อารียา มอบสุขทรียะแห่งการใช้ชีวิต เปิดตัวบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ “THE AVA RESIDENCE” บนทำเลทองผืนสุดท้ายบนถนนสุขุมวิท 77
นายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี กรรมการบริหาร บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทขอนำเสนอความภาคภูมิใจสูงสุดของการใช้ชีวิตเหนือระดับ “The finest reflection of finest living” กรรมสิทธิ์สุดท้ายบนที่สุดของทำเลชีวิตศิวิไลซ์ ในย่านเศรษฐกิจถนนสุขุมวิท 77 ด้วยโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นสไตล์ Modern Luxury สุดหรู “THE AVA RESIDENCE”
โดย THE AVA RESIDENCE รังสรรค์สถาปัตยกรรมอันเรียบหรูของ MAIN ENTRANCE ด้วยการทับซ้อนของเหลี่ยมมุมแบบ ORIGAMI SCULPTURE ART สอดรับกับ PRIVILEGE CLUBHOSE แวดล้อมผู้ถือกรรมสิทธิ์ด้วยดีไซน์และความผ่อนคลายจากธรรมชาติบำบัดโดยรอบภายใต้แนวคิด “ชีวิตสุขทรียะ ชีวิตที่สุขุมวิท” ด้วยขนาดพื้นที่ 61.8 – 90.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยรวม 360 – 620 ตารางเมตร รวมพื้นที่โครงการประมาณ 31-1-37.5 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 2,500 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 25-80 ล้านบาท และเปิดให้จองกรรมสิทธิ์ในเดือนมีนาคมนี้
THE AVA RESIDENCE มอบสุขทรียะแห่งการใช้ชีวิตด้วยดีไซต์ที่เน้นการผสมสานความทันสมัยให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง และตกแต่งให้มีความหรูหรา โอบรอบไปด้วยธรรมชาติทุกแปลงสดชื่นเต็มที่กับอากาศบริสุทธิ์ จากสวนเขียวที่สอดแทรกไปทุกโซนตลอดโครงการ ให้คุณหลีกหนีจากความวุ่นวาย สร้างความเป็นส่วนตัวด้วย Eden Green Line
และสูงสุดของความปรารถนา คือได้เห็นทุกคนอยู่กันอย่างพร้อมหน้าและอบอุ่นด้วย Family Space ขนาดใหญ่เสมือนหัวใจของบ้าน การจัดวางพื้นที่แบบ Open Plan เชื่อมส่วนห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และส่วนเตรียมอาหารเข้าด้วยกัน โอบล้อมด้วย Green Lawn Space ขนาดใหญ่ล้อมรอบพื้นที่ครอบครัวให้เกิด Creative Space ในการออกแบบสวน เพื่อตอบจินตนาการ และไลฟ์สไตล์ของครอบครัว ตัดทุกบริบทแห่งความวุ่นวาย ด้วยห้องนอนขนาดใหญ่ที่ถูกรังสรรค์ให้ทั้งชั้นเป็นอาณาจักรส่วนตัว เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างที่สุด
นอกจากนั้นโครงการ “THE AVA RESIDENCE” ยังมอบระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุด 5 ระดับตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่หน้าโครงการทั้งระบบ Double Gate Securities, CCTV รอบโครงการ, สัญญาณกันขโมยไร้สายมาตรฐานสากลและ VDO Call ซึ่งสามารถติดต่อกับเจ้าของบ้านด้วยระบบเรียลไทม์สามารถเห็นทุกความเคลื่อนไหวภายในบ้าน พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายด้วยระบบเปิด-ปิด ประตูรั้วอัตโนมัติผ่านสมาร์ทโฟน ระบบไฟแสงสว่างโรงรถเปิด – ปิด อัตโนมัติผ่านระบบ PHOTO SENSOR
