เกิดอะไรขึ้นกับตลาดรถยนต์

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

“อาจแรงอย่างต่อเนื่องและไม่รู้ว่าจะอ่อนแรงเมื่อไหร่ จะปีหรือสองปี”  เป็นคำตอบที่ได้รับจากผู้บริหารค่ายรถยนต์ใหญ่ในบ้านเรา  กับวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์อเมริกาแล้วเริ่มลุกลามไปทั่วโลก   สำหรับประเทศไทย แม้จะเชื่อว่าเป็นดีทรอยต์ ออฟ เอเชีย แต่ก็ได้รับผลกระทบต่อเนื่องไปด้วย  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ออกมาคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของรถยนต์ในปีหน้าจะชะลอตัว 10-20%

ทำให้ค่ายรถยนต์สัญชาติอเมริกัน หรือค่ายรถยนต์จากแดนอาทิตย์อุทัย ที่ลงหลักปักฐานนประเทศไทยด้วยมูลค่าการลงทุนมหาศาล  ตอนนี้ต้องเร่งปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์ทำให้ผู้บริหารหลายๆ ค่ายบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “เหนื่อยแน่” และยอดขายรถยนต์รวมอาจจะตกลงมาอยู่ที่ 630,000 คัน จากที่ตั้งเป้าไว้ตอนต้นปี 650,000 คัน

Toyota

  • ลดการสั่งซื่อวัตถุดิบเฉลี่ย 20-25% ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2551 – เมษายน 2552
  • ลดเวลาการทำงานของพนักงานในโรงงาน

Ford

  • ลดพนักงานในส่วนสำนักงานออกเมื่อกลางปี ควบคุมสต๊อกที่เหลืออยู่ให้หมดก่อนสิ้นปี
  • ลดงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์
  • เพิ่มกามรจัดอีเวนต์ต่างจังหวัด เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้จากธุรกิจเกษตรกรรม
  • ยอดขายรวม 800 คันต่อเดือน

Isuzu

  • หาตลาดส่งออกใหม่ ทั้งออสเตรีย และยุโรปตะวันออก เพื่อกระจายความเสี่ยง
  • ตั้งเป้ายอดขายปี 2551 อยู่ที่ 150,000 คัน
  • ลดฐานการผลิต พฤศจิกายน 2551 คาดจะผลิตที่ 11,295 ปรับลดครั้งที่ 2   11,130 คัน และครั้งที่ 3 เหลือแค่ 10,995 คัน ลดจากครั้งแรก 2.56%

Honda

  • ตั้งเป้ายอดขายปี 2551 อยู่ที่ 85,000 คัน
  • ยอดขายตั้งแต่ มกราคม-ตุลาคม 72,145 คัน
  • ได้รับผลกระทบจากตลาดออสเตรีย

General Motors

  • ลดฐานการผลิตโดยมีนัยสำคัญ คือ ครั้งแรก พฤศจิกายน 2551 คาดจะผลิตที่ 8,065 คัน ปรับลดครั้งที่ 2 เหลือ 7,218 คัน และครั้งที่ 3 เหลือแค่ 6,350 คัน  ลดจากครั้งแรกถึง 25.80%

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •