ยุคนี้คงไม่ต้องบอกแล้วว่านี้คือยุคของ Content อย่างแท้จริง ซึ่งกระแสการมาของ Content นี้เองที่ทำให้นักการตลาดและแบรนด์ต่าง ๆ ต้องทำ Content Marketing และแข่งขันกันอย่างมาก ซึ่งในบทความก่อนหน้านั้นผมได้มาเล่าถึงเทรนด์ที่แบรนด์นั้นทำ Content จนกลายเป็น Publisher เอง มาในวันนี้ผมจะมาเล่าว่าแบรนด์ยุคนี้ต้องใส่ใจในเรื่องการทำ Content มากขึ้นไปอีก ไม่งั้นธุรกิจนั้นอาจจะล้มเหลวได้
ตอนนี้ธุรกิจหลากหลายนั้นต่างเร่งแข่งขันกันในการทำ Content และการทำ Digital Transformation กัน เพื่อที่จะให้อยู่รอดในธุรกิจ หรือกลายมาเป็นผู้นำในตลาดได้ พร้อมที่จะตามเรื่องเทคโนโลยีให้ทัน ซึ่งในเรื่องการทำ Content นี้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในวิธีการทำ Content ไปอย่างมากมาย รูปแบบการทำ Content ใหม่ ที่มาแทนที่รูปแบบเก่า ๆ พร้อมทั้งความคิดในการทำ Content เพื่อเติมเต็มช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือนักการตลาดหรือคนทำ Content. นั้นสนใจว่าทุกช่องทางจะมี Content แต่ลืมเรื่องพื้นฐานไปว่า Content นั้นควรจะเป็นอะไร และองค์กรจะบริหารจัดสรรทรัพยากรที่มีอย่างไร เพื่อจะทำงานในเรื่อง Content ได้ดีขึ้น ตอนนี้การตลาดกลับไปสู่ยุคที่ไม่มีการแยกออนไลน์และออฟไลน์อีกต่อไป นักการตลาดสร้างกลยุทธ์ที่จะสื่อสารในช่องทางต่าง ๆ และเชื่อมโยงกลยุทธ์นั้นเข้าด้วยกัน แต่ด้วยกระแสที่มีสื่อใหม่ ๆ เกิดขึ้นมามากมาย และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้นักการตลาดต้องหาทางเชื่อมกับผู้บริโภคเหล่านี้ในช่องทางใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้แบรนด์นั้นเติบโตอย่างยั่งยืนและมีรายได้ที่เติบโตขึ้น แม้ว่าจะมีตัวเลือกมากึ้นในการเชื่อมต่อผู้บริโภค แต่การไปโฟกัสที่ช่องทางใหม่ ๆ นั้นและทุ่มงบประมาณลงไปเพื่อจับกระแสอย่างไม่ได้คิดนั้นอาจจะทำให้แบรนด์นั้นสูญเสียหรือล้มเหลวก็เป็นได้
ยิ่งตอนนี้ธุรกิจในสมัยนี้ โดยเฉพาะ SME นั้นที่มีทรัพยากรและงบประมาณจำกัดนั้น จะทำการตลาดอย่างไรในช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายเหล่านี้ นอกจากนี้ยังเกิดการเปลี่ยนแปลงใน Platform Content ต่าง ๆ อย่างมากมาย เช่น Facebook จากที่ Social platform ที่ให้แบรนด์นั้นเชื่อมต่อผู้บริโภคได้ผ่าน Content ที่โพสผ่าน Social นี้ แต่ในตอนนี้ Facebook สำหรับแบรนด์นั้นกลับกลายเป็น Platform โฆษณาแทน ซึ่งทำให้นักการตลาดต้องหันกลับมาคิดใหม่ว่าจะใช้วิธีการใดที่จะเชื่อมต่อผู้บริโภคด้วย Content เพื่อที่จะทำให้ผลของการตลาดนั้นบรรลุเป้าหมายได้สูงสุด
ทั้งนี้การไล่ตามช่องทางและการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ นั้นเปรียบได้กับเกมวิ่งไล่จับโดยไม่รู้กฏเกณฑ์ ซึ่งยังไงก็ไม่มีทางเล่นเกมนี้ได้ชนะ เพราะฉะนั้นวิธีการที่จะเอาชนะเกมนี้ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพื้นฐานในกฏเกณ์เหล่านั้นที่จะทำให้ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่พื้นฐานการทำจะไม่เปลี่ยนแปลง
