ว่ากันว่า 'วัยมิลเลนเนียล' คือตัวการที่ทำให้ 'แวดวงโฆษณา' ต้องสั่นสะเทือน!

เพราะไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สินค้าและบริการจึงต้องปรับปรุงให้สามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ตรงใจตามยุคสมัยเช่นกัน แต่…ไม่ใช่เพียงธุรกิจสินค้าหรือบริการที่ต้องขยับตัวอยู่ฝ่ายเดียว

ประเด็นนี้…เว็บไซต์ BusinessInsider ได้ยืนยันด้วยข้อมูลจาก Nielsen Comparable Metrics Report ที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของคนวัยมิลเลนเนียล (Millennials) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นปัจจัยยืนยันว่าแวดวงโฆษณาและการทำตลาดเดินทางมาถึงจุดพลิกผันแล้วจริงๆ

สถิติดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า…คนวัยมิลเลนเนียลใช้เวลาอยู่กับสมาร์ทโฟนมากเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลาเฉลี่ย 19.39 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ขณะที่วัยผู้ใหญ่ในกลุ่มอายุอื่นๆ ใช้เวลาเฉลี่ย 17.49 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ความน่าสนใจก็คือ วัยมิลเลนเนียลนั้นใช้เวลาอยู่กับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับทีวีมากกว่าสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่น ไม่ว่าจะ…ทีวี วิทยุ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือแท็บเล็ต ส่วนทีวีก็ยังคงเป็นสื่อยอดนิยมที่สามารถครองใจวัยอื่นได้แบบอยู่หมัด เพราะข้อมูลระบุว่าวัยผู้ใหญ่ใช้เวลากับทีวีนานถึง 34.32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

แม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นสถิติที่สะท้อนถึงพฤติกรรมการเสพสื่อของชาวต่างชาติ แต่…วัยมิลเลนเนียลชาวไทยก็มีแนวโน้มไม่แตกต่างกัน! เพียงแต่ในประเทศไทยนั้น นักโฆษณายังต้องใส่ใจกับการลงโฆษณาผ่านทีวีซึ่งยังเป็นสื่อยอดนิยมของคนไทย แม้ระยะเวลาการรับชมจะลดลง ขณะที่สื่อโซเชียล สื่อออนไลน์ เริ่มกลายเป็นสื่อที่มีอันดับความสำคัญ เรียกว่าแบรนด์ส่วนใหญ่ยังไม่ทุ่มโฆษณาไปที่ออนไลน์เป็นหลักแต่ก็ไม่ทิ้งช่องทางนี้แน่นอน ส่วนใหญ่ยังเป็นรูปแบบการทำตลาดและใช้สื่อออนไลน์ร่วมด้วยเพื่อขยายโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

นักการตลาดและนักโฆษณาต่างจำเป็นต้องพยายามปรับตัวเพื่อนำแบรนด์ สินค้าและบริการให้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มนี้ รวมถึง Digital Natives ซึ่งก็คือคนรุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีและโลกโซเชียลนั่นเอง จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ขยายช่องทางโฆษณาและพยายามทำแนวทางเหล่านั้นให้ชัดเจนขึ้น ก็เพื่อรองรับเม็ดเงินมหาศาลและโอกาสที่แบรนด์ธุรกิจต้องการเจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างวัยมิลเลนเนียลนี่แหละ

สรุปว่า…เรามีโอกาสได้เห็นการทำโฆษณาและการตลาดที่แปลกและเปลี่ยนไปจากเดิม ก็เพราะพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่ม แต่ละช่วงวัยนั่นเอง แม้โอกาสจะเป็นของคน (หรือแบรนด์) ที่เริ่มขยับตัวก่อน แต่ในความเป็นจริง…ความสำเร็จยังจำเป็นต้องประกอบด้วยปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งคอนเทนต์ที่ตรงใจ โปรโมชั่นที่หลากหลายตอบโจทย์ หรือแม้แต่เรื่องของอารมณ์ที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ นี่ยังไม่รวมถึงเทคนิคและกลยุทธ์ที่นักโฆษณาจะงัดมาฟาดฟันชิงพื้นที่ในใจของผู้บริโภคอีกด้วย.