คนไม่อยากได้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นของใช้เสียบปลั๊ก ซัมซุงส่ง The Frame ปฏิวัติโฉมทีวี

ถ้าคุณกำลังคิดหาคำตอบ ว่าผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคในยุคนี้ต้องตอบโจทย์อย่างไรเพื่อให้ตรงใจลูกค้า บอกเลยว่า…ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต้องผ่านกระบวนการออกแบบมากขึ้น ต้องคำนึงถึงวิถีชีวิตของผู้ใช้เป็นสำคัญ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะผู้บริโภคยุคใหม่มีความซับซ้อนทั้งไลฟ์สไตล์และจิตวิทยามากขึ้นน่ะสิ ไม่ใช่แค่คุณสมบัติการใช้งานที่ต้องออกแบบมาอย่างครบถ้วน แต่เรื่องความงามก็สำคัญไม่แพ้กัน!

ยกตัวอย่าง “อีฟ เบฮาร์” (Yves Behar) ดีไซน์เนอร์และนักออกแบบผลิตภัณฑ์ชื่อดังชาวสวิส ผู้คร่ำหวอดในวงการออกแบบ และในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท Fuseproject และเจ้าของผลงานดีไซน์จำนวนมากตลอด 20 ปีในวงการออกแบบ จนทำให้เขาได้รับตำแหน่งนักออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกจากนิตยสาร Forbes ซึ่ง อีฟ เบฮาร์ ได้เคยร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำ อาทิ PRADA, Swarovski , ISSEY MIYAKE , Samsung โดยล่าสุดเขาได้ร่วมกับ Samsung เพื่อลบภาพทีวีในอดีตให้กลายเป็นงานศิลป์ชิ้นสวยเพิ่มบรรยากาศที่ดีภายในบ้าน ไม่ใช่ทีวีกล่องสีดำที่ตั้งตระหง่านกลางบ้านอีกต่อไป

เพราะยุคนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ต้องมีความสวยงาม เป็นได้ทั้งเครื่องใช้ที่มีแฟชั่นและฟังก์ชั่น ต้องสามารถเป็นเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นในบ้านได้ด้วย โดยแนวคิดของ อีฟ เบฮาร์ แสดงแนวคิดต่อเรื่องดังกล่าวว่า “เราพยายามค้นหาวิธีใหม่ๆ ที่ผู้บริโภคในปัจจุบันจะใช้หรือมีปฏิสัมพันธ์กับทีวี ซึ่งในแต่ละวันคนเราดูทีวีเฉลี่ยเพียงวันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น เราจึงอยากให้ทีวีกลมกลืนไปกับทุกห้องภายในบ้านได้อย่างลงตัวไม่ใช่เป็นเพียงจอดำในช่วงที่เราไม่ได้ดูทีวี แนวคิดหลักคือทีวีรุ่นนี้จะต้องเป็นมากกว่าทีวี นี่เป็นเหตุผลที่ทั้งซัมซุงและผมต้องการเปลี่ยนหน้าตาของทีวี จากกล่องสีดำที่ทุกคนชินตาให้เป็นงานศิลป์ที่สวยงามสะกดทุกสายตา จึงเป็นที่มาของ Samsung The Frameไลฟ์สไตล์ทีวีใหม่ที่จะเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ทีวีอย่างสิ้นเชิง เพราะมีการสอดแทรกดีไซน์ไว้ในผลิตภัณฑ์อย่างละเมียดละไมแยบยล”

สำหรับ Samsung The Frame จะเน้นรูปลักษณ์ที่สวยงามคล้ายผลงานศิลปภายใต้เทคโนโลยีที่ถูกใส่ไว้ภายใน เพื่อยกระดับชีวิตของผู้คน ผสานกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคกับวัตถุต่างๆ ภายในบ้าน และยังช่วยให้ผู้บริโภคคุ้นชินกับแนวคิดใหม่ๆ ได้ด้วย จากแรงบันดาลใจของ อีฟ เบฮาร์ ในการออกแบบ The Frame ให้พลิกรูปลักษณ์ของทีวี โดยสื่อถึง User Experience ที่หาได้จาก The Frame ทีวีรุ่นนี้เท่านั้น ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเพลิดเพลินกับผลงานศิลปที่จะปรากฏบนหน้าจอโดยอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งานทีวีอีก พร้อมด้วยเทคโนโลยี Brightness Sensor หน้าจอสามารถปรับลดหรือเพิ่มความสว่างอัตโนมัติตามช่วงเวลาตลอดวัน รวมถึง  Motion Sensor เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ใช้ตรวจจับว่ามีคนอยู่ในห้องหรือไม่เพื่อปิดและเปิดทีวีโดยอัตโนมัติ

“The Frame จะเป็นเหมือนการปฏิวัติวงการทีวี ทำให้ผู้ใช้งานอยากแสดงหน้าจอทีวีให้ทุกคนได้ดู และยังมีคุณสมบัติแสดงภาพเขียนหรือภาพถ่าย ทำให้บ้านงดงามมีสุนทรียะยิ่งขึ้น ผมคิดว่าเรากำลังอยู่ในยุคใหม่ของทีวีซึ่งสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากมายกว่าเป็นแค่ทีวี กลายเป็นพื้นที่แสดงศิลปะแบบดิจิทัลไปในตัว”.