- ศึกษากลุ่มเป้าหมายให้ชัด และเรียนรู้กลุ่มเป้าหมายว่าเรารู้อะไรบ้าง : การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายผ่านไม่ว่าจะทั้งข้อมูลและ insight ต่าง ๆ เพื่อที่จะใช้เป็นส่วนสำคัญในการชี้ทางที่จะต้องทำการสื่อสารออกไป ซึ่งในยุคนี้ส่วนสำคัญที่ต้องเข้าใจในกลุ่มเป้าหมายคือ ทัศนคติ ไลฟสไตล์ การบริโภคในทางออนไลน์และออฟไลน์ วัฒนธรรมที่ชอบ และแนวความคิด ความสนใจที่แชร์กันข้ามอายุ
- มีแผนการในการทำ : จากจุดที่รู้เรื่องความเข้าใจของกลุ่มเป้าหมายและสิ่งที่ต้องการจะสื่อสารนี้ จุดเริ่มต้นนี้จะกระจายเนื้อหาและสร้างเนื้อหาในประเด็นที่ต้องการสื่อสารนี้เข้าไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างไรต่อไป รวมทั้งรูปแบบของเนื้อหาที่จะไปอยู่ในช่องทางต่าง ๆ ด้วยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
- สร้าง Own Media ของตัวเอง : การฝากความหวังในของเนื้อหาไปยังสื่ออื่น ๆ ที่ไม่ใช่ของตัวเองนั้นเป็นเรื่องไม่แน่นอน แต่การสร้างสื่อของตัวเองนั้นเป็นอะไรที่มีความมั่นคงมากกว่า เพราะฉะนั้นการสร้าง Own Media ของตัวเองให้ดีนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ไม่ว่าจะเว็บไซต์ อีเมล์ หรือการทำออฟไลน์ สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าต่อผู้บริโภคในช่องทางตัวเอง เพื่อสร้างการปฏิสัมพันธ์เข้ามา
- Content. นั้นคือส่วนสำคัญ : Content ที่ดีนั้นไม่ใช่แค่จากการเข้าใจผู้บริโภคอย่างถ่องแท้ แต่เกิดจากการทำงาน Content นั้นให้เกิดความ Craft หรือปราณีตอย่างมาก ทุกคนนั้นสามารถทำ Content ได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำให้ Content นั้น Craft ได้ ซึ่งความ Craft นั้นคือการสร้าง Content นั้นให้สามารถมีความเกี่ยวข้องกับผู้บริโภค สร้างปฏิสัมพันธ์ และทำให้เกิดคุณค่าที่ผู้บริโภคแขร์ออกไป หรือสร้างให้เกิดการกระตุ้นที่จะให้เกิดการบริโภคเกิดขึ้น
- บูรณาการไม่ใช่ส่งต่อ : การทำงานที่ทำให้เกิดผลที่ดีที่สุดนั้นคือการทำงานร่วมกันในการคิดงานตั้งแต่ต้น โดยเอา Content นั้นเป็นหัวใจว่าแต่ละช่องทางจะสื่อสารและเชื่อมโยงกันอย่างไรเป็นภาพใหญ่ ทุกคนร่วมคิดและส่งเสริมกันว่าแต่ละช่องทางจะสามารถมาต่อยอดหรือสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ได้
- วัดผลให้ถูก : หลาย ๆ ครั้งนั้นต้องเป้าหมายอย่าง และไปวัดผลอีกอย่าง ทำให้สิ่งที่ทำไปไม่ถูกทาง และแต่คนก็มีมาตรวัดในใจที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นต้องตั้งมาตรวัดตัวเองให้ถูกจุดก่อน เพื่อที่จะวัดผลสำเร็จในการทำงานได้ถูกต้อง เช่นอาจจะมีการวัดผลในระยะสั้น หรือระยะยาว เพื่อที่จะเห็นผลการทำงานได้อย่างแน่ชัด
ทั้งนี้ channel หรือเทคโนโลยีนั้นมาแล้วไป แต่พื้นฐานหรือการทำการสื่อสารด้วยเนื้อหานั้นเป็นสิ่งไม่เปลี่ยนแปลงไป การจับและโฟกัสในการทำ Content เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจนั้นสามารถประสบความสำเร็จได้ในการเปลี่ยนแปลงของยุคนี้