หากจะบอกว่าเป็นผู้บุกเบิกคอนโดมิเนียมทำเลใกล้รถไฟฟ้าเป็นเจ้าแรก ก็ดูจะไม่ใช่อะไรที่เกินจริงสำหรับ “เอพี ไทยแลนด์” บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เบอร์ต้นๆ ในไทยที่มีหัวเรือใหญ่อย่าง “อนุพงษ์ อัศวโภคิน” เป็นผู้นำคนสำคัญ
สำหรับบทบาทของผู้เริ่มต้นและปลุกกระแสที่พักอาศัยตามแนวรถไฟฟ้าเจ้าแรกในไทยนั้น เป็นจุดพีคที่ทำให้ เอพี ไทยแลนด์ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมือง สร้างความต่างด้วยการเน้นเรื่องดีไซน์และนวัตกรรมการอยู่อาศัย ซึ่งโครงการที่ เอพี ไทยแลนด์ พัฒนานั้นมีทั้ง ทาวน์โฮมบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม เน้นทำเลที่ตั้งในเขตชุมชน ในเมือง ย่านธุรกิจการค้า รวมถึงตามแนวรถไฟฟ้า โดยการออกแบบที่อยู่อาศัยทุกโครงการจะมีคอนเซ็ปต์เฉพาะที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ เหมาะกับผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้นอยู่ในตลาดระดับราคาตั้งแต่ 1.5 – 40 ล้านบาท (ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-6 ล้านบาท)
จากแบรนด์ทั้งหมดของ เอพี ไทยแลนด์ …คอนโดมิเนียม LIFE เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความพิเศษและประสบความสำเร็จเกินคาด เอพีเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ LIFE ครั้งแรกเมื่อปี 2549 ด้วยโครงการ “LIFE ท่าพระ” การเกิดขึ้นของโครงการในช่วงเวลานั้นนับเป็นการบุกเบิกตลาดคอนโดมิเนียมสำหรับคนรุ่นใหม่ ซึ่ง LIFE ได้วาง brand positioning ในบทบาทของที่พักอาศัยที่มอบความสนุกสนานกับการใช้ชีวิตในเมือง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ENJOY YOUR LIFE ” โดยหลังจากเปิดตัว “LIFE ท่าพระ” ปี 2549 ในปีถัดมา เอพีเปิดตัวคอนโดฯ LIFE โครงการใหม่ตามมาอีก 6 โครงการ ซึ่งเปรี้ยงพอดีกับเทรนด์การพักอาศัยในทำเลตามแนวรถไฟฟ้าที่กำลังก่อตัวขึ้น นั่นจึงทำให้ LIFE สามารถปิดการขายได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
สิ่งที่น่าติดตามในปีนี้คือ เอพีเปิดตัว LIFE โครงการใหม่ในคอนเซ็ปต์ที่ต่างออกไปจาก LIFE ในโครงการก่อนๆ แน่นอนว่ายังคงเป็นการรุกตลาดคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า แต่กลยุทธ์ที่เอพีนำมาใช้สร้างมิติใหม่ให้กับ LIFE โครงการนี้คือ ‘นวัตกรรมดีไซน์เพื่อการอยู่อาศัย’ ที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด “Platform of Success” เป็นการวาง brand positioning ใหม่และวางกลยุทธ์ใหญ่ให้ LIFE ในปี 2017
โดย LIFE โครงการแรกที่จะเปิดตัวคือ “LIFE ลาดพร้าว” วางทำเลอยู่ที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลลาดพร้าว ใกล้ รถไฟใต้ดิน MRT พหลโยธิน BTS หมอชิต และจุดขึ้นลงทางด่วน มูลค่าโครงการอยู่ที่ 7,600 ล้านบาท เคาะราคาขายเริ่มต้นที่ 2.9 ล้านบาท
แตกต่างด้วยแนวคิด Platform of Success เพื่อการอยู่อาศัยที่เป็นรากฐานสู่ความสำเร็จ
หากจะวางเป้าให้ LIFE ในปี 2017 เป็น Platform of Success …นอกจากเรื่องทำเลทองแล้ว เอพีจำเป็นต้องให้ผู้บริโภคได้มากกว่านั้น จึงนำมาสู่ 2 วิธีคิดสำคัญที่เข้าใจถึง insight ของคนเมืองในยุคนี้
- In-Control ทุกองค์ประกอบในการพัฒนา LIFE Condo ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ผู้อาศัยสามารถเลือกและควบคุมการใช้ชีวิตได้ด้วยตนเอง
- Connected World คือการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมเชื่อมต่อวิถีชีวิตในการพักอาศัย ให้เข้าสู่โลกดิจิทัลได้ในทุกที่ทุกเวลา
