3 ทัศนะ จากผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จ ในการทำธุรกิจยุคดิจิทัล

  • 163
  •  
  •  
  •  
  •  

crop2

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดตัว สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (New Economy Academy) หรือ สถาบัน NEA อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นศูนย์กลางรวบรวมหลักสูตรการพัฒนาและฝึกอบรมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง และ ขนาดย่อม สู่การเป็นสมาร์ทเอสเอ็มอี (Smart SMEs) สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งให้กับ เศรษฐกิจภายในประเทศ (Local Economy) โดยการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากขับเคลื่อนการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ของประเทศตามโมเดลไทยแลนด์ 4.0 รองรับการเข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ โดยนำนวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ และเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นตัวขับเคลื่อนพร้อมเชื่อมโยงเศรษฐกิจภายในประเทศสู่เศรษฐกิจระดับภูมิภาคและในระดับโลก

BRD_1226-700

พร้อมกันนี้ภายในงานยังได้จัดงานเสวนาเรื่อง “เถ้าแก่ยุคดิจิทัล แชร์จริง ไม่มีกั๊ก” โดยผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ ได้แก่ คุณโชคยิ่ง พิทักษากร ผู้บริหารบริษัท ซี.โอ. สวนสระแก้ว จำกัด (ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล Thailand Trust Mark), คุณสุทธิสินธุ์ อัครพลโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษณาเฮลท์ตี้โปรดักส์ จำกัด (ผู้ประกอบการที่ผ่านการพัฒนาภายใต้โครงการต้นกล้า ทู โกล) และ คุณชลัฐ เตชะวีรภัทร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะโคลเวอร์ จำกัด (ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ Thaitrade.com) มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

ว่าด้วยเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้กับการทำธุรกิจ คุณโชคยิ่ง เผยว่า ตอนนี้เราอยู่ในยุค Digital Society ทุกคนขาดมือถือไม่ได้ เมื่อผู้บริโภคอยู่ที่ไหนมากที่สุด แบรนด์ต้องตามไปให้เจอ ทำให้แบรนด์ต้องปรับเปลี่ยน ขยับเข้าหาผู้บริโภคอยู่ตลอดเลา อันดับแรกเราต้องรู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร จะทำโฆษณาหรือการตลาดอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องเน้นการสื่อสารแบบสองทางระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ซึ่ง Social Media จะเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีมาก ยกตัวอย่างเช่น ขณะนี้ผู้บริโภคต้องการสินค้าที่ปลอดภัยต่อตัวเอง ต้องการข้อมูลที่เชื่อถือได้จากแบรนด์/ผู้ผลิต บริษัทฯ ก็พิมพ์ QR Code ลงไปบนผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ลูกค้าสแกนดูเรื่องราวของสินค้าว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เป็นการสร้างความเชื่อมั่นก่อนตัดสินใจซื้อ

ทั้งนี้ อยากฝากถึงผู้ประกอบการยุคนี้ว่า Digital Society มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา หากแบรนด์ไม่เริ่มปรับตัวตั้งแต่ตอนนี้ ก็มีสิทธิ์ไม่ประสบความสำเร็จ

ด้าน คุณสุทธิสินธุ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ต้องทำธุรกิจแบบบูรณาการ ทุกอย่างต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจ อันดับแรกที่ต้องมีคือ พันธมิตร หรือเครือข่าย, 2. ต้องสร้างคอนเท้นต์ สร้าง Story ให้สินค้า และ 3. มีช่องทาง Social Media

สำหรับธุรกิจครอบครัว ถ้าวันนี้ผู้ประกอบการรุ่นพ่อแม่ยังไม่เปลี่ยน หรือปรับตัวไม่ทัน ก็ควรปล่อยให้คน Gen ใหม่เข้ามาช่วย อย่าปล่อยให้ทัศนคติหรือความรั้นมาทำให้ธุรกิจล้ม โดยรวมแล้ว การทำธุรกิจต้องมีใจรัก มีแรงบันดาลใจ มีความละเอียด ต้องสร้างความแตกต่าง และสินค้าต้องมีคุณภาพ

คุณชลัฐ ได้กล่าวถึงการใช้ช่องทางดิจิทัลกับการทำธุรกิจในทุกวันนี้ว่า โลกเราได้เปลี่ยนไปแล้ว ยี่ปั๊วหรือผู้ค้าส่งก็ค่อยๆ หายไป เพราะแบรนด์สามารถขายสินค้าไปยังผู้บริโภคได้โดยตรง และง่ายขึ้น ลดขั้นตอน กระบวนการต่างๆ ไปได้มาก ทำให้ตอนนี้แบรนด์ต้องปรับตัว หาความรู้เรื่องการตลาดออนไลน์ เรียนรู้การใช้ Google Adword การทำเว็บไซต์ให้รองรับกับการใช้งานในทุกอุปกรณ์ รวมถึงการใช้ Social Media (LINE, Facebook และ Instagram) ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจที่สุด เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังวงกว้าง และทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น

แบรนด์ต้องรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร สินค้าต้องมีเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทฯ เราเป็นผู้ผลิตรองเท้าจากยางพารา เป็น ECO Product มีการใช้เทคโนโลยีผสานเข้ามาเพื่อทำให้เกิดจุดเด่น และแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ซึ่งการจะทำให้แบรนด์ติดตลาด ติดหน้าแรกของ Google ได้โดยไม่ต้องเสียเงิน่ไม่ใช่เรื่องยาก จากประสบการณ์ที่ทำธุรกิจมา สิ่งสำคัญคือ ต้องทำต่อเนื่อง และทำทุกวัน

การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าได้

ตอนนี้ออนไลน์คือ ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่จะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี ไม่ใช่แค่การโฆษณาหว่าน โดยไม่มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย อย่าลืมว่าออนไลน์สามารถทำให้แบรนด์เติบโตได้ การใช้ Social Media ก็สำคัญไม่แพ้กัน ในส่วนของบริษัทฯ ได้ใช้ Facebook เพื่อแบ่งประเภทธุรกิจ เช่น Facebook สำหรับรับออกแบบสินค้า (รองเท้า), Facebook ของแบรนด์, Facebook สำหรับการรับจ้างผลิต OEM เป็นต้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกส่วน

โลกเปลี่ยนไปแล้ว แบรนด์ก็ต้องเปลี่ยนตามให้ทัน เมื่อกระแส Social Media เข้ามา แบรนด์ก็ต้องนำมาใช้ เพื่อสร้างการรับรู้ ทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความอยากรู้อยากลอง เราไม่ลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้ ก็ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่พร้อมจะทำ หรืออาจทำได้ดีกว่าเราด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่เวลาที่จะลังเล แต่เป็นเวลาของการลงมือทำ

คงต้องบอกว่าตอนนี้ออนไลน์ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกแบรนด์ต้องมี ถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ใครเปลี่ยนก่อน และปรับตัวได้เร็วกว่า ย่อมได้เปรียบ

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้ารับการอบรมตามหลักสูตรและโครงการต่างๆ ของสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการ การค้ายุคใหม่ (New Economy Academy) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nea.ditp.go.th


  • 163
  •  
  •  
  •  
  •