เมื่อแบรนด์ต่างๆ เข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น อุตสาหกรรมค้าปลีกต้องมีการ ปรับตัวเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนแปลง ในช่วงปีที่ผ่านมา เกิดแนวความคิดใหม่มากมายในหลายสาขา เช่น โลจิสติกส์ ประสบการณ์ในร้านค้าแบบคิดใหม่ การชำระเงิน และการปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ให้เป็นลักษณะส่วนบุคคล ซึ่งทำให้แบรนด์และผู้ค้าปลีกจำเป็นต้องมี ความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งทางด้านออนไลน์และออฟไลน์ โดยที่ RetailEX ASEAN งานแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จัดให้มีการบรรยายจากแบรนด์และ ธุรกิจค้าปลีกชั้นนำเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับทิศทางเหล่านี้และอภิปรายว่าอนาคตของธุรกิจค้าปลีกจะขึ้นอยู่กับ ประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซหรือไม่
RetailEx ASEAN แบ่งออกเป็น 3 งานแสดง ได้แก่ ShopFIT, ShopTECH และงานแสดงล่าที่สุดที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ ในปีนี้ คือ งานแสดงธุรกิจค้าปลีกทางอินเทอร์เน็ต หรือ InternetRetailing Expo ASEAN โดย RetailEX ASEAN มี กำหนดการจัดงานระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน 2560 ณ อาคาร 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีผู้บรรยายเป็นผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆ เช่น คุณจริยา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้า ปลีกไทย ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ คุณอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้า หน้าที่บริหารจาก BIG C และ BJC คุณ Chen Zhang ผู้บริหารตำแหน่ง Chief Technology Officer ของ JD.com คุณ Alessandro Piscini ประธานบริหารจาก Lazada ประเทศไทย
Julia Kwan – ผู้อำนวยการดูแลฝั่งเอเชียจาก Internet Retailing Expo กล่าวว่า “ในปีนี้ RetailEX ASEAN มีผู้เข้า ร่วมงานมากกว่า 5,000 คน และผู้จัดแสดงกว่า 200 ราย งานแสดง Internet Retailing Expo ซึ่งจัดขึ้นในสถานที่ เดียวกันกับ RetailEX ASEAN จะทำให้เหล่าธุรกิจค้าปลีกได้เรียนรู้เกี่ยวกับทิศทางด้านออนไลน์และออฟไลน์ที่ กำลังจะเปลี่ยนแปลงและหล่อหลอมธุรกิจค้าปลีกในวันนี้”
งานแสดง Internet Retailing Expo ASEAN ถูกจัดขึ้นเพื่อตอบสนองความสนใจเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มสูงขึ้นใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีประชากรทางอินเทอร์เน็ตเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก มีผู้ใช้ ใหม่ในโลกออนไลน์จำนวนกว่า 3.8 ล้านรายทุกเดือน และถูกคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะสูงถึงหลัก ล้านล้านรายในปี 2563 ประชากรส่วนใหญ่ของกลุ่มวัยรุ่นใช้เวลามากกว่า 7 ชั่วโมงต่อวันบนโลกอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้เม็ดเงินออนไลน์ในภูมิภาคนี้อาจสามารถเติบโตได้ถึงหกเท่าและแตะระดับ 200 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2568 โดยมีอีคอมเมิร์ซเป็นจุดสำคัญของการเติบโต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสใหญ่สำหรับธุรกิจค้าปลีกที่กำลัง ต้องการสร้างตัวตนทางออนไลน์ แบรนด์ยักษ์ใหญ่ ธุรกิจค้าปลีก ตลาดกลาง และผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี จะ มาพบกันในงานแสดงสินค้าและการประชุมครั้งนี้ การประชุมจะแบ่งเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านธุรกิจค้าปลีกแบบ ดั้งเดิม ด้านการขายและการตลาดด้วยพลังดิจิทัล ด้านการตอบสนองในเรื่องความปลอดภัยและการชำระเงิน และสุดท้ายคือด้านประสบการณ์ลูกค้า
RetailEx ASEAN เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนได้ ผู้ถือบัตรสำหรับตัวแทนบริษัท หรือ Delegate Ticket (บัตรราคา 500 เหรียญสหรัฐ) จะสามารถเข้าร่วมประชุม เข้างานจัดแสดง พักรับประทานอาหารกลางวัน พักรับประทานชากาแฟ และเข้างานเลี้ยงเพื่อสายสัมพันธ์ได้ทั้งหมด ส่วนบัตรสำหรับผู้เข้าชมทั่วไป หรือ Visitor Pass นั้นไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถเข้าอาคารจัดแสดงและเข้าร่วมประชุมในงานได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้า เยี่ยมชมเว็บไซต์ www.retailexasean.com และ www.internetretailingexpo-asean.com
