ในช่วงที่สื่อดั้งเดิมกำลังถูกสื่อดิจิทัล disruption เป็นการใหญ่ แต่ปราฏว่าสื่อดั้งเดิมที่มีอัตราเติบโตที่ยังดีอยู่ ได้แก่ Out of Home (OOH) โดยผลสำรวจจากนีลสันฯ ชี้ว่า OOH มีมูลค่าการใช้จ่ายในสื่อโฆษณา เพิ่มขึ้นในปีนี้ 26.6% และมีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยปีที่แล้วโตที่ 9.4% ส่วนปีนี้อยู่ที่ 12.5% แสดงให้เห็นว่า OOH ยังเป็นสื่อที่มีโอกาสเติบโตและขยายได้อีก
เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย
และเมื่อเร็วๆ นี้ MACO ผู้นำด้านสื่อนอกบ้าน ได้ประกาศผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ผ่านกำไรที่เติบโตสูงถึง 37% จากไตรมาสก่อน และโต 26% จากปีก่อนหน้า ผลจากการเร่งขยายพื้นที่โฆษณาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
ศุภรานันท์ ตันวิรัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO เปิดเผยว่า ไตรมาส 2 ปี 2560 ถือเป็นไตรมาสที่บริษัทมีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านการเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน และการสร้างกำไร โดยในไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้ 199 ล้านบาท เติบโต 11% จากปีก่อนและโต 5% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ของ Multi Sign บริษัทสื่อกลางแจ้งที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการในช่วงกลางปีก่อน และยอดขายสื่อที่ปรับตัวดีขึ้นจากทั้งสื่อ Billboard และ Street Furniture รวมไปถึงการพลิกฟื้นกลับมาทำกำไรของสื่อ PTT Poster ที่อยู่ในปั๊มน้ำมัน ปตท.จิฟฟี่ กว่า 200 ป้าย
นอกจากรายได้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งแล้ว บริษัทยังเริ่มรับรู้ผลจากมาตรการกระชับสัดส่วนองค์กร ตัดรายจ่ายที่เกินความจำเป็นออกไป ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นของสื่อบางประเภทและการเปลี่ยนแปลงโมเดลของการเช่าป้ายมาเป็นลงทุนเองที่บริษัทได้เริ่มดำเนินการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ในไตรมาสนี้ บริษัทมีกำไรที่เติบโตถึง 37% จากไตรมาสก่อนหน้าและเติบโต 26 % จากปีก่อน คาดรายได้ทั้งปีเติบโตไม่น้อยกว่า 20%
น้ำท่วม กระทบภาพรวมการใช้จ่ายสื่อ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MACO กล่าวอีกว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในปีนี้ คาดว่าจะยังคงชะลอตัว โดยครึ่งปีหลังมีปัจจัยลบที่อาจส่งผลต่ออุตสาหกรรม ได้แก่ สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด ซึ่งมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจยังไม่มีการประเมิณ รวมทั้งเหตุการณ์การไว้อาลัยเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่ายังมีโอกาสผลักดันรายได้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย จากแผนดำเนินการสร้างเครือข่ายสื่อดิจิทัลใน 20 จังหวัด ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ มิถุนายน 2560 และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการเฟส 2 ช่วงปลายปีอีก 30 จังหวัด เน้นพัฒนาจุดติดตั้งสื่อในทำเลไพร์มย่านธุรกิจทั่วประเทศที่บริษัทมีทำเลอยู่แล้ว ใช้งบประมาณ 150 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินราว 300-500 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนเพียง 0.6 เท่า
สำหรับใน ต่างจังหวัดมีโอกาสเติบโตอีกมากดูได้จาก ความเจริญที่กระจายตัวออกต่างจังหวัด อีกทั้งปัจจุบันเม็ดเงินสื่อโฆษณาส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลสัดส่วนราว 70% แต่โครงสร้างจำนวนประชากรและรายได้ประชากรของประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด บริษัทเริ่มเห็นทิศทางการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินโฆษณาไปต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องนโยบายที่จะเน้นขยายสื่อไปตามต่างจังหวัด หลังจากการเข้าซื้อกิจการของมัลติไซน์และโคแมส สร้างข้อได้เปรียบในเรื่องของทำเลที่เป็นแลนด์แบงก์อยู่ในมือ
แนวทางการบริหารงานในช่วงครึ่งปีต่อจากนี้
- ขยายเครือข่าย CBD LED เพิ่มอีก 30 จอ ภายในปลายปี 2560 โดยเน้นขยายในย่านธุรกิจต่างจังหวัด คนสัญจร หนาแน่น ทำให้ภาพรวมมีทั้งหมด 50 จอ 50 จังหวัด และแต่ละจุดเราก็เน้นทำเลแบบ Daily Traffic อีกด้วย
- ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ กับบริษัทแม่ VGI และร่วมกับบริษัทอื่นๆ เช่น Aero Media Group ซึ่งมีโฆษณาในสนามบินหลายจังหวัดใหญ่ รวมทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ โฆษณาบนเครื่อง เช่น แอร์เอเชีย และนกแอร์ เรามี Rabbit และมี Demo Power พันธมิตรส่งเสริมการตลาด อีกด้วย
- ร่วมลงทุนและประสานกับพันธมิตรต่างประเทศ ได้แก่
- ลงทุนร่วมกับบริษัท อายส์ บอล แชแนล จำกัด ประเทศ มาเลเซีย โดยตั้งใจจะปั้นให้เป็น Rising Star
- ได้รับสิทธิเป็นตัวแทนขายสื่อให้จีน Local Partners ใน 7 ประเทศ
ตั้งเป้าอีก 3 ปี รายได้ก้าวกระโดด 2 เท่าตัว
สำหรับอนาคตต่อจากนี้ในอีก 3 ปี บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตก้าวกระโดดเท่าตัว ภายใต้กลยุทธ์รุกธุรกิจสื่อกลางแจ้งที่เป็นดิจิตอล เน้นตลาดต่างจังหวัด ส่วนในกรุงเทพฯ จะไปตามส่วนต่อขยายของระบบคมนาคม การเปลี่ยนแปลงผังเมือง เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดสื่อกลางแจ้งให้เป็น 35% ในปี 2561 จากปัจจุบันอยู่ที่ 30% ส่วนการซื้อกิจการเข้ามาบริหารเพิ่มเติมจากนี้จะประเมินตามสภาวะตลาด โดยจะเน้นพัฒนาป้ายที่มีอยู่ในมือให้ใช้งานได้เต็มศักยภาพ ตามความต้องการของลูกค้าต่อไป
Copyright © MarketingOops.com