว่างวันที่ 17-21 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยได้รับความร่วมมือจาก 24 สมาคมที่เกี่ยวข้อง และตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติเข้าร่วมแสดงสินค้าไม่น้อยกว่า 1,000 บริษัท 2,000 บูธเต็มพื้นที่กว่า 40,000 ตร.ม.
คุณสมเด็จ สุสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยถึงแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้ว่า “เนื่องจากทางกรมฯ มีภารกิจหลักในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าและบริการของไทย คือทำอย่างไรก็ได้ให้สินค้าไทยออกไปสู่ตลาดต่างประเทศมากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งผู้ประกอบการและผู้ซื้อต่างต้องการประหยัดให้ได้มากที่สุด ประกอบกับผู้ประกอบการเริ่มเปลี่ยนแนวทางการจำหน่ายสินค้า จากขายแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็เปลี่ยนเป็น concept store, multibrand store , selected shop ที่รวมสินค้าหลากหลายหมวดไว้ในร้านเดียว ทางกรมฯ ใช้คอนเซปต์นี้มาจัดงาน STYLE เพื่อให้ผู้มาร่วมได้เลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย”
คาดว่าปีนี้จะมีผู้ให้ความสนใจกว่า 60,000 รายจากทั่วโลก โดยเฉพาะจาก สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย “ภายในงานจะรวมสินค้าหลากประเภทไว้ด้วยกันภายใต้ 5 หมวดหมู่หลักคือ กลุ่มสินค้าแฟชั่น (BIFF), กลุ่มสินค้าเครื่องหนัง (BIL), กลุ่มของขวัญ (BIG),กลุ่มของตกแต่งบ้าน(BIH) และกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ (TIFF) โดยทางกรมฯ เชื่อมั่นว่างานแสดงสินค้า STYLE ครั้งนี้จะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ค้าและผู้ผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์ ขยายฐานลูกค้าในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันได้มากขึ้น อีกทั้งยังตอบโจทย์ผู้ซื้อเป้าหมายใหม่ทั้งกลุ่มผู้ค้าปลีก (Retailer) Concept Store,ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Property Project), ตัวแทนจัดซื้อของต่างประเทศ (Buying Agent), นักออกแบบ, มัณฑนากร,สถาบันการออกแบบต่างๆ ห้างสรรพสินค้าทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนผู้ที่ อยู่ในวงการแฟชั่นและไลฟ์สไตล์จาก ทั่วโลก ให้ได้รับสินค้าที่ตอบสนองทุกความต้องการ รวมถึงผู้ที่ทำธุรกิจ บนโลกออนไลน์ หรือ E-market place ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทางกรมฯ ก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน” รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าว
นอกจากการจัดแสดงสินค้าและการเจรจาธุรกิจการค้า (Business Matching) ภายในงานยังมีการจัด นิทรรศการที่น่าสนใจต่างๆ ที่พลาดไม่ได้คือนิทรรศการเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งทางกรมฯ ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อเป็นการ ถวายความอาลัยแด่พระองค์ท่าน นอกจากนี้ยังมีส่วนจัดแสดงเทรนด์สินค้าที่เกี่ยวข้องกับงานครั้งนี้ โดยเฉพาะสินค้าในตลาดเฉพาะกลุ่มหรือ Niche Marketเช่น สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง สินค้าสำหรับแม่และเด็ก สินค้าสำหรับสุภาพบุรุษ ฯลฯ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการและผู้เข้าชมงาน ได้เห็นว่าปัจจุบันมีตลาดสินค้าเฉพาะกลุ่มเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดเชิงธุรกิจได้ในอนาคต รวมไปถึงนิทรรศการสินค้าจากสมุนไพร สินค้า OTOP สินค้าไลฟ์สไตล์จากโครงการในพระราชดำริ และผลงาน การออกแบบ การประกวดงานฝีมือระดับประเทศและระดับสากลด้วย