ต้องยอมรับว่าเราเดินมาถึงยุคที่คนยอมกำเงินออกไปเที่ยวมากกว่าซื้อรถหรือซื้อบ้าน ยอมที่จะให้รางวัลกับตัวเองไปกับลิปสติกแท่งใหม่ หรือนั่งชิลล์ถ่ายเซลฟี่กับร้านกาแฟเก๋ชิค ซึ่งนั่นอาจจะเป็นโมเมนต์ของการใช้เงินเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเอง
และนอกเหนือจากเรื่องพวกนี้แล้ว ก็ยังจะต้องมีค่าใช้จ่ายจำเป็นต่างๆ อีก เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเทอม ค่าซื้อของตกแต่งบ้าน ฯลฯ เรียกง่ายๆ ว่าชีวิตของคนเรามีทั้งค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและไม่จำเป็นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันคงเป็นเรื่องง่ายถ้าเรามีเงินสดสำรองไว้สำหรับทุกกรณี
แต่ชีวิตมันไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก!
ชีวิตเกิดเรื่องเอ็กซิเดนท์ได้อยู่ตลอดเวลา การเงินก็เช่นกัน เกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้ต้องใช้เงินสดล่วงหน้าขึ้นได้ ดังนั้น ในยามคับขันการกดเงินสดคือสิ่งจำเป็นที่สามารถช่วยได้ แต่เราอาจจะลืมนึกไปว่าการทำแบบนี้บ่อยๆ ก็จะทำให้เราเสียค่าธรรมเนียมไปจำนวนมากโดยไม่รู้ตัว
ปกติหากเรากดเงินสดจากบัตรเครดิต จะเสียค่าธรรมเนียม 3% ของยอดเงินที่กดออกมา แถมยังต้องเสียดอกเบี้ยอีกประมาณ 18% เป็นอย่างต่ำ (แล้วแต่ธนาคาร) แล้วถ้าจ่ายไม่ครบตามกำหนดในใบแจ้งหนี้รายเดือน อาจเสียค่าเรียกเก็บ (ค่าติดตามทวงถามหนี้) และเสียดอกเบี้ยเพิ่มไปเรื่อยๆ
และเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราจะขอยกตัวอย่างชีวิตของ “น้องฟ้าใส” เป็นเออีสาว ทำงานอยู่ในเอเจนซี่ข้ามชาติ เงินเดือนแม้ไม่สูงมากแต่ก็อยู่ในระดับที่สามารถใช้ชีวิตตอบสนองไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้
“ฟ้าใส” ติดตามเพจอาแปะดอทคอม แล้วเกิดไปเจอโปรเด็ดตั๋วบินไปญี่ปุ่นถูกมาก “ฟ้าใส” ลังเลที่จะกดซื้อ เพราะเงินสดในมือไม่พอขาดแค่ 10,000 บาท แต่ถ้าพลาดจากโปรนี้ไปก็ไม่รู้ว่าจะได้ราคาถูกกว่านี้อีกหรือไม่ หลังจากคิดแล้วคิดอีก ฟ้าใสตัดสินใจวิ่งไปที่ตู้แล้วใช้บัตรเครดิตกดเงินสดออกมา 10,000 บาททันที โดยที่ลืมคำนวณว่า เงินสดที่กดออกมา 10,000 บาทนั้น จะต้องจ่ายทั้งค่าธรรมเนียมการกดเงินสด และดอกเบี้ยอีกด้วย
ในอีกทางหนึ่ง เราพบว่ามีข้อเสนอพิเศษจาก Citi Ready Credit ที่ช่วยให้เราใช้เงินได้อย่างชาญฉลาดเกิดสภาพคล่องและที่สำคัญไม่ต้องกังวลกับการเป็นหนี้ระยะยาวอีกด้วย ดังนั้น ลองมาดูว่า Citi Ready Credit บัตรเดียวจบ ครบทุกความต้องการเรื่องเงินสด จริงหรือไม่
1. การผ่อนชำระในการซื้อสินค้า
- สามารถผ่อนชำระสินค้ากับ Citi Paylite ได้ 0% สูงสุด 24 เดือน (กับสินค้าที่ร่วมรายการ) เท่ากับว่าหาก “น้องฟ้าใส” ซื้อสินค้าที่ร่วมรายการกับ Citi Paylite ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องดอกเบี้ยระยะยาวอีกต่อไป ผ่อนสบายๆ แบบเบาตัว
2. เดินทางไปไหนใกล้ไกล ถ้าขาดเงินกระทันหันไม่ว่าจะประเทศใด ก็ไร้กังวล เพราะกดเงินสดฟรีโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมทุกตู้ซิตี้ทั่วโลก! สายเปย์ยิ้มได้ชัวร์ๆ
- ส่วนดอกเบี้ย เขาก็คิดเพียงแค่หมื่นละ 8 บาทต่อวัน เท่ากับว่า หากเรากดเงินสด 10,000 บาท เราก็เสียดอกเบี้ยแค่ 8 บาทต่อวันเท่านั้น แต่ควรรีบคืนนะจ๊ะ ไม่งั้นอาจต้องเสียดอกเบี้ยเยอะ
3. การโทรสั่งเงินก้อน
- หากต้องการใช้เงินก้อน ก็สามารถโทรสั่งเงินก้อนแล้วรอรับเงินในวันทำการถัดไป หากเลือกให้โอนเข้าบัญชีธนาคารตามที่ระบุ ก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการโอนอีกด้วย ที่สำคัญสามารถเลือกผ่อนชำระได้ตั้งแต่ 6-48 เดือน
ทีนี้น่าจะพอเดาได้ว่า “น้องฟ้าใส” จะเลือกทางไหนนะคะ
นอกจากนี้ ก็มีสิทธิพิเศษต่างๆ อีก เช่น ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ ฟรีค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน และฟรีค่าธรรมเนียมการชำระยอดบัญชีฯ โดยมีช่องทางการชำระมากกว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศ
ด้วยความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป Citi Ready Credit ก็สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันได้ว่าต้องการชีวิตที่อิสระมากขึ้น และไม่ต้องการผูกมัดกับข้อจำกัดใดๆ ดังนั้น Citi Ready Credit ตอบโจทย์ความต้องการเรื่องเงินสดให้เราได้จริงๆ
แต่ถึงกระนั้น ด้วยความง่ายในการใช้จ่ายเงินสด ก็เป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราควรพึงระวังเช่นกัน ยิ่งกดง่าย กดแล้วจ่ายไม่แพง ก็เป็นเสมือนดาบสองคมที่ทำให้เป็นหนี้ก้อนโตได้ถ้าไม่วางแผนการใช้จ่ายเงินให้ดี ต่อให้ไร้ค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยต่ำแค่ไหน แต่ถ้าคุณเอาแต่กดๆ โดยไม่คำนวณรายรับรายจ่ายให้ดี ก็ทำให้ชีวิตพังได้เช่นกัน ฉะนั้น ถ้าอยากจะเป็นคนรุ่นใหม่ใช้ชีวิตอิสระให้มีคุณภาพจริงๆ ต้องฉลาดเลือกฉลาดใช้จ่ายด้วยนะคะ
และถ้าต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับบัตร Citi Ready Credit เพิ่มเติมสามารถคลิกดูได้ที่ www.citibank.co.th/apply/ready-credit/index.html
