[ข่าวประชาสัมพันธ์]
ด้วยความเป็นตัวตนของวังขนายที่เป็น “น้ำตาลที่ไม่เหมือนใคร” เวลาจะทำอะไรแต่ละครั้งจึงไม่ธรรมดา ซึ่งหากใครยังจำแอนิเมชัน “ตัวประหลาด” จากในอดีต หรือจะเป็นบิลบอร์ด “เค้าคือใคร” จนมาถึง “ไร้สารเคมี” เหล่านี้ได้ แคมเปญเหล่านี้ล้วนแล้วแต่แสดงตัวตนของวังขนายให้ใครๆ รับรู้ว่า “วังขนายไม่เหมือนใคร”
กลางสัปดาห์ที่แล้ว ในการแข่งขันฟุตบอลนัดอุ่นเครื่องของ บาเยิร์น มิวนิค กับ แมนซิตี้ ที่สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า ได้ปรากฎแผ่นป้าย “เชื่อเถอะประเทศไทยไปได้” พร้อมทั้งโลโก้น้ำตาลวังขนายปรากฎอยู่ที่ขอบสนาม ซึ่งได้สร้างความแปลกใจให้กับแฟนบอลชาวไทยเป็นอย่างมากจนทำให้เกิดกระแสไวรัลและคำถามในหมู่คนไทยที่ได้ชมการแข่งขันว่า เชื่อเถอะประเทศไทยไปได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร แล้วที่ว่าไปได้คือไปไหน?
จากกระแสไวรัลดังกล่าวได้มีทั้งแฟนบอลและคนไทยส่วนหนึ่งออกมาตั้งคำถามและแสดงความคิดเห็นกันต่างๆนาๆ ว่าข้อความในแคมเปญนั้นทางวังขนายต้องการจะสื่อถึงอะไรกันแน่ บ้างก็คาดว่าเป็นการสื่อถึงการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบันใช่หรือไม่ หรือบ้างก็คิดว่าเป็นการสื่อถึงศักยภาพของฟุตบอลไทยที่จะไปบอลโลกหรือเปล่า หรือมีแม้กระทั่งว่าเป็นความต้องการที่จะสนับสนุนน้ำตาลไทยไปน้ำตาลโลก นอกจากนี้บางสำนักข่าวยังตีความว่า ทางวังขนายต้องการให้คนไทยเชื่อมั่นกับระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองไทย ใช้ของไทย และให้คำมั่นว่าคนไทยจะผ่านพ้นช่วงเศรษฐกิจขาลงนี้ไปด้วยกัน
สุดท้ายผู้บริหารทางวังขนาย ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่ต้องการจะสื่อสารไปถึงคนไทยทั่วโลกที่ได้ชมการแข่งขันในนัดนี้ว่า อยากให้ทุกคนมั่นใจในศักยภาพของคนไทยและประเทศไทย โดยเราจะร่วมฝ่าวิกฤติต่างๆ ไปด้วยกัน ทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้ชาวต่างชาติมีความเชื่อมั่นในประเทศไทยของเราด้วยว่า ประเทศไทยยังมีศักยภาพที่พร้อมจะพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง
นับว่าแคมเปญนี้เป็นอีกหนึ่งแคมเปญสนุกๆ จากค่ายน้ำตาลที่ไม่เหมือนใคร ที่เรียกร้องความสนใจให้กับผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในแง่ของการชี้ชวนให้ผู้พบเห็นรู้สึกร่วมและตั้งคำถามไปพร้อมๆกัน ทั้งยังรวมไปถึงการเปิดให้ผู้บริโภคมีความอิสระในการตีความได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
[ข่าวประชาสัมพันธ์]