เมื่อ VR ในอนาคตจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้แบบหนึ่งในชีวิต

เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าวที่น่าสนใจและน่าจะเป็นก้าวสำคัญของวงการ VR หรือ Virtual Reality ที่กีฬาที่คนติดตามทั้งโลกอย่าง NBA นั้นจะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันในรูปแบบ VR ตลอดฤดูกาล แถมเซ็นต์สัญญาไปอีกหลายปีด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีการประกาศความร่วมมือของ Toyota กับ USA Today ที่จะร่วมกันทำโครงการ VR ขึ้นมา ทำให้วงการ VR นี้มีอนาคตที่น่าจับตาขึ้นมาว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

ก่อนหน้านั้นไม่นานเราได้เห็นการนำเสนอที่สำคัญจากวงการเทคโนโลยีอย่าง Facebook ที่ได้โชว์ตัว Platform Oculus ว่าสามารถจะทำอะไรที่เชื่อมระหว่าง VR และโลกของ Social ของ Facebook ได้ ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับนักพัฒนาและผู้บริโภคหลาย ๆ คนได้ตื่นตะลึงกันในความสามารถของ VR ที่ Facebook นอกจาก Facebook เอง ก็ยังมี Google ที่ได้เคยมานำเสนอ VR ของตัวเองในชื่อ Daydream ที่กำลังสร้างความสนใจในตอนนี้เช่นกัน เมื่อไปตั้ง Pop up store ที่เมืองนิวยอร์ค ภาพตอนนี้เราคงเห็นได้แล้วว่า VR นี้จะมาแน่นอน และจะกลายเป็นเหมือนเครื่องมือสำคัญที่ทำให้สามารถสร้างประสบการณ์แบบใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภคได้ในอนาคตต่อไป

httpv://www.youtube.com/watch?v=YuIgyKLPt3s

จากงาน Advertising Week ที่ผ่านมา มีการพูดถึงหัวข้อเรื่อง VR อย่างมากมายและได้โชว์ศักยภาพของ VR ว่าทำอะไรได้ และอนาคตจะสดใสแค่ไหน ซึ่งในงานเองนั้นก็มีการยอมรับอย่างตรง ๆ ว่า VR ในตอนนี้ที่เพิ่งกลับมามีกระแสอีกครั้งนั้น เป็นเพราะเทคโนโลยีในตอนนี้ที่สามารถสนับสนุนการทำงานของ VR ได้ดีขึ้น และอุตสาหกรรม VR เพิ่งกลับมาตั้งไข่อีกครั้ง แต่มีอนาคตที่สดใสแน่นอน เพราะตอนนี้ VR นั้นถูกผลักดันด้วยอุตสาหกรรมหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่กำลังแข่งขันกันสร้าง Platform และอุปกรณ์ออกมาเพื่อผู้บริโภค อุตสาหกรรมด้านเนื้อหาอย่างวงการข่าวก็มีการสร้างเนื้อหา VR มากมาย เช่นอย่าง Newyork Times หรือ Financial Times และอุตสาหกรรมบันเทิงอย่าง Hollywood ที่ร่วมกันลงขันมาทำบริษัทที่ผลิตเนื้อหาที่จะเอาไว้ใช้ในการโปรโมทภาพยนต์และซีรีย์ต่าง ๆ ที่หลาย ๆ คนได้เคยลองเล่นไปแล้วอย่าง Game of Thrones, Suicide Squad หรือ The walk เอง ที่ออกมาสร้างประสบการณ์ให้ผู้คนนั้นได้เหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงนั้น ๆ ทั้งนี้ในงาน Advertising Week มองว่าอุปกรณ์ VR นั้นจะมีความสำคัญอย่างมากแต่ผู้บริโภคในอนาคต โดยผู้บรรยายและวิทยากรบนเวที รวมทั้งสมาคม VR ในอเมริกามองว่า VR จะกลายเป็น Entertainment Device รูปแบบใหม่ที่คนจะต้องมาติดบ้านหรือพกพาไปไหนต่อไหนตลอดเวลาอย่างแน่นอน

httpv://www.youtube.com/watch?v=nyoO-NI3Ge4

แต่ความท้าทายของ VR นั้นก็ยังมีอยู่ในปัจจุบันเช่นกัน เพราะด้วยตอนนี้การแข่งขันของ VR นั้นยังคงอยู่ ทำให้ยังไม่มีมาตรฐานของการพัฒนาเนื้อหาของ VR หรือระบบที่จะเข้าไปสร้างแอพพลิเคชั่นใน VR ต่าง ๆ ยังไง ซึ่งต่อไปนี้จะเป็นการแข่งขันว่า Platform ของใครจะได้รับความนิยมที่สุดเพื่อที่จะกลายเป็นมาตรฐานของการพัฒนาได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องราคาของอุปกรณ์ที่ยังมีราคาแพงอยู่ หรือต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีพลังในการแสดงผลต่าง ๆ ทั้งนี้หลาย ๆ ผู้ผลิตอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นกำลังพยายามแข่งขันกันทำให้ราคานั้นถูกลงให้ได้มากที่สุด เพราะเมื่อราคาถูกลงมากเท่าไหร่ ก็สามารถทำให้ผู้บริโภคต่าง ๆ สามารถเข้าถึงอุปกรณ์นี้ได้ง่ายมากที่สุด จากราคาอุปกรณ์ที่แพงไป ก็ยังมีเรื่องราคาของการผลิตเนื้อหาที่ยังคงมีราคาสูงอยู่ ซึ่งในทางผู้ผลิต VR นั้นมองว่าเนื้อหาการสร้าง VR ในตอนนี้ก็เหมือนตอนที่ผลิตภาพยนตร์ใหม่ ๆ ซึ่งเมื่อมีความนิยมเพิ่มมากขึ้นราคาของการผลิตเนื้อหานั้นจะลดลงอย่างแน่นอน

ความท้าทายของ VR ในอนาคตนั้นคือการสร้างปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ ให้ได้ดี และสามารถเข้าเชื่อมกับสังคมต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้ในปัจจุบันการปฏิสัมพันธ์นั้นจะต้องทำผ่านการมอง แต่ก็เริ่มมีถุงมือหรืออุปกรณ์ควบคุมออกมาเพื่อให้สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ ใน VR ได้ นอกจากนี้ VR ของ Facebook เองก็ยังได้แสดงว่า Social Network จะทำงานอย่างไรใน VR และคุณจะสามารถปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ ใน Social ได้อย่างไร ซึ่งหากทำให้การปฏิสัมพันธ์ โดยเฉพาะสัมผัสของมือที่สามารถหยิบจับได้ นี้จะเป็นก้าวสำคัญที่สามารถทำให้มนุษย์เข้าไปสู่โลกเสมือนและทำให้ประสบการณ์เสมือนนั้นจะเหมือนจริงมากขึ้น

httpv://www.youtube.com/watch?v=rLLAA4ENIP4

อนาคตของ VR นั้นมาแน่นอน และสิ่งที่ VR กำลังมุ่งไปคือการกลายเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ทุกคนจะพกพาหรือต้องมีติดตัวไว้ สามารถเล่นที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ และสามารถปฏิสัมพันธ์กับสังคมได้ด้วย ซึ่งแต่ละความท้าทายที่ VR กำลังเจอนั้นกำลังถูกแก้ไขไปทีละเล็กละน้อย และแน่นอนเราคงได้เห็น VR มาตั้งอยู่ในบ้านทุก ๆ คนในเร็ว ๆ วันนี้อย่างแน่นอน