ไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบันระบบโลจิสติกส์ก็ยังสำคัญสำหรับการทำธุรกิจอยู่เสมอ หากสินค้าของคุณเป็นของดีมีคุณภาพแต่ระบการจัดส่งหรือขนส่งของคุณมีปัญหา ย่อมส่งผลในทางลบต่อกิจการอย่างแน่นอน
ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า ธุรกิจโลจิสติกส์ไทย ในปี 2559 (ไตรมาส 1) มีมูลค่าอยู่ที่ 350,000 ล้านบาท นับเป็นมูลค่าที่ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ทว่าน่าเสียดายที่พบว่าผู้ประกอบการไทยยังคงขาดการใส่ใจวัดประสิทธิภาพในระบบโลจิสติกส์ โดยพบว่ามีเพียง 17.6% ของผู้ประกอบการเท่านั้นที่มีการตรวจสอบปัญหาในการจัดส่งสินค้า เช่น ปัญหาส่งสินค้าไม่ตรงเวลา ปัญหาความเสียหายในการจัดส่งสินค้า ปัญหาอุบัติเหตุ ซึ่ง 25% พบว่าอุบัติเหตุรถยนต์เกิดกับรถขนส่ง และที่น่าตกใจอย่างยิ่งคือ 90% ของผู้ประกอบการเคยเจอกับปัญหาการลักน้ำมันมาแล้ว เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยกับธุรกิจที่จะต้องพึ่งพาระบบโลจิสติกส์ แต่อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่าให้ความใส่ใจในเรื่องนี้น้อยมาก
หรือมองอีกประเด็นปัญหาที่ใกล้ตัวในรูปแบบอื่นของการขนส่ง ที่ตอนนี้สังคมตื่นตัวกันมากคือ “การรับส่งนักเรียน” ซึ่งแน่นอนว่าเป็นความห่วงใยที่ผู้ปกครองให้ความใส่ใจเป็นอันดับ 1 ต่อการดูแลบุตรหลานเมื่อตัดสินใจเลือกให้รถของโรงเรียนเป็นผู้รับส่งลูกหลานในทุกๆ วัน จากที่เห็นตามข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ยิ่งสร้างความกังวลถึงความไม่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาพฤติกรรมของคนขับ ปัญหาเรื่องความเร็ว ปัญหาที่เด็กอาจจะถูกหลงลืมหรือถูกทิ้งไว้ในรถ เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาในเรื่องการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบขนส่งทั้งสิ้น
แต่ในเมื่อเราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์และแก้ปัญหาเกือบทุกสิ่งได้ โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัย ดังนั้น ผู้ประกอบการชั้นนำมากมายจึงเริ่มหันมาใช้ เทคโนโลยี Smart Transport เข้ามาแก้ปัญหาต่างๆ ของระบบโลจิสติกส์ให้เกิดประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นได้
ระบบ Smart Transport คืออะไร?
