เมื่อคุณไปหานักลงทุนเพื่อนำเสนอไอเดียธุรกิจใหม่คุณสาธยายโมเดลในการทำธุรกิจ และแผนการเงิน และเรื่องการตลาด และโน่นนั่นนี่ แต่อะไรล่ะคือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ผู้ร่วมลงทุน ตัดสินใจลงขันงั้นหรือ?
มันไม่ใช่ใครที่ไหนคุณ! ใช่เลย คุณนั่นแหละคือสิ่งที่ผู้ร่วมลงทุนมองหา เพราะฉะนั้น จุดประสงค์ทั้งหมดในการนำเสนอต่อผู้ร่วมลงทุน คือทำให้พวกเขาเชื่อว่า คุณเป็นผู้ประกอบการที่พวกเขาจะลงทุนแล้วทำกำไรมหาศาล
เดวิด โรส เจ้าของฉายา “ผู้ประกอบการพิชิตโลก” ซีอีโอแห่ง Gust บริษัทที่ทำแพลตฟอร์มให้สตาร์ทอัพกว่า 3 แสน ผันตัวมาเป็นนักลงทุนต่อเนื่อง ที่หาเงินได้นับสิบๆล้านเหรียญ จากผู้ร่วมลงทุนด้วยการนำเสนอ PowerPoint และดูแลการลงทุนมูลค่านับสิบล้านเหรียญในบริษัทต่างๆ จะมาบอก 9 คุณสมบัติสำคัญที่คุณต้องนำเสนอให้นักลงทุนต่อเนื่อง “ภายใน 10 นาทีเท่านั้น”
ไม่งั้นเขาก็ปฎิเสธคุณ
- ไม่ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา
คุณคงไม่แค่เดินเข้าไปหานักลงทุนแล้วบอกว่า “สวัสดีครับ ผมเป็นคนดีจริงๆนะ ดิฉันเป็นคนดีๆจริงๆนะคะ” หรอ? คุณมีเวลาแค่ไม่กี่นาทีนำเสนอต่อผู้ร่วมลงทุน ความสนใจของคนเรามักจะตกลงหลังจากเริ่มไปได้ 18 ดังนั้นใน 18 นาทีนั้น, หรือแค่ 10 นาที หรือห้านาที คุณจะต้องแสดงคุณลักษณะนับสิบลักษณะ
ฉะนั้นอย่างแรกที่คุณต้องทำให้นักลงทุนเห็นคือ “ความซื่อสัตย์” สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องแสดงออกมาก่อน เพราะนั่นคือสิ่งจำเป็น นักลงทุนจะยอมทุ่มเงินทุ่มเวลากับคนที่ยอมเสี่ยงกับคนที่เขารู้ว่าเป็นคนตรงไปตรงมา
- ถ้าคุณไม่คลั่งไคล้หลงใหลกับไอเดียของคุณ ก็อย่าหวังให้คนอื่นมาชอบไอเดียของคุณ
คุณต้องแสดงถึงความคลั่งไคล้ สร้างสรรค์และทุ่มเทชีวิตจิตใจให้สิ่งนี้ ถ้าคุณไม่คลั่งไคล้ในบริษัทของคุณ แล้วทำไมคนอื่นจะต้องไปคลั่งไคล้ไปกับมันด้วย? เขาจะเพิ่มเงินเข้าไปในบริษัทของคุณทำไม ถ้าคุณไม่หลงไหลในสิ่งที่คุณทำ
ดังนั้นความซื่อสัตย์และความหลงไหลในสิ่งที่ทำ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
- ไม่มีประสบการณ์ก็กลับบ้านมือเปล่าไปเลย!
“นี่ รู้ไหม ผมเคยทำมันมาแล้วก่อนหน้านี้” บอกนักลงทุนแบบนี้ไปเลย มั่นใจหน่อย ประสบการณ์ของคุณจะสร้างกิจการและเพิ่มมูลค่า และทำบางอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผู้ร่วมลงทุนจะโยนเงินก้อนโตให้กับผู้ประกอบการ เพราะถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำถูกตั้งแต่แรก แต่คุณก็ได้บทเรียนที่จะช่วยให้คุณยืนหยัดได้อย่างมั่นคงต่อไป
โดยเฉพาะประสบการณ์ของการเปิดบริษัท หรือดำเนินการบางอย่าง และไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นธุรกิจ มันอาจจะเป็นองค์กรที่โรงเรียน มันอาจจะเป็นสิ่งไม่หวังผลกำไร แต่คุณต้องต้องมีประสบการณ์ในการสร้างองค์กร
- ไม่ทำการบ้าน หาความรู้ในเรื่องที่ทำ
คุณมีความรู้ในเรื่องที่คุณจะทำหรือเปล่า? ถ้าคุณบอกว่า คุณกำลังจะเป็น นักพัฒนาที่ยอดเยี่ยมในแผนที่ของพันธุกรรมมนุษย์ คุณก็ควรจะรู้ว่าพันธุกรรมมนุษย์คืออะไร คุณต้องเชี่ยวชาญในด้านนั้น นักลงทุนไม่ต้องการคนที่พูดลอยๆ “นี่ ผมมีไอเดียดีๆเกี่ยวกับธุรกิจที่ผมไม่รู้จัก ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคู่แข่ง ผมไม่รู้ว่าตลาดเป็นยังอย่างไร” อย่างนี้ไม่ต้องมาคุย!
