ผ่าความคิด Andrew Bosworth กุนซือของ Mark Zuckerberg

  • 257
  •  
  •  
  •  
  •  

Andrew Bosworth รองประธานฝ่ายโฆษณาและธุรกิจดูแล New Feeds และกลยุทธ์โฆษณาบนมือถือ และอยู่กับ Facebook มานานจะมาแบ่งปันมุมมองต่อผู้คนที่ใช้แพลตฟอร์มให้เกิดประโยชน์

และนี่คือ 3 สิ่งที่กุนซือคนสนิทของ Mark Zuckerberg ต้องการเห็นในปี 2017

c

ส่งเสริมผู้คนไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวันบ่อยเท่าที่ควร

“ผมพยายามจะตามเทรนด์ดีไวซ์ที่มีความสามารถอยู่หลายๆตัว ดูว่ามันทำอะไรได้บ้าง ถ่ายรูปได้มั้ย ระบุตำแหน่งได้มั้ย ดีไวซ์มีทุกอย่างที่เราต้องการ และเราก็ไม่ได้ใช้มันในโลกออฟไลน์ได้บ่อยเท่าที่ผมคตาดไว้” Bosworth กล่าว “ผมหมายถึง ถ้าผมบอกคุณว่าคุณมีดีไวซ์อยู่เครื่องหนึ่ง คุณจะนึกว่าคุณกำลังใช้มันสำหรับเรื่องปรกติในชีวิตประจำวัน นอกจากแผนที่แล้ว เราได้ใช้ดีไวซ์ย้ายตัวเองเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ตด้วย”

14059743902_688e19663f_o

จากนั้นค่อยเจาะกลุ่มเจาะจงในเครือข่ายดิจิทัลต้นทุนสูง Bosworth เห็นว่า Facebook ควรช่วยคนสั่งอาหารตรงๆได้ ซื้อตั๋วในงานอีเวนท์ต่างๆได้ บอกเราได้ว่าจะทำอะไรดีในคืนวันเสาร์ ช่วยเราช้อปปิ้งจนกว่าจะพอใจผ่านแอปฯ บางอย่างได้เกิดขึ้นแล้ว เพราะ Facebook รวม Chatbot ที่ช่วยให้คนได้สั่งของผ่านบุคคลที่สาม และอื่นๆที่กำลังจะตามมา เช่นการนำคำแนะนำด้านบริการของ Facebook ไปเรียกร้องไอเดียและแรงสนับสนุนจากเพื่อนในเมืองต่างๆ

“ผมคิดว่าปี 2017 ควรจะเป็นเวลาที่เราจะลดสิ่งรบกวนในชีวิตประจำวันบ้างและใช้ชีวิตง่ายขึ้นได้แล้ว” Bosworth กล่าว “เรื่องเล็กๆน้อยๆที่สร้างความน่ารำคาญเราควรจะเพลงๆลงบ้าง เราควรจะสร้างดีไวซ์ที่เราไม่ได้แค่ใช้มัน แต่มันต้องทำให้ชีวิตเราดีขึ้นด้วย”

 

ใช้ข้อมูลผู้ใช้งานและความคิดสร้างสรรค์ที่ดีกว่านี้

Bosworth บอกว่าโฆษณาที่ใช้Artificial Intelligence สื่อสารเจาะไปแต่ละคน และการซื้อสื่อที่เหมาะกับแต่ละคนช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจสินค้าและบริการที่เหมาะกับเขาจริงๆ อย่างไรก็ตาม Bosworth บอกว่า Facebook ทำได้อย่างมากก็เข้าไปจัดการระบบ แบรนด์ต้องมีข้องมูลของกลุ่มเป้าหมาย มีความคิดสร้างสรรค์ และต้องตามเกมธุรกิจให้ทันด้วย

“เพราะสุดท้ายแล้ว ความสามารถของเราทำให้ให้เกิดผลจริงๆก็ต้องดีพอๆกับความคิดสร้างสรรค์และลูกค้าเป้าหมายที่เรามีด้วย”

mk-cd301_faceip_p_20130516174900

ยกตัวอย่าง Sony Pictures ที่ใช้ Facebook เล็งเป้าหมายไปที่หนังเรื่องเดียวกับผู้ชมหลายกลุ่มโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวโพสต์ต่างกัน เมื่อปีที่แล้ว หนังสะเทือนขวัญเอาตัวรอดอย่าง The Shallows ซึ่ง Sony ได้ปล่อยโฆษณาเล็งไปหลายๆกลุ่มได้แก่วับรุ่น แฟนฟนังสยองขวัญ แฟนเซิร์ฟ และผู้ใหญ่

“ผมคิดว่าสิ่งที่คุณได้ยินจาก Sony ก็คือแทนที่คุณจะทำงานโฆษณาสร้งสรรค์แค่ชิ้นเดียว นักการตลาดหรือฝ่ายครีเอทีฟควรทดลองงานโฆษณาหลายๆตัวหลายๆอย่างกับผู้ชมหลายๆคน จากนั้นค่อยมาดูว่างานโฆษณาตัวไหนที่เข้าท่า เน้นโฆษณาตัวนั้น องค์ประกอบตัวไหนของโฆษณาที่ไม่ใช่ก็ตัดทิ้งไป”

Bosworth ยังให้ข้อสังเกตกับตัวนักการตลาดในวงการเกมและอีคอมร์ซด้วย พวกนี้จะรู้ดีที่สุดว่างานไหนปล่อยไปแล้วมีประสิทธิภาพหรือไม่

“ลองคิดดูดีๆ ถ้าผมเป็นบริษัทเกม ผมจะบอกได้ทันทีว่าคุณติดตั้งเกมหือไม่ และนั่นก็ทำให้ผมเห็นว่าโฆษณาที่ปล่อยไปมีประสิทธิภาพหรือไม่ด้วย”

 

พัฒนาความโปร่งใสในการวัดค่า

หลังจาก Facebook ออกมายอมรับว่าจำนวนยอดวิวในคลิปวีดีโอของแต่ละคนนั้นมีความผิดพลาดขึ้นจริงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

ซึ่งรองประธาน global marketing solutions ของ Facebook อย่าง Caroline Everson ออกมายอมรับว่าบริษัทฯไม่ได้บอกข้อมูลสถิติที่ผิดๆให้เร็วกว่านี้ ซึ่ง Bosworth พยายามอธิบายว่า Facebook ต้องโปร่งใสขึ้นในปีหน้า

carolyn-everson-facebook

“ไม่มีทางที่พวกเราจะสมบูรณ์เพอร์เฟ็ค แต่เราคิดว่าเรายึดเรื่องความโปร่งใส่ในทุกๆเรื่อง เอาจริงๆเรื่องค่าวัดวีดีโอเป็นเรื่องเล็กสำหรับเรามาก

 

 

แหล่งที่มา

http://www.adweek.com/news/technology/what-facebooks-head-advertising-wants-see-happen-2017-175417


  • 257
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th