ในอดีตที่วิถีการทำธุรกิจไม่ยุ่งยากซับซ้อนเหมือนตอนนี้ แค่มีความเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งก็ประสบความสำเร็จได้ แต่วันนี้ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดของตลาด นับเป็นความท้าทายอย่างมากในการรักษาฐานลูกค้าเก่า และขยายฐานลูกค้าใหม่ ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ ต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ ไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจไหนก็ตาม
ไม่เว้นแม้แต่ “โตชิบา” ผู้นำตลาดตู้เย็นในไทยมาช้านาน เป็นอีกแบรนด์ที่ต้องปรับตัว และเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งในแง่ของงานดีไซน์ การจัดสรรพื้นที่ภายใน รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ โดยโตชิบาได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาผสานรวมกับผลิตภัณฑ์เพื่อดึงดูดความสนใจ และตอบโจทย์ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่
หนึ่งในความได้เปรียบของโตชิบาคือ การทำตลาดในไทยมานาน ทำให้โตชิบารู้จักและเข้าใจความต้องการของคนไทยเป็นอย่างดี และในทุกๆ ปีจะมีตู้เย็นรุ่นใหม่ถูกส่งออกสู่ตลาดเสมอ
ต้นปีที่ผ่านมา โตชิบา ประสบความสำเร็จกับการเปิดตัวตู้เย็นประตูเดียว Plus ที่มียอดขายถล่มทลาย และในวันนี้โตชิบาต่อยอดความสำเร็จด้วยการเปิดตัว ตู้เย็น 2 ประตู อินเวิร์ทเตอร์รุ่นใหม่เจาะกลุ่มครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ที่กำลังมองหาตู้เย็นไซส์ 12 คิวขึ้นไป
เพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยงานดีไซน์
อย่างที่ทราบกันว่า ทุกวันนี้ตู้เย็นไม่ใช่แค่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีไว้ประจำบ้านเท่านั้น แต่ตู้เย็นยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เสริมให้บ้านดูลงตัวขึ้น โตชิบา จึงดีไซน์ตู้เย็นรุ่นใหม่ให้มีความหรูหราและทันสมัย โดยมีหน้าบานเป็นกระจก และสตีลให้เลือกหลากสีหลายดีไซน์ รวมถึงพัฒนาคอมเพรสเซอร์เป็นระบบอินเวิร์ทเตอร์ที่จะช่วยประหยัดค่าไฟ ทำงานเงียบ ให้ความเย็นสม่ำเสมอ และรักษาคุณภาพอาหารได้ดี
จัดสรรพื้นที่การใช้งานให้กว้างขึ้น รองรับการใช้งานทั้งครอบครัว
เมื่อทุกแบรนด์ชูจุดเด่นเรื่องช่องแช่ผัก งานนี้โตชิบาได้ฉีกออกมาเล่นเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งาน ด้วยการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคที่ต้องการเก็บผักผลไม้กับ 2 ทางเลือกคือ โหมดเพิ่มความเย็น และโหมดรักษาความชุ่มชื้น พร้อมพื้นที่การใช้งานที่กว้างขึ้น บรรจุผักผลไม้ได้ถึง 53 ลิตร หรือประมาณ 3 ตะกร้า ในส่วนของช่องแช่เย็นใต้ช่องฟรีซ แช่น้ำได้สูงสุดถึง 44 กระป๋อง (ความจุแตกต่างกันในแต่ละรุ่น) ตอบสนองการใช้งานของครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่อย่างแท้จริง
คงไม่ใช่เรื่องแปลกแล้ว ถ้าแต่ละบ้านจะมีตู้เย็น 2 หลัง เพื่อแยกแช่อาหารสด และน้ำดื่ม แต่สำหรับบางบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ตู้เย็นหลังเดียวต้องครอบคลุมทุกการใช้งาน เรื่องกลิ่น จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งการแช่อาหารสด น้ำดื่มแบบขวดและแบบกระป๋อง เพื่อไม่ให้กลิ่นอาหารติดกับของอย่างอื่น โตชิบาจึงได้พัฒนาระบบ Hybrid Bio Deodorizer และ LED Hybrid Deodorizer (แตกต่างกันในแต่ละรุ่น) ที่จะช่วยสลายกลิ่นอาหาร ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียรักษาคุณภาพให้อาหารสดนานยิ่งขึ้น และมีระบบกำจัดกลิ่น 2 ตัว แยกกันระหว่างช่องฟรีซชั้นบน และช่องแช่เย็นชั้นล่าง
จากการเปิดตัวในครั้งนี้ โตชิบา ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นแบรนด์ที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาสินค้าให้ทันสมัย และตอบสนองพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ภายใต้ความใส่ใจนี้ ทำให้โตชิบาได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมาตลอด สมกับความเป็นผู้นำตลาดตู้เย็นอินเวอร์เตอร์ตัวจริง
ติดตามข้อมูลอื่นๆ ได้ที่ www.toshiba.co.th หรือสอบถามได้ทาง www.facebook.com/ToshibaSociety