ทั้ง 2 วิธีคิดสำคัญนี้เกิดขึ้นโดยการยึดแนวคิด Platform of Success ซึ่งจะเป็น brand position ใหม่ของ LIFE ในปี 2017 ให้ผู้อยู่อาศัยมีจุดเริ่มต้นของคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมมีแอเรียที่รองรับสู่กิจกรรมที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในด้านการทำงาน โดยในครั้งนี้เอพีได้จับมือกับ “มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป” (MEC) พันธมิตรญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันพัฒนา “LIFE ลาดพร้าว” คอนโดที่ถูกวางให้เป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ในห้าแยกลาดพร้าว
AP Corridor Window Innovation
httpv://youtu.be/_rBhbYCWs2g
“LIFE ลาดพร้าว” เกิดขึ้นพร้อม 2 นวัตกรรมใหม่ “AP Intelligent Space” คิดค้นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นในการพักอาศัย โดยดีไซน์พื้นที่ใช้สอยให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์การใช้งาน มาพร้อมกับ “AP Corridor Window Innovation” นวัตกรรมดีไซน์ที่ออกแบบให้ตัวอาคารสามารถระบายอากาศบริเวณโถงทางเดิน ไม่อับชื้น นวัตกรรมนี้ยังออกแบบโดยคำนึงถึงสภาวะฝนตก ด้วยโครงตาข่าย (grille)3 ชั้นที่ซ่อนอยู่ภายในโครงหน้าต่าง ซึ่งจะช่วยหักเหทิศทางของลม ไม่ให้สายฝนผ่านเข้ามายังโถงทางเดิน ขณะที่อากาศก็ยังสามารถหมุนเวียนได้ตามปกติลดการสะสมของแบคทีเรีย ลดความร้อนได้ตลอดวัน
พื้นที่ส่วนกลางของ “LIFE ลาดพร้าว” เป็นอีกหนึ่งโฟกัสใหญ่ที่น่าสนใจ ด้วยเอพีนั้นชูการผสานเทคโนโลยีเข้าไปในการสร้างพื้นที่ส่วนกลาง โดยการติดตั้ง Infrastructure ที่ให้ความสะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆ พร้อมสัญญาณ Wi-Fi ในทุกจุด
Portable Working Station คือการติดตั้งอุปการณ์ที่รองรับการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้ทุกพื้นที่ส่วนกลาง อย่าง เทคโนโลยีซาวน์โดม (Sound Dome) จอทัชสกรีน (Touchscreen) ผนังของห้องที่คัดสรรวัสดุให้สามารถใช้เป็น Mirror Board หรือ Wireless Phone Charger เป็นต้น
Private Meeting Room พื้นที่สำหรับการทำงานเป็นกลุ่มที่ดีไซน์ขึ้นพร้อมระบบดิจิทัลที่พร้อมใช้งาน อาทิ อุปกรณ์ไร้สายเชื่อมต่อ PC กับจอทัชสกรีน เป็นต้น
Sky Working Space & Cocoon Space ออฟฟิศสเปซชิดขอบฟ้าบนชั้น 45 ที่มองเห็นเมืองได้ไกลสายตา พร้อมติดตั้ง Cocoon Space ให้ เป็น Private Space แม้จะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง ก็สามารถนั่งทำงานได้โดยไม่ถูกรบกวนและสามารถใช้ Wi-Fi ที่จัดเตรียมไว้ให้ได้เช่นกัน
Outdoor Facility แลนด์สเคปนอกอาคารบนพื้นที่สีเขียวขนาด 3 ไร่ จัดวางทางเดินและที่พักผ่อนหย่อนใจในมุมที่ร่มรื่น มีน้ำมีต้นไม้ เพิ่มความเย็นสบายให้รอบๆบริเวณ มาพร้อมพื้นที่ทำงานที่สามารถใช้ Wi-Fi ได้เสมือนอยู่ในอาคาร สำหรับสระว่ายน้ำนั้นถูกดีไซน์ให้เป็น Iconic Infinity Lap Pool พร้อมที่นั่ง Sky Cabana พื้นที่ของการทำกิจกรรมที่ขาดไม่ได้อีกแห่งคือ Panoramic fitness ห้องฟิตเนสมุมกว้าง ที่ให้ความเป็นส่วนตัวไปด้วย Private Treadmill และพิเศษด้วย Yoga Fly facilities
“LIFE ลาดพร้าว” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 7 ไร่ อาคารที่พัก 2 อาคาร สูง 45 ชั้นและ 46 ชั้น จำนวน 1,615 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ สตูดิโอ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26 – 29 ตารางเมตร, ห้องชุด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 35 ตารางเมตร และ ห้องชุด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.5 – 75 ตารางเมตร ตอบรับการเดินทางของวิถีคนเมืองเพียง 1 ก้าวถึงสถานีรถไฟฟ้าห้าแยกลาดพร้าวและด้วย MRT สถานีพหลโยธิน และ BTS สถานีหมอชิต และจุดขึ้น-ลงทางด่วน
LIFE ลาดพร้าว มีมูลค่าโครงการ 7,600 ล้านบาท จำนวน 1,615 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดพรีเซลล์อย่างเป็นทางการในช่วงวันที่ 20 – 21 พฤษภาคมนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ www.apthai.com/คอนโด/life/life-ladprao