[ข่าวประชาสัมพันธ์]
ในงานแถลงข่าว วันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา ประธานชมรมผู้ประกอบการทฤษฎีใหม่ (ATE) ได้พูดถึงความเป็นไป เป็นมาของชมรม ตามหลักการทฤษฎีใหม่ สามขั้นตอน นั่นคือ 1. การพัฒนาตนเองด้วยความพอเพียง 2. รวมกลุ่มเพื่อความเข้มแข็ง และ 3. เชื่อมโยงต่อยอดสู่ภายนอกเพื่อความยั่งยืน ต่อสังคม และประเทศชาติ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของชมรมฯ ที่มีผู้ประกอบการในชมรมกว่าร้อยธุรกิจมารวมกันเพื่อยึดถือปฏิบัติ
ต่อมาตัวแทนจาก บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิร์ด ผู้บริหารโครงการเอเชียทีค ถือเป็นเรี่ยวแรงสำคัญของโครงการ ด้วยการร่วมสนับสนุนพื้นที่ในการจัดงานถึงสามวัน ได้กล่าวถึงพันธกิจเพื่อสังคมที่ทางบริษัทได้เล็งเห็นและยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด ทั้งเกี่ยวกับเด็กและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่บริษัทได้ดูแลภูมิทัศน์ในเขตแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 5 ปี ซึ่งโครงการ “ฝันฝ่าฝน” ก็ถือว่าเป็นโครงการที่ทางบริษัทเล็งเห็นว่าเหมาะสมสำหรับการสนับสนุนเพราะทางเอเชียทีคเองก็ถือว่าเป็นที่รวมและสนับสนุนเหล่า SME อยู่แล้วเช่นกัน จากนั้น ตัวแทนจาก “โครงการพัฒน์” โครงการพัฒนาผู้ประกอบการภายใต้ความร่วมมือกับ KCE หรือ บริษัทเคเอ็กซ์ คอนซัลติ้ง เอนเตอร์ไพร์ซ จำกัด ในฐานะ Marketing arm ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้กล่าวถึงการเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ “ฝันฝ่าฝน” กับชมรมผู้ประกอบการทฤษฎีใหม่ โดยเป็นผู้จุดประกายทำให้เกิดโครงการการกุศลในครั้งนี้ เพราะการเรียนการสอนที่ผ่านมานั้นเน้นหลักความรู้คู่คุณธรรมตามหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงมาโดยตลอด ทำให้ผู้ประกอบการในโครงการเล็งเห็นความสำคัญจนเกิดงานในครั้งนี้
ในช่วงที่สุดท้ายของการแถลงข่าว ได้ตัวแทนคณะทำงานซึ่งประกอบด้วยหัวหน้าโครงการ รองหัวหน้าโครงการ “ฝันฝ่าฝน” และ ประธานรุ่นโครงการพัฒน์ ทั้ง 2 รุ่น ได้ขึ้นมาเล่าถึงรายละเอียดงานในการจัดครั้งนี้ โดยคอนเสปต์ของงานนั้น มีเป้าประสงค์หลักคือการช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่ต้องเดินทางไปโรงเรียน ด้วยตนเอง และยิ่งในฤดูฝน ความลำบากจะเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า จึงจัดทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อสมทบทุนซื้อเสื้อกันฝน ซ่อมหลังคาโรงเรียน รถโรงเรียน ยารักษาโรค โดยจะเริ่มต้นที่โรงเรียนนำร่อง 9 โรงเรียน ในเขตอำเภอปง จังหวัดพะเยา ซึ่งมีจำนวนเด็กนักเรียน 1,188 คน โดยทีมงานได้เข้าไปรับทราบปัญหาจริง กิจกรรมในงาน วันที่ 29 กันยายน ถึง 1 ตุลาคมจะมีกิจกรรมออกร้านของธุรกิจในชมรมพร้อมคาราวาน Food Truck และการแสดงจากศิลปินดาราที่จะแวะเวียนมาร่วมกุศลตลอดสามวัน นอกจากนี้ในเช้าวันที่ 30 กันยายน จะมีกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์อย่างเข้าอกเข้าใจน้องๆ โดยกิจกรรมนี้มีชื่อว่า “เดินวิ่งปั่นการกุศล เพื่อพาน้องผ่านฝนไปสร้างฝัน” ซึ่งจะขอความร่วมมือให้ผู้เข้าร่วมใส่เสื้อกันฝนเพื่อร่วมทำกิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ในระยะทาง 2.4 กิโลเมตร นี้ด้วย
ที่มาของกิจกรรมเดินวิ่งปั่น ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ๆ เรียกได้ว่าอาจจะเป็นครั้งแรกที่เราจะทำทั้งสามอย่างไปพร้อมกันบนถนนเส้นเดียวกัน แต่นั่นเป็นเพราะเราต้องการให้ทุกคนได้เข้าอกเข้าใจน้องๆ ในพื้นที่ห่างไกล กับการเดินทางไปโรงเรียนของเขา ที่มีทั้งการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยานไป บนเส้นทางแคบๆ เส้นเดียวกัน แต่เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่แสดงสัญลักษณ์แสดงพลังเราให้กำลังใจน้องๆ จึงมีการจัดการในการปล่อยตัวเพื่อป้องกันอันตรายไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้สบายใจในการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินวิ่งนั้นไม่มี เพียงแค่นำเสื้อกันฝนมาร่วมกัน แต่ถ้าหากใครอยากร่วมสมทบทุนช่วย ทางโครงการก็มีแพ๊คเกจของที่ระลึกให้ได้ซื้อ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสองแพ๊คเกจ แพ็คเกจแรก ชื่อว่า “1 น้ำใจ 1 ความฝัน“ ประเภทนี้มีความพิเศษเพราะจะเตรียมไว้เพียงแค่ 1,188 ชุดเท่านั้น ตามจำนวนของเด็กที่เราจะไปช่วยเหลือซึ่งทุกชุดในประเภทนี้ จะได้การ์ดขอบคุณจากเด็กไม่ซ้ำกัน เรียกได้ว่าซื้อหนึ่งได้ช่วยหนึ่งคนเลยทีเดียว ในราคาชุดละ 490 บาท ประกอบไปด้วยเสื้อกันฝน ถุงกันน้ำ เข็มกลัดงาน และการ์ดขอบคุณจากเด็ก
ส่วนแพ็คเก็จที่ 2 ชื่อว่า “พาฝันฝ่าฝน” ซึ่งจะประกอบไปด้วย เสื้อกันฝน ถุงกันน้ำ เข็มกลัดงาน และกระเช้าของจาก SME ในโครงการพัฒน์ ในราคาชุดละ 1,500 บาท มีจำนวน 500 ชุด
นอกจกนั้น ยังมีกิจกรรมก่อนงานที่ธุรกิจในชมรมต่างสร้างแคมเปญทางการตลาดของตนเองเพื่อหาเงินสมทบทุนให้โครงการ โดยไม่เน้นผลกำไร ซึ่งจะเห็นปรากฏการณ์ในการทำแคมเปญพร้อมกันแบบนี้ได้ที่ www.facebook.com/FunFarFon/
นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังร่วมกันทำแคมเปญไวรัล ด้วยการออกมาเล่าประสบการณ์ความยากลำบากในฤดูฝนของตนเอง ส่งต่อให้เพื่อนๆ ได้มาร่วมเล่ากันต่อๆ ไปด้วย
รายละเอียดอื่นๆ สามารถติดตามได้ในเว็บไซต์ www.funfarfon.org และ www.facebook.com/FunFarFon
[ข่าวประชาสัมพันธ์]
