นิยามใหม่ของ Social Network ที่ Snapchat สร้างขึ้นมาใหม่

  • 96
  •  
  •  
  •  
  •  

ในตอนนี้มีบริการ Social Network หนึ่งที่ทั้งโลกกำลังจับตามอง นั้นคือ Snapchat เพราะด้วยอัตราการเติบโตของ User อีกทั้งผู้ก่อตั้งที่มีประวัติคล้ายกับ Mark Zuckerberg อย่างมาก และกำลังจะเข้า IPO เร็ว ๆ นี้ด้วยมูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และกำลังมีนวัตกรรมใหม่ ๆ มากมายที่ออกมาเขย่าบัลลังก์ Facebook อยู่ตอนนี้

httpv://www.youtube.com/watch?v=Hiv4KeoBeuo

ก่อนอื่นต้องมารู้จัก Snapchat ก่อน Snapchat นั้นเป็น Social Network ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2011 ด้วยการเป็น Platform ที่ให้ผู้ใช้นั้นสามารถส่งข้อความโดยเฉพาะภาพถ่าย และภาพนั้นจะสามารถหายไปในเวลาที่กำหนด ซึ่งในปี 2011 นั้น Snapchat ใช้ชื่อว่า Picaboo และเมื่อมีปัญหาระหว่าง Founder กัน ทำให้ Founder 2 ใน 3 เอา Picaboo มาทำต่อเองแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Snapchat ต่อมาโดยยังคง Concept การที่สามารถส่งไฟล์ต่าง ๆ แล้วไฟล์นั้นจะหายไปได้ นอกจากนี้ยังเพิ่ม Features อย่างการเขียน Caption และการตกแต่งวิดีโอและภาพเข้าไป ซึ่งด้วยตัวเลขที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากปี 2011 มาปี 2012 ทำให้ Mark Zuckerberg สนใจใน Snapchat อย่างมาก และพยายามติดต่อขอเข้าไปเป็น Partner ในช่วงแรก แต่เมื่อได้รับการปฏิเสธทำให้ Mark Zuckerberg พยายามจะสร้างบริการแบบเดียวกันเพื่อมาทำลาย Snapchat ในชื่อ  Poke แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อสิ้นปี 2012 เมื่อเอาชนะไม่ได้ Mark Zuckerberg ก็พยายามขอซื้อด้วยมูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา แต่ก็ไม่สำเร็จอีกเช่นกัน ซึ่งในช่วงเวลานั้น Snapchat ไม่มีอะไรรายได้จากการใช้บริการ ไม่มีโมเดลทางธุรกิจและไม่มีโมเดลทางการหารายได้ สิ่งที่มีอย่างเดียวคือตัวเลขผู้ใช้กว่า 150 ล้านคนต่อวัน

forbes-30-under-30-in-tech-raised-550-5m-in-funding-snapchat_1ทำไม Snapchat ถึงฮิตขึ้นมาได้ นั้นคือเกิดการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เกิดขึ้นมาในอเมริกา เพราะเมื่อ Facebook โตขึ้นทำให้คนเล่น Facebook นั้นมีตั้งแต่วัยรุ่นจนไปถึงวัยผู้ใหญ่ ซึ่งอายุเฉลี่ยของผู้ใช้ Facebook ตอนนี้อยู่ที่ช่วงอายุ 40 ปี สิ่งที่เกิดขึ้นคือวัยรุ่นที่เรียนในวัยมัธยมนั้นถูกพ่อแม่ขอมาเป็นเพื่อน หรือโดนครูและโรงเรียนเข้ามาติดตาม (คนทั่วไปก็อาจจะเจอเจ้านายของมาเป็นเพื่อนเช่นกัน) ทำให้เวลาโพสอะไรในนั้นไม่ได้กลายเป็นเรื่องส่วนตัวที่คุยกันอีกต่อไป และข้อความนั้นจะคงอยู่ใน Facebook ตลอดกาล ทำให้เด็ก ๆ นั้นรู้สึกว่า Facebook นั้นไม่เท่ในการใช้งานอีกต่อไป ไม่รู้สึกในความส่วนตัว แถมทำอะไรก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ทันที นอกจากนี้ตามโรงเรียนก็ยัง Block การใช้ Facebook อีก เมื่อ Snapchat มาถึงทำให้สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ทันที เพราะวัยรุ่นสามารถส่งข้อความต่าง ๆ ได้ แถมข้อความนั้นจะทำลายตัวเองในเวลาที่กำหนดไว้ และไม่ถูกเก็บไว้ด้วย ทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่าโพสอะไรไป แถมยังมีโหมด Live ทำให้คนสามารถเห็นได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในจังหวะนั้น ๆ ด้วย ซึ่งด้วยฟีเจอร์ที่ถูกใจวัยรุ่นนี้ ทำให้ Snapchat นั้นมีอายุผู้ใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 18 ปีเท่านั้น