โครงการ THE AVA RESIDENCE ตั้งอยู่บน ถนนสุขุวิท 77 ซึ่งรายล้อมด้วย อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญๆ ทั้ง THE EMPORIUM, THE EMQUARTIER, THE EMSPHERE, J AVENUE THONGLOR, GATEWAY EKAMAI และ TERMINAL 21 เนื่องจากโครงการดังกล่าวเชื่อมทำเลสำคัญของเมืองด้วยทางเข้าออก 2 เส้นทางหลัก คือ ถนนสุขุมวิท และถนนศรีนครินทร์ สะดวกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท, แอร์พอร์ต ลิงค์ และรถไฟฟ้า MRT สายอนาคต ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนพระราม 9 และ สุขุมวิท 50 และเพียง 15 นาทีถึงแหล่งไลฟ์สไตล์
“บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ ไม่เพียงนำเสนอโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพ และตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังมอบที่สุดของความภาคภูมิใจของการใช้ชีวิตที่ประสบความสำเร็จแก่ลูกค้าด้วย ดังนั้นจึง มั่นใจว่า โครงการ “THE AVA RESIDENCE” จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างดี และเรายินดีที่จะประกาศว่าเราพร้อมดูแลลูกบ้าน “THE AVA RESIDENCE” ตลอดระยะเวลา 5 ปี ซึ่งมากกว่าตามข้อกฎหมายกำหนด เพราะเรารู้ว่าถ้าเราสร้างบ้านที่ดีมีคุณภาพ การดูแลลูกบ้าน 5 ปี ก็เป็นสิ่งที่เรากล้าพูดได้อย่างเต็มความภาคภูมิ” นายวิวัฒน์ กล่าว
นายวิวัฒน์ กล่าวว่าโครงการ THE AVA RESIDENCE สุขุมวิท 77 เป็นหนึ่ง 11 โครงการใหม่ที่อารียา จะเปิดในปีนี้ ซึ่งมีมูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 7 โครงการ แนวสูงหรือคอนโดมิเนียม 4 โครงการ โดยในปี 2560 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตไม่น้อยกว่า 35 – 38 % เมื่อเทียบกับผลประกอบการ
ปี 2559 ซึ่งมียอดขายที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูงเติบโตมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 2558 โดยในปี 2560 จะใช้กลยุทธ์สาคัญ 4 ด้าน คือ ทำเล, ออกแบบดีไซน์, คุณภาพ และการให้บริการทั้งก่อนการขายและหลังการขาย โดยที่อยู่อาศัยแนวราบจะใช้กลยุทธ์ทำสินค้าที่ขายดีและส่งมอบได้เร็ว รวมทั้งบริษัทยังยึดหัวหาดทำเลสำคัญๆ ซึ่งเป็นโครงการขายดีอย่างต่อเนื่อง และยังขยายโครงการในทำเลศักยภาพอื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น บางนา, รังสิต, บางใหญ่ และ ประชาอุทิศ โดยจะมาจากทั้งแนวสูงและแนวราบในสัดส่วน 30-70% นอกจากนั้นยังมีเป้าหมายสำคัญในการขยายตลาดที่อยู่อาศัยแนวสูงไปยังกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งเริ่มทำตลาดลูกค้ากลุ่มนี้ตั้งแต่ปี 2559 ที่ผ่านมาโดยจะเริ่มสร้างผลกำไรให้กับบริษัทในปีนี้เป็นต้นไป
“เป้าปีนี้เราอยากโอน 6,400 ล้าน ภายใต้กลยุทธ์การใช้ฟังก์ชั่นและดีไซน์บ้านที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างสมัยใหม่ และสุดท้ายนโยบายหลักที่เน้นเรื่องการบริการ คือการดูแลลูกบ้านทั้งก่อนและหลังการขายไม่ว่าโซนไหนลูกค้าต้องการสินค้าคุณภาพ ดูแลดี เชื่อถือได้ เรามีสิ่งนั้นให้กับลูกค้าครบทุกประการ” นายวิวัฒน์ กล่าว
