งานเทศกาลถือเป็นอีกช่วงเวลาสำคัญของการดำเนินธุรกิจ เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่สามารถเร่งทำเงินได้ในช่วงนี้ ซึ่งในบทความนี้เราจะนำการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่แบรนด์อย่าง Calvin Klein สามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้สูงถึง 50% เมื่อแคมเปญวาเลนไทน์ที่จีนปีที่แล้ว (2016) โดยเป็นการทำงานร่วมกับ WeChat ผ่านสื่อเอาท์ดอร์ได้อย่างน่าสนใจ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 กับเทศกาลวาเลนไทนส์จีน ในปีนั้น Calvin Klein ลอนช์แคมเปญออกที่จีน โดยเลือกใช้งานสื่อแบบ Interactive outdoor screens เพื่อสนับสนุนให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาใช้การสแกน QR Code และแชร์ภาพของตัวเองกับเพื่อนบน WeChat แอพฯ แชทยอดนิยมที่สุดในจีน โดยการให้ลุ้นรับของรางวัล และโอกาสที่คุณจะได้ขึ้นบนหน้าจอยักษ์ด้วยใบหน้าของคุณเอง
Marci Wu, Business director แห่ง Kinetic China เอเจนซี่ที่อยู่เบื้องหลังแคมเปญ กล่าวว่า ไอเดียนี้มุ่งไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีนิสัยชอบโชว์ออฟ
“คนจีนกลุ่ม Millennials และ GenZ ชอบที่จะโชว์ออฟ ดังนั้น CK จึงเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้อัพโหลดภาพของตัวเองขึ้นบนจอ LED ขนาดใหญ่ ซึ่งจะเรียกความสนใจของคนที่ผ่านไปมาด้วย และทำให้คนเหล่านั้นมีความรู้สึกอยากที่จะเอาภาพของตัวขึ้นไปบ้าง”
ฟังดูอาจจะเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดธรรมดาที่เล่นกับแอพฯ และเอาขึ้นหน้าจอ แต่ Benjamin Bourinat, Global director of social media ที่ Kinetic กล่าว่าสิ่งที่ทำให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จก็คือเราต้องรู้ว่า จุดจบของการเดินทางนั้นควรเป็นที่ไหน
“เราประสบความสำเร็จกับการใช้โมบายสแกนนิ่งไปทั่วโลก แต่ยังมีแท็กติกอื่นอีกซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดคอนเวนชั่น เช่น แชทบ็อท, โฆษณา และแม้แต่ AR โดยสเต็ปแรกคือต้องเข้าใจว่าจุดจบของการเดินทางควรจะเป็นที่ไหน โดยจะต้องระบุโลเคชั่นให้ชัดเจน เช่น ไปที่เว็บไซต์ E-Commerce เป็นต้น ดังนั้น เราจึงควรวางแผนเรื่องการสร้าง Mobile Experience ให้ไปในทิศทางนั้น สเต็ปที่ 2 คือการทำให้แน่ใจว่า ประสบการณ์ที่สร้างขึ้นหรือบริบทต่างๆ นั้นต้องเชื่อมโยงกับสิ่งที่ผู้คนต้องการที่จะแสดงออกมาด้วย
ในกรณีของ WeChat นั้น เราจะเรียกว่าเป็น ‘Super App’ ซึ่งจะทำหน้าที่อินทิเกรตกับช่องทางโซเชียลฯ อื่นๆ เช่น Facebook, WhatsApp, Tinder, Instagram, Snapchat เข้าด้วยกัน โดยใช้แพล็ทฟอร์มนี้เป็นสะพานเชื่อมไปมาระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ หลังจากการอัพโหลดภาพและข้อความบน WeChat ผู้เล่นก็จะได้รางวัลจากการซื้อสินค้าในสโตร์ของ CK ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายได้”
ทั้งนี้ ตามข้อมูลจาก Kinetic ยังระบุว่า หลังปล่อยเกมนี้ออกไปในเวลา 1 ชั่วโมง มีคน 808 คนที่สแกนโค้ดนี้ และ 504 คนที่อัพโหลดภาพขึ้นไป โดยมี 76 ถูกคัดเลือกขึ้นโชว์บนจอ LED นอกจากนี้ แคมเปญดังกล่าวยังช่วยเพิ่มทราฟฟิคในการช่วยให้คนเข้าสโตร์เพิ่มขึ้นอีกด้วย และหนึ่งในร้านสโตร์ยังพบว่าช่วยผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นถึง 50% เลยทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน
สำหรับ Tencent เป็นเจ้าของแอพฯ WeChat ซึ่งล่าสุดประกาศถึงการเจริญเติบโตในระดับโลก และมุ่งที่จะช่วยแบรนด์ต่างประเทศให้เข้าใจแพล็ทฟอร์ม WeChat มากขึ้น.