ดังนั้นคุณต้องรู้จักตลาดของคุณ คุณต้องรู้ขอบเขตของคุณ
- บริษัทไม่เดินหน้าถ้าขาด “ทักษะ”
คุณต้องมีทักษะที่ต้องใช้เพื่อให้บริษัทไปได้รอด ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางเทคนิค ถ้ามันเป็นธุรกิจไฮเทค ไปจนถึงการตลาดและงานขาย และการบริหาร และอื่นๆที่จำเป็น แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีทักษะเหล่านี้ครบถ้วนในการดำเนินงานของบริษัท
ใครมันจะไปเก่งทุกอย่าง
- บริษัทตายแน่ถ้าขาด “ผู้นำที่ดี”
เพราะฉะนั้นคุณต้องมีความเป็นผู้นำ คุณต้องสามารถที่จะทำให้เราเชื่อได้ว่า คุณได้พัฒนาทีมงาน ที่มีปัจจัยทั้งหมดที่ว่ามาในตัว หรือไม่ก็คุณนั่นแหละที่ทำได้ และคุณมีคุณสมบัติน่าดึงดูดใจ และสไตล์การบริหาร และความสามารถที่จะทำให้คนเหล่านั้นทำตามที่คุณต้องการ สร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นพวกเขาให้เป็นส่วนหนึ่งของทีม
จำไว้ ไม่มีทีม อย่าริอาจทำการใหญ่!
- นักลงทุนไม่ต้องการพวกใจเสาะหนีปัญหาหรอก
จงมุ่งมั่นทำงานของคุณจนจบ และถ้าคุณจะตายขึ้นมานะ จงหายใจเฮือกสุดท้าย จิกพื้นให้แน่นถ้าใครจะลากคุณออกไปจากงาน คุณจะไม่ทำให้เงินของนักลงทุนสูญเปล่า และคุณจะทำเงินของนักลงทุนให้งอกเงยมากขึ้นด้วย
เพราะฉะนั้นนักลงทุนไม่ต้องการพวกใจเสาะเอาแต่หนีปัญหาหรอก เพราะเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นเสมอ ไม่เคยมีบริษัทไหนที่ได้รับทุนจากนักลงทุน แล้วไม่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นนักลงทุนต้องการรู้ว่าคุณจะรับผิดชอบเวลาทำงานจนจบ
- ขาดวิสัยทัศน์ที่ทุกคนในทีมมองเห็นชัดเจนและมีพลัง
คุณต้องมีวิสัยทัศน์ คุณต้องสามารถมองเห็นว่าอะไรจะไปทางไหน นักลงทุนไม่ต้องการของลอกเลียนแบบอีกชิ้น นักลงทุนต้องการคนที่รู้จริง คนที่จะสามารถเปลี่ยนโลกได้ แต่นอกเหนือจากนั้นนักลงทุนต้องการการมองโลกตามความเป็นจริงด้วย เพราะนักลงทุนต้องรู้ว่าคุณรู้ว่า การเปลี่ยนแปลงของโลกนั้นสุดยอดแต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ และก่อนที่คุณจะไปเปลี่ยนโลก เรื่องแย่ๆก็มักจะชอบเข้ามาป่วน และคุณต้องมีการวางแผนที่สมเหตุสมผลพร้อมรับมือด้วย
- ไม่ฟังใครทั้งนั้น
และสุดท้าย คุณกำลังขอเงินนักลงทุน ไม่ใช่เพียงเพราะมันเป็นเงินของเขา คุณต้องเป็นคนว่าง่าย นักลงทุนต้องรู้ว่าคุณมีความสามารถในการฟัง เรามีประสบการณ์มากมาย คนที่เป็นผู้ร่วมลงทุน ที่ให้ทุนกับคุณ มีประสบการณ์ และพวกเขาต้องการที่จะรู้ว่า คุณอยากรับฟังประสบการณ์เหล่านั้นด้วย
โอเค แล้วคุณจะสื่อว่าคุณซื่อสัตย์ คลั่งไคล้ มีความรู้ทักษะประสบการณ์ เป็นผู้นำที่ดีมุ่งมั่นมีวิสัยทัศน์ และว่าง่ายอย่างที่ว่าใน 10 นาที โดยไม่พูดพร่ำเพรื่อได้อย่างไร? คุณคงไม่บอกว่า “นี่ ผมเป็นคนซื่อสัตย์ ลงทุนกับผมนะ!” ใช่ไหม?
เพราะฉะนั้นคิดเสียว่าการนำเสนอของคุณเป็นเส้นเวลา มันเริ่มขึ้นเมื่อคุณเดินเข้ามาทางประตู นักลงทุนเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคุณ แต่คุณสามารถทำให้พวกเขาเคลิ้มได้ด้วยการนำเสนอ ลองเล่นกับอารมณ์บ้างในบางระดับ
และคุณจะพิชิตใจนักลงทุนได้ไม่ยาก
แหล่งที่มา