เป็นระบบติดตามและตรวจสอบยานพาหนะอัจฉริยะ โดย TrueBusiness ที่ให้เจ้าของกิจการรู้ทุกความเคลื่อนไหวของรถและผู้ขับขี่จากศูนย์ควบคุมรถตลอด 24 ชั่วโมง ที่มีการนำระบบ Telematics และ GPS Tracking เข้ามาช่วยในการติดตาม บริหารผู้ขับรถ รวมถึงยานพาหนะที่ใช้งาน โดยนำระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะมาช่วยประมวลผล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่พนักงานขับรถและยานพาหนะ นอกจากนี้ ยังช่วยบริหารค่าใช้จ่ายให้แก่เจ้าของกิจการด้วย
คุณสมบัติเด่นมีดังนี้
- กำหนดเส้นทางการเดินรถ กำหนดของเขตระยะทางและเส้นทางของรถ และแจ้งเตือนทันทีที่มีการขับออกนอกเส้นทาง หรือเมื่อยานพาหนะมีปัญหา
- ประเมินการขับขี่ บันทึกลักษณะการขับรถของพนักงานขับว่าก่อให้เกิดอันตรายหรือไม่ และนำมาประเมินผลเป็นคะแนนในภายหลังได้
- ตรวจอัตราการใช้เชื้อเพลิง บันทึกการสิ้นเปลืองน้ำมันและแจ้งสภาพเครื่องยนต์
- วิเคราะห์อุบัติเหตุ เมื่อเกิดอุบัติเหตุสามารถวิเคราะห์ข้อมูลการขับขี่และการเฉี่ยวชนจากเซ็นเซอร์ในแต่ละจุดของรถได้
- ป้องกันการขโมย เจ้าของรถสามารถสั่งดับเครื่องยนต์ได้จากทุกที่ผ่าน Smart Drive
- ดูรายงานได้ทุกที่ สามารถตรวจดูรายงานและสั่งการผ่านอุปกรณ์ได้ทุกดีไวซ์ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และพีซี
- ประหยัดคุ้มค่า ประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายเซิร์ฟเวอร์และการดูแลระบบ เพราะเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้บนคลาวด์
ส่วนในเรื่องการประยุกต์ระบบ Smart Transport ให้เข้ากับการรับส่งรถโรงเรียน จะช่วยทำให้ผู้ปกครองเกิดความไว้วางใจในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่นำระบบดังกล่าวไปใช้ว่า มีความใส่ใจในความปลอดภัยและสวัสดิภาพของนักเรียน เป็นโรงเรียนยุคใหม่ที่มีความทันสมัยและมีวิสัยทัศน์ ได้มาตรฐานทั้งการเรียน การสอน และระบบความปลอดภัยนั่นเอง
สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและนักลงทุน
นอกจากที่ผู้ประกอบการที่จะได้รับประโยชน์จากระบบ Smart Transport ข้างต้นแล้ว ในแง่การตลาด ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร ช่วยทำให้องค์กรดูทันสมัย มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้กับธุรกิจ สะท้อนความไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาตัวเอง
ที่สำคัญคือ ยังสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจให้กับลูกค้า นักลงทุน และพาร์ทเนอร์ด้วย ว่ามีการใส่ใจในเรื่องของบริการการขนส่งเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะส่งผลดีในอนาคตต่อการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ หรือการดีลธุรกิจอื่นๆ ต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นจะช่วยส่งเสริมธุรกิจโลจิสติกส์ไทยให้ดีและได้มาตรฐานในระดับสากลมากยิ่งขึ้นด้วย
ทั้งนี้ Smart Transport เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการให้บริการโดย TrueBusiness ที่มีให้แก่ธุรกิจที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้เหนือกว่า สำหรับความพร้อมในการให้บริการของ TrueBusiness นั้น ตอบโจทย์กับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจ SME องค์กรขนาดใหญ่ สถาบันการศึกษา และหน่วยงานรัฐ โดยมีจุดเด่นของการให้บริการที่สำคัญ อาทิ
- Total Business Solutions :ตอบโจทย์ทุกประเภทและทุกขนาดธุรกิจด้วยโซลูชั่นด้านการสื่อสารสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ
- One Stop Service :เป็นผู้นำให้บริการแบบ Convergence โดยนำเสนอทุกบริการในเครือทรูให้กับลูกค้าธุรกิจ โดยลูกค้าคุยกับทรูบิสิเนสในที่ๆ เดียวได้เลย
- Business Call Center : สะดวกสบายด้วยศูนย์ให้คำปรึกษาทางธุรกิจโดยเฉพาะ ที่โทร 02-900-9100 ทุกวันทำการ
- Professional Consultant : เชื่อถือได้ด้วยทีมที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อธุรกิจกว่า 200 ท่าน
ดังนั้น หากคุณต้องการพาร์ทเนอร์มืออาชีพที่เข้าใจ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และช่วยหา Solutions ดีๆ ให้กับธุรกิจเพื่อร่วมสร้างความสำเร็จไปพร้อมกับธุรกิจของคุณ ลองเข้ามาหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://truebusiness.truecorp.co.th เพราะ #TrueBusiness #Leap forward together #เคียงข้างสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน