ด้วยวิถีชีวิตอันรีบเร่งในแต่ละวัน การจะฝ่ารถติดในกรุงเทพฯ เพื่อไปทานข้าวเย็น หรือช้อปปิ้งหลังเลิกงานในห้างใหญ่ใจกลางเมืองคงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก ทำให้หลายคนเลือกที่จะใช้ชีวิตนอกเวลางานไปกับคอมมูนิตี้มอลล์ หรือศูนย์การค้าขนาดเล็กใกล้บ้านแทน เพราะส่วนใหญ่แต่ละที่จะมีร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน
ทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กรุงเทพฯ มีคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายแห่ง และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นธรรมดาที่ตรงไหนมีคนอยู่เยอะ ตรงนั้นก็จะมีความเจริญ นั่นจึงเป็นคำตอบว่าทำไมคอมมูนิตี้มอลล์จึงแฝงตัวอยู่ได้ทุกที่ ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มองเห็นโอกาสในการลงทุน และเพิ่มมูลค่าให้โครงการที่อยู่อาศัยของตนเอง
ล่าสุด แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยและโครงการมิกซ์ยูส ได้เปิดตัวโครงการ “WHIZDOM 101” Innovative Lifestyle Complex แห่งใหม่ ย่านถนนสุขุมวิท ตั้งอยู่ระหว่างสถานี BTS ปุณณวิถี กับสถานี BTS อุดมสุข ด้วยงบลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท ภายใต้คอนเซปต์ “The Great Good Place” ผสมผสานระหว่างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และที่พักผ่อนได้อย่างลงตัว เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมือง และเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
ก่อนที่ WHIZDOM 101 จะก่อสร้างเสร็จและเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสที่ 4 พ.ศ.2561 เรามากางแผนยุทธศาสตร์ของ WHIZDOM 101 ดูกันก่อนว่า Innovative Lifestyle Complex แห่งใหม่นี้ จะแตกต่างจากคอมมูนิตี้มอลล์แห่งอื่นๆ อย่างไร
เจาะคอนเซปต์ “The Great Good Place”
อย่างที่ทราบกันว่าตอนนี้ในกรุงเทพฯ มีคอมมูนิตี้มอลล์อยู่หลายแห่ง การจะสู้กับเจ้าเดิมที่มีอยู่จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้เล่นรายใหม่จึงต้องสร้างความโดดเด่นให้ตนเองมากขึ้น โดยก่อนเริ่มโครงการ MQDC ได้ทำวิจัยร่วมกับนักวิชาการ ดีไซน์เนอร์ทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงทำวิจัยจากกลุ่ม Lead User เพื่อสัมภาษณ์ และติดตามชีวิตนานกว่า 3 เดือน เพื่อศึกษาว่าพวกเขาต้องการอะไร จนกระทั่งได้คอนเซ็ปต์ “The Great Good Place” ซึ่งประกอบไปด้วย 3 แกนหลัก คือ
• The Great Good Living บ้าน หรือคอนโดมิเนียมสำหรับอยู่อาศัย (First Place)
• The Great Good Working ที่ทำงาน (Second Place)
• The Great Good Socializing สถานที่พักผ่อนหย่อนใจในการทำกิจกรรมร่วมกัน (Third Place)
โดยทั้ง 3 แกนนี้ จะมี Third Place เป็นหัวใจสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างบ้าน และที่ทำงาน ซึ่งจะเกิดเป็น The Great Good Place หรือที่ที่คนใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องเครียดเรื่องการเดินทาง และมีเวลาให้ตัวเอง ทำให้ WHIZDOM 101 ถูกนิยามว่าเป็น Third Place
บนพื้นที่กว่า 43 ไร่บนถนนสุขุมวิท MQDC ได้แบ่งพื้นที่ 65% เป็นพื้นที่เปิดโล่ง และ 30% เป็นพื้นที่สีเขียว อีกทั้งยังมีพื้นที่ที่เป็นตัวอาคารทั้งสิ้นประมาณ 340,000 ตารางเมตร โดยในจำนวนนี้ พื้นที่ 1 ใน 3 จะเป็นส่วนที่พักอาศัย และที่เหลือเป็นพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ แบ่งเป็น 4 โซน ดังนี้
- โซนกีฬาและสุขภาพ มีพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร มีเลนจักรยานและลู่วิ่งลอยฟ้าแบบหลายระดับ (multi-level) ชื่อว่า วิสซ์ดอม แทร็ก (WHIZDOM Track) ภายใน และภายนอกอาคาร มีระยะทาง 1.3 กิโลเมตร
- โซนร้านค้าปลีก มีพื้นที่ประมาณ 40,000 ตารางเมตร ผสมผสานพื้นที่ในอาคารและนอกอาคาร ให้เข้ากับพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ
- โซนสำนักงาน มีพื้นที่ประมาณ 70,000 ตารางเมตร มีคอนเซ็ปต์ในการดีไซน์คือ “Innovative Office Park” ทันสมัย เปิดโล่ง ใกล้ชิดธรรมชาติ รวมทั้งมีพื้นที่การทำงานแบบ Co-Working Space รองรับคนทำงาน และ Startup
- โซนโครงการที่พักอาศัย มีพื้นที่ประมาณ 140,000 ตารางเมตร มีเทคโนโลยี Smart Home Automation System เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน
ระดมทีมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก
เพื่อจัดสรรพื้นที่ทั้งหมดให้ลงตัว MQDC ได้ร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญระดับชั้นนำของโลก ทั้งในด้านการวางแผนโครงสร้าง การออกแบบตกแต่งภายใน การออกแบบภูมิทัศน์ภายนอก อาทิ ร็อคเวล กรุ๊ป บริษัทออกแบบชั้นนำของโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อม และพื้นที่อยู่อาศัย และเกนส์เลอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านงานออกแบบโครงการขนาดใหญ่ในเมืองต่างๆ
จุดเริ่มต้นของ ‘ชีวิตที่ดี’ เกิดขึ้นที่นี่ WHIZDOM 101…The Great Good Place
httpv://youtu.be/AGHhdgvedG8
จะเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ต้องออนไลน์ได้ไม่สะดุด
สิ่งที่ทำให้ WHIZDOM 101 แตกต่างจากคอมมูนิตี้อื่นๆ คือ การเป็นสังคมดิจิทัลที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทย พื้นที่ทั้งหมดจะอยู่บนโครงข่ายดิจิทัลแพลตฟอร์มเดียวกันที่เชื่อมกันเป็นเครือข่ายแบบไร้รอยต่อ เชื่อมต่อด้วย Wifi ความเร็วสูง และในส่วนของพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งหมดของโครงการ ถูกออกแบบในคอนเซ็ปต์ไฮบริด (Hybrid) ที่ผสมผสานพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารเข้าด้วยกัน
ด้วยความที่ WHIZDOM 101 ถูกวางให้เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ร้านค้าหรือโซนต่างๆ จึงออกแบบมาเพื่อรองรับคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ อาทิ ห้องสมุดที่เปิด 24 ชม. มี E-Lab ห้องทดลอง ให้นักเรียน-นักศึกษาได้ใช้ และสร้างคอมมูนิตี้แห่งการเรียนรู้ผ่านอินเตอร์เน็ต สำหรับ Startup หรือคนที่ทำงานดึกๆ ก็มีพื้นที่รองรับตลอด 24 ชม. ในส่วนอื่นๆ ยังมีร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ธนาคาร ร้านซักรีด Pet Shop แฟชั่น และบริการด้านสุขภาพ รวมกว่า 200 ร้าน เรียกได้ว่า WHIZDOM 101 สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้ในทุกมิติ
ในฐานะที่ MQDC เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ การทำโครงการ WHIZDOM 101 จึงไม่ใช่แค่การสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วไป แต่เป็นการเพิ่มมูลค่าโครงการ ภายใต้แนวคิด “ยกระดับพื้นฐานชีวิตคนเมือง” ด้วยการมีชีวิตที่ดีและสมบูรณ์แบบ ผ่านคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนอย่าง “The Great Good Place” เข้าถึงการใช้ชีวิตทั้ง 3 ด้าน The Great Good Living, The Great Good Working และ The Great Good Socializing