chartoftheday_5183_snapchat_usage_by_age_group_n

Joseph B. Bayer ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย Ohio ในด้านการสื่อสาร ได้ทำการศึกษาว่า Snapchat นั้นนั้นมีผลต่อการสื่อสารของผู้บริโภคอย่างไร ทำให้ค้นพบว่าสิ่งที่ Snapchat ทำคือการคิดใหม่ทำใหม่กับสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการมากกว่าการสร้างนวัตกรรมจากสิ่งที่มีมาในแต่อดีต ด้วยการที่คิดว่าสิ่งที่โพสนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่ในออนไลน์อีกต่อไปและสามารถหายไปจากการโพสขึ้นไปได้ ทำให้เกิดความคิดที่อยากจะใช้งานมากขึ้นไปอีกในหมู่ผู้บริโภค เพราะทำให้ความกลัวว่าสิ่งที่โพสไปจะตามมาหลอกหลอนนั้นหมดไปด้วย นอกจากนี้ด้วยระบบ Platform ของ Snapchat ที่ข้อความจะหายไป ทำให้สิ่งที่มีมาในอดีตอย่างที่เรียกว่าความ Viral นั้นไม่มีใน Snapchat ด้วย แต่สิ่งที่ Snapchat มอบให้คือความสดของเนื้อหาที่ทำให้คนที่เล่น Social Network นี้ต้องติดตามคนที่อยากติดตามตลอดเวลา เพราะเมื่อพลาดไปแล้วจะไม่สามารถดูได้เลย ซึ่งจะเหมือนเป็นการดูการแสดงเวทีมากกว่า

37af90b000000578-3763791-image-m-27_1472491306090

นอกจากนี้สิ่งที่ Snapchat เรียงเนื้อหาด้านในในรูปแบบที่ content สดใหม่มาก่อน นอกจากจะเป็น Content ที่ฮิตกัน และยังจ้างคนที่มาจัดการ Content เพื่อให้คลิปต่าง ๆ ที่เข้ามาอยู่นั้นมีความหมายในเชิงลึกมากขึ้นไปอีก โดยเป็นภาพคลิปที่เรียงจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ ด้วย สิ่งที่ Snapchat มองแตกต่างจาก Facebook หรืออื่น ๆ คือการมองตัวเองเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับกล้อง และสร้างการที่คนจะสามารถถ่ายทอดภาพต่าง ๆ จากกล้องได้ และทำให้เกิดนวัตกรรมอย่าง Spectacles ขึ้นมา

httpv://www.youtube.com/watch?v=XqkOFLBSJR8

ด้วยการมาของ Snapchat ที่มีวิธีคิดที่เข้ากับวัยรุ่นมากขึ้น และเข้าใจความต้องการของคนเล่นอินเทอร์เนตในยุคนี้ที่ไม่อยากถูกติดตามจากคนที่อยากมาติดตาม ไม่อยากให้ข้อความที่โพสนั้นอยู่ไปตลอดกาล เป็นสิ่งที่แบรนด์นั้นต้องเรียนรู้และเตรียมตัวรับมือในพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่จะหายไปจาก Facebook แล้วย้ายไปอยู่ใน Platform ใหม่ ๆ ที่เหมาะกับเค้ามากขึ้น


  • 